ดูเหมือนว่าแม้จะเจอวิกฤต COVID-19 ก็ยังไม่หนักเท่า อัตราดอกเบี้ย ที่สูงขึ้น ส่งผลให้จำนวนบริษัทในสหรัฐฯ ที่ยื่น ล้มละลาย ในปี 2024 พุ่งสูงสุดในรอบ 14 ปี เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น
จากข้อมูลโดย S&P Global Market Intelligence พบว่า ในเดือนธันวาคม 2024 ที่ผ่านมา มีบริษัทสหรัฐฯ ที่ยื่นล้มละลาย 61 บริษัท ส่งผลให้ยอดรวมทั้งปีอยู่ที่ 694 บริษัท ซึ่งถือเป็นปีที่มีจำนวน บริษัทสหรัฐฯ ล้มละลายมากที่สุดในรอบ 14 ปี
โดยปีที่มีการล้มละลายมากเป็นอันดับ 2 คือปี 2020 ล้มละลาย 638 บริษัท ซึ่งทำสถิติสูงสุดในรอบ 10 ปี อันเป็นผลจาก COVID-19 ตามด้วยปี 2023 ที่มีบริษัทสหรัฐฯ ล้มละลาย 635 บริษัท
ปัจจัยที่ทำให้ตัวเลขบริษัทล้มละลายพุ่งสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2020 เป็นผลพวงของภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งใหญ่ โดยธุรกิจต่าง ๆ ยังคงเผชิญกับแรงกดดันจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น แม้ว่าธนาคารกลางสหรัฐเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานจากระดับสูงสุดในรอบ 20 ปี ก็ตาม แต่คาดว่า การผ่อนคลายทางการเงินของธนาคารกลางอาจชะลอตัวลงในปี 2025 นี้
สำหรับการล้มละลายครั้งใหญ่ที่สุดในเดือนธันวาคม 2024 ได้รับการประกาศโดย Party City Holdco Inc. และ China Construction America Inc. โดยทั้ง 2 บริษัทมีหนี้สินมากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ โดยบริษัท Party City Holdco Inc. ที่ทำธุรกิจค้าปลีกกำลังอยู่ในขั้นตอนการปิดกิจการซึ่งประกอบด้วยร้านค้าประมาณ 700 แห่งในสหรัฐอเมริกา
สำหรับกลุ่มธุรกิจที่ล้มละลายมากที่สุดคือ กลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย (Consumer Discretionary) โดยมีการยื่นล้มละลายทั้งหมด 108 บริษัท เนื่องจากผู้บริโภคระมัดระวังการใช้จ่ายเนื่องจากปัญหาเงินเฟ้อ ตามด้วยกลุ่ม อุตสาหกรรม 88 บริษัท และธุรกิจด้านการดูแลสุขภาพ 65 บริษัท