“เทรนด์มีลูกเมื่อพร้อม” ทำทั่วโลกมีลูกช้าลง-ยากขึ้น หนุนธุรกิจรักษาผู้มีบุตรยากในไทยเฟื่องฟู ยอมจ่ายหนัก 3-5 แสนบาท/ครั้ง ทำเด็กหลอดแก้ว
ที่ผ่านมา อัตราการเจริญพันธุ์ทั่วโลกมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง จากในปี 2513 ที่ผู้หญิง 1 คนมีบุตรจำนวน 4.8 คน เหลือเพียง 2.2 คน ในปี 2568 (อ้างอิงข้อมูลจาก UN)
ขณะที่ค่านิยมในการมีบุตรที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้คู่สมรสทั่วโลกมีบุตรช้าลง สะท้อนจากอายุเฉลี่ยในการคลอดบุตรคนแรกทยอยปรับเพิ่มขึ้นจนปัจจุบันอยู่ที่ราว 28 ปี
กรภัส อัจฉริยมานีกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เจเนซีส เฟอร์ทิลีตี เซ็นเตอร์ หรือ GFC กล่าวว่า เทรนด์มีลูกเมื่อพร้อม ทำให้คนมีลูกช้าลง โดยเริ่มชีวิตครอบครัวที่อายุประมาณ 35 ปีขึ้นไป ทำให้เกิดภาวะมีบุตรยากขึ้น ส่งผลให้ต้องพึ่งพาวิธีการรักษาที่มีค่าใช้จ่ายสูง อาทิ การฝากไข่ การทำ IVF (เด็กหลอดแก้ว)
โดยข้อมูลจาก KResearch ประเมินว่า ปี 2568 ตลาดรักษาผู้มีบุตรยาก มีมูลค่า 22,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 7.4 แสนล้านบาท เติบโต 6.8% (YoY) และกว่า 14% ของมูลค่าการท่องเที่ยวทางการแพทย์ เป็นการเดินทางไปรักษาภาวะมีบุตรยาก
ส่วนในประเทศไทย ธุรกิจรักษาผู้มีบุตรยาก ในปี 2568 มีมูลค่า 6,300 ล้านบาท เติบโต 6.2% (YoY)
เพราะค่าใช้จ่ายรักษาภาวะผู้มีบุตรยากในไทยเฉลี่ยอยู่ที่ 6,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็น 200,000-250,000 บาท/คน/ครั้ง ถูกกว่าสิงคโปร์ 2 เท่า ที่มีค่ารักษาเฉลี่ย 12,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 400,000 บาท/ครั้ง
ทำให้มีไทยเป็นจุดหมาย การรักษาภาวะผู้มีบุตรยากแก่ผู้ป่วยชาวต่างชาติ ตั้งแต่จีน ตะวันออกกลาง และประเทศแถบ CLMV
สำหรับการรักษาใน GFC แบ่งเป็น
- ลูกค้าคนไทย สัดส่วน 95% มีงบประมาณรักษา 300,000 บาท/ครั้ง
- ลูกค้าต่างชาติ สัดส่วน 5% มีงบประมาณรักษา 520,000 บาท/ครั้ง
ส่วนใหญ่เป็นการรักษาด้วยวิธี ICSI ประมาณ 70% และการตรวจพันธุกรรมตัวอ่อน PTG-A ประมาณ 20% และอีก 10% เป็นอื่น ๆ อาทิ การฝากไข่ การตรวจรักษาเบื้องต้น เป็นต้น
ที่ผ่านมา GFC เติบโตปีละประมาณ 10% โดยเฉพาะปี 2566 ขยายตัวมากสุด 30% อานิสงส์คนนิยมให้ลูกเกิดปีมังกร (ปี 2567)
สำหรับปี 2568 บริษัทฯ ตั้งเป้าเติบโตอีก 15-20% จากการเปิดตัว 3 สาขาอย่างเต็มรูปแบบ (เดิมมีเพียง 1 สาขา) ได้แก่
- สาขาพระรามสาม ซึ่งเป็นสาขาแรก มีลูกค้าค่อนข้างล้น จึงต้องเปิดสาขาใหม่
- สาขาพระรามเก้า เปิดตัว 21 ก.พ. 68 นี้ เพื่อรองรับลูกค้าต่างชาติ และลูกค้าจาก กทม.-ปริมณฑล โดยโยกมาจากสาขาพระรามสามบางส่วน
- สาขาอุบลราชธานี เปิดตัวเต็มรูปแบบในปีนี้ไปแล้ว รองรับกลุ่มลูกค้าไทย และประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ลาว กัมพูชา เมียนมา