ปัจจุบันเทรนด์การทำงานรูปแบบ Work From Anywhere ตลอดจน การทำงานแบบไฮบริด ไม่ได้เข้าออฟฟิศทุกวัน ส่งผลกระทบต่อธุรกิจอาคารสำนักงานให้เช่า (ออฟฟิศ) ลากยาวตั้งแต่ช่วงโควิด!
ออฟฟิศให้เช่า Oversupply สูง 2 ล้านตร.ม.
SCB EIC เปิดเผยว่า ซัพพลายออฟฟิศให้เช่าใหม่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยปี 2568 คาดมีพื้นที่รวม 10.4 ล้านตร.ม. จากปี 2567 มีพื้นที่ 10.1 ล้านตร.ม.
ทว่าธุรกิจออฟฟิศให้เช่าได้รับผลกระทบจากการปิดกิจการของบริษัทในช่วงโควิด และรูปแบบการทำงาน Hybrid workplace หรือการสลับเข้าทำงานที่ออฟฟิศ และจากที่ไหนก็ได้
ส่งผลให้ความต้องการเช่าพื้นที่ออฟฟิศใน กทม. และปริมณฑล ปี 2566 ลดลงมาเหลือ 8.0 ล้านตร.ม. จากปี 2563 อยู่ที่ 8.4 ล้านตร.ม.
“อุปทานใหม่เพิ่มปีละ 1% แต่พื้นที่สำนักงานที่เช่าได้หดตัวปีละ 1.5% ทำให้ออฟฟิศให้เช่า Oversupply สูงถึง 1.5-2 ล้านตร.ม. กดดันอัตราค่าเช่า หดตัวลง 6%“
ออฟฟิศให้เช่าฟื้นตัวเล็กน้อย 1-2% จากบริษัทต่างชาติ
ประเมินว่า ปี 2567 – 2568 ออฟฟิศให้เช่าในกรุงเทพฯ และปริมณฑล จะฟื้นตัวประมาณ 1-2% ต่อปี มาอยู่ที่ 8.1-8.3 ล้านตร.ม. จากที่ในปี 2566 เหลือ 8.0 ล้านตร.ม. หดตัว 4% (YoY)
โดยคาดว่าความต้องการพื้นที่ใหม่จะมาจากบริษัทต่างชาติขนาดใหญ่ทยอยกลับมาลงทุน แต่ยังต้องเผชิญความดุเดือดจากการแข่งขันในภูมิภาคอาเซียน
ซึ่งตัวเลขการลงทุนโดยตรงจากต่างชาติ (FDI) ในไทย ระหว่างปี 2564-2566 เฉลี่ยอยู่ที่ 3.4 หมื่นล้านบาท/ปี ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย FDI ในอินโดนีเซีย มาเลเซีย และเวียดนาม ที่อยู่ประมาณ 4.3-6.8 หมื่นล้านบาท/ปี
ผู้ประกอบการพัฒนาอย่างระวัง เลี่ยงจุดแข่งเดือด
กลยุทธ์ที่ผู้ประกอบการรายใหญ่ในตลาดพื้นที่สำนักงานให้เช่า และพื้นที่ค้าปลีกให้เช่าควรเน้นให้ความสำคัญในระยะข้างหน้า ได้แก่
1.พัฒนาโครงการใหม่อย่างระมัดระวัง
หลีกเลี่ยงการพัฒนาโครงการในทำเลที่มีการแข่งขันรุนแรง หรือทำเลที่มีสถานการณ์ Oversupply รุนแรง เช่น
- พื้นที่ใจกลางเมือง
- พื้นที่สุขุมวิทตอนกลาง-ตอนปลาย
- พื้นที่รัชดาฯ-ลาดพร้าว
โดยเฉพาะโครงการพื้นที่สำนักงานให้เช่า รวมถึงโครงการ Mixed-use หรือ โครงการขนาดใหญ่ ที่มีสัดส่วนของพื้นที่สำนักงานให้เช่าสูง ที่ต้องให้ความระมัดระวังมากเป็นพิเศษ
2.สร้างความแตกต่าง และยกระดับคุณภาพของพื้นที่ หรือโครงการ เช่น เพิ่มความหลากหลายของประเภท ผู้เช่า หรือรูปแบบของพื้นที่เช่าในโครงการ ปรับปรุงพื้นที่ และการให้บริการ
3.บริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะต้นทุนการพัฒนาโครงการ
4.ให้ความสำคัญกับเทรนด์ ESG โดยเฉพาะด้านสิ่งแวดล้อม เช่น การพัฒนาโครงการที่ได้รับการรับรองมาตรฐานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน