บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ จำกัด (แอลจี) ประกาศผลประกอบการประจำปี 2567 โดยมีรายได้รวม 87.73 ล้านล้านวอน (หรือประมาณ 2.07 ล้านล้านบาท) และกำไรจากการดำเนินงาน 3.42 ล้านล้านวอน (หรือประมาณ 8.07 หมื่นล้านบาท) ซึ่งนับเป็นการสร้างสถิติรายได้ประจำปีสูงสุดในประวัติศาสตร์ของบริษัท
กลุ่มธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านและชิ้นส่วนยานยนต์ยังคงเติบโตต่อเนื่องเป็นปีที่ 9 ซึ่งมีส่วนสำคัญในการสร้างรายได้สูงสุดครั้งใหม่ของบริษัทฯ นอกจากนี้ กลุ่มธุรกิจโฮมเอ็นเตอร์เทนเมนต์และกลุ่มธุรกิจโซลูชันสำหรับองค์กรก็มีรายได้เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
ด้านกำไรจากการดำเนินงานปรับตัวลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปีก่อน โดยมีสาเหตุหลักจากปัจจัยภายนอก อาทิ ความต้องการเครื่องใช้ไฟฟ้าในตลาดโลกฟื้นตัวล่าช้า และต้นทุนด้านโลจิสติกส์ที่เพิ่มสูงขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงรักษาโครงสร้างผลกำไรให้เติบโตอย่างมีเสถียรภาพ จากการปรับโครงสร้างพอร์ตโฟลิโอทางธุรกิจ และการดำเนินงานที่เป็นผลจากยอดขายที่เติบโตขึ้น
สรุปผลประกอบการทางธุรกิจปี 2567
กลุ่มธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านและเครื่องปรับอากาศของแอลจี รายงานรายได้ในปี 2567 ที่ 33.2 ล้านล้านวอน (หรือประมาณ 7.84 แสนล้านบาท) โดยหลังจากที่สามารถทำรายได้ทะลุ 30 ล้านล้านวอน (หรือประมาณ 7.08 แสนล้านบาท) เป็นครั้งแรกเมื่อสองปีก่อน บริษัทยังคงรักษาผลการดำเนินงานที่ยั่งยืน โดยมีรายได้ที่เติบโตในระดับ Double-Digit ในปีที่ผ่านมา สำหรับกำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 2.04 ล้านล้านวอน (หรือประมาณ 4.81 หมื่นล้านบาท) แม้ต้องเผชิญความท้าทายจากต้นทุนด้านโลจิสติกส์ที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งนับเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2564 ที่บริษัทสามารถทำกำไรจากการดำเนินงานได้สูงกว่า 2 ล้านล้านวอน (หรือประมาณ 4.72 หมื่นล้านบาท)
การเติบโตเชิงคุณภาพของบริษัทมาจากการปรับเปลี่ยนโมเดลทางธุรกิจ ซึ่งรวมถึงธุรกิจบอกรับสมาชิก (LG Subscribe) เครื่องใช้ไฟฟ้า และการขายตรงถึงผู้บริโภค โดยรายได้จากธุรกิจบอกรับสมาชิกพุ่งสูงขึ้นกว่า 75 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับปีก่อน ใกล้แตะระดับ 2 ล้านล้านวอน (หรือประมาณ 4.72 หมื่นล้านบาท) นอกจากนี้ ธุรกิจ B2B ซึ่งรวมถึงระบบทำความร้อน ระบบระบายอากาศ และระบบปรับอากาศ (HVAC) ก็ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
กลุ่มธุรกิจโฮมเอ็นเตอร์เทนเมนต์ของแอลจี รายงานรายได้ในปี 2567 ที่ 15.23 ล้านล้านวอน (หรือประมาณ 3.59 แสนล้านบาท) และกำไรจากการดำเนินงาน 315.9 พันล้านวอน (หรือประมาณ 7.45 พันล้านบาท) โดยยอดขายทีวี OLED เติบโตในภูมิภาคต่างๆ อาทิ ยุโรปและเอเชีย จากแรงหนุนของการจัดการแข่งขันกีฬาระดับโลก นอกจากนี้ ธุรกิจโฆษณาและคอนเทนต์บนแพลตฟอร์ม webOS สามารถสร้างรายได้ทะลุ 1 ล้านล้านวอน (หรือประมาณ 2.36 หมื่นล้านบาท) เป็นครั้งแรก
กลุ่มธุรกิจชิ้นส่วนยานยนต์ของแอลจี รายงานรายได้ในปี 2567 ที่ 10.62 ล้านล้านวอน (หรือประมาณ 2.51 แสนล้านบาท) นับเป็นปีที่สองติดต่อกันที่สามารถทำรายได้สูงกว่า 10 ล้านล้านวอน (หรือประมาณ 2.36 แสนล้านบาท) แม้จะเผชิญกับการชะลอตัวชั่วคราวของความต้องการรถยนต์ไฟฟ้า บริษัทยังคงรักษาการเติบโตของรายได้อย่างมั่นคงเป็นปีที่ 9 ติดต่อกัน โดยได้รับแรงหนุนจากคำสั่งซื้อคงค้างเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม กำไรจากการดำเนินงานลดลงเหลือ 115.7 พันล้านวอน (หรือประมาณ 2.73 พันล้านบาท) เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยมีสาเหตุหลักจากต้นทุนการพัฒนาโครงการใหม่ที่เพิ่มขึ้น และการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาเพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านสู่ยานยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยซอฟต์แวร์ (SDV)
แม้เผชิญกับความท้าทายจากต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้นและการแข่งขันที่รุนแรง ส่งผลกระทบต่อรายได้จำนวน 193.1 พันล้านวอน (หรือประมาณ 4.56 พันล้านบาท) แต่กลุ่มธุรกิจโซลูชันสำหรับองค์กรยังคงสร้างรายได้อยู่ที่ 5.69 ล้านล้านวอน (หรือประมาณ 1.34 แสนล้านบาท) ในปี 2567 โดยได้รับแรงหนุนจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับผลิตภัณฑ์จอแสดงผลเชิงพาณิชย์ที่ปรับแต่งได้ ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะของธุรกิจหลากหลายประเภท เช่น โรงแรม ร้านค้า และโรงเรียน รวมถึงผลิตภัณฑ์ไอทีระดับพรีเมียมอย่างคอมพิวเตอร์แล็ปท็อป LG gram ปัจจุบันกลุ่มธุรกิจนี้อยู่ระหว่างการปรับกลยุทธ์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน และมุ่งมั่นที่จะสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต
ทิศทางธุรกิจสำหรับปี 2568
แอลจียังคงมุ่งมั่นสร้างการเติบโตในเชิงคุณภาพอย่างต่อเนื่องผ่านการปรับเปลี่ยนพอร์ตโฟลิโอทางธุรกิจ แม้จะเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของตลาดโลกและสภาพแวดล้อมที่มีการแข่งขันสูงก็ตาม หลังจากมีการจัดกลุ่มหน่วยธุรกิจของบริษัทใหม่เมื่อปลายปีที่ผ่านมา แอลจีมุ่งมั่นที่จะยกระดับการผนึกกำลังระหว่างธุรกิจต่างๆ และพัฒนาประสิทธิภาพการดำเนินงานให้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ แอลจียังให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันขั้นพื้นฐานของธุรกิจทั้งในด้านคุณภาพและต้นทุน พร้อมทั้งรักษาโครงสร้างผลกำไรที่มั่นคง
บริษัทโซลูชันเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน (HS) วางแผนเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะในแต่ละภูมิภาคพร้อมการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี AI โดยมุ่งขยายยอดขายผ่านการเพิ่มยอดจำหน่ายในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีปริมาณการขายสูง นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะพัฒนาธุรกิจโซลูชันบ้านอัจฉริยะด้วย AI เพื่อบรรลุเป้าหมาย “Zero Labor Home, Makes Quality Time” หรือ “ความสะดวกสบายภายในบ้าน เพื่อช่วงเวลาดีๆ” ของบริษัท ไม่เพียงเท่านี้ ธุรกิจบอกรับสมาชิกจะเร่งขยายธุรกิจออกไปยังประเทศไทย อินเดีย และภูมิภาคอื่นๆ เพื่อสร้างโอกาสใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง
บริษัทโซลูชันด้านสื่อและความบันเทิง (MS) ตั้งเป้าขยายยอดขายผลิตภัณฑ์ในกลุ่มพรีเมียม เช่น OLED และ QNED พร้อมมอบประสบการณ์ที่แตกต่างให้กับลูกค้าผ่านฟีเจอร์ AI โดยบริษัทเริ่มบูรณาการการดำเนินงานของธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับจอแสดงผลของแอลจี ทั้งโทรทัศน์ อุปกรณ์ไอที และจอแสดงผลเชิงพาณิชย์ เพื่อเสริมสร้างการผนึกกำลังระหว่างธุรกิจด้านฮาร์ดแวร์และแพลตฟอร์มของบริษัท นอกจากนี้ ระบบปฏิบัติการ webOS จะพัฒนาไปเป็นแพลตฟอร์มคอนเทนต์และบริการแบบครบวงจรสำหรับการใช้งานทั้งภายในและภายนอกอาคาร ผ่านการลงทุนด้านคอนเทนต์และการขยายความร่วมมือกับพันธมิตรอย่างต่อเนื่อง
บริษัทโซลูชันยานยนต์ (VS) จะมุ่งเน้นไปที่การก้าวข้ามการเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไปสู่การเป็นผู้ให้บริการโซลูชันนวัตกรรมสำหรับประสบการณ์การใช้งานยานยนต์อย่างครบวงจร บริษัทจะมุ่งเน้นการพัฒนาขีดความสามารถด้านยานยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยซอฟต์แวร์ (SDV) เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับอนาคต รวมถึงการรักษาระดับรายได้จากคำสั่งซื้อที่มีอยู่ พร้อมกับพัฒนาความสามารถในการทำกำไรผ่านการผสมผสานผลิตภัณฑ์และปรับปรุงการดำเนินงานโดยรวม
ด้าน บริษัทโซลูชันเพื่อสิ่งแวดล้อม (ES) ที่จัดตั้งขึ้นมาใหม่ จะเน้นไปที่การผลักดันธุรกิจระบบทำความร้อน ปรับอากาศและระบายอากาศ (HVAC) ของแอลจีให้เติบโตสู่การเป็นผู้เล่นแถวหน้าในระดับโลกอย่างรวดเร็ว โดยอาศัยความสามารถในการแข่งขันในด้านเทคโนโลยีหลักในส่วนประกอบสำคัญต่างๆ เช่น มอเตอร์และคอมเพรสเซอร์ รวมถึงการสร้างระบบการผลิตที่พึ่งพาตนเองได้ในแต่ละพื้นที่ และการพัฒนาโซลูชันที่ตอบโจทย์เฉพาะในแต่ละภูมิภาค โดยจะนำเสนอโซลูชันแบบครบวงจรที่เหมาะสมกับพื้นที่หลากหลายประเภท ทั้งอาคารอุตสาหกรรม อาคารพาณิชย์ หน่วยงานภาครัฐ และที่พักอาศัย ครอบคลุมตั้งแต่เครื่องทำความเย็นขนาดใหญ่ไปจนถึงเครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์และเครื่องปรับอากาศสำหรับที่พักอาศัย