นายธเศตร นวภูมิพิภัชน์ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือสถาบันพัฒนา SMEs (ISMED) กล่าวเปิดโครงการอบรมและพัฒนาผู้ประกอบการและผู้บริหารงานธุรกิจสปา ว่า สถาบันฯ ได้จัดโครงการดังกล่าว เพื่อจะผลักดันให้ประเทศไทยเป็น “ศูนย์กลางสุขภาพแห่งเอเชีย” อย่างครบวงจร ซึ่งเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ของประเทศไทย โดยได้ร่วมมือกับคณะการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต ในการจัดหลักสูตรฝึกอบรม
นอกจากนั้น ยังได้ระดมผู้เชี่ยวชาญชั้นนำของประเทศจากสมาคมสปาไทย โดรงเรียนวิชาชีพชีวาศรม และในแวดวงธุรกิจสปาชั้นนำ อาทิ ดุลยาสปา เซนต์คาลอสเมดิคัลสปา เทวารัญสปา รอยัลเฮลท์สปา พร้อมทังเตรียมการสนับสนุนด้านการเงินจากสถาบันการเงิน อาทิ ธนาคาร SME ธนาคารกรุงไทย และกองทุนรวมวรรณ
สถาบันพัฒนา SMEs (ISMED) ตั้งเป้าหมายที่จะสร้างผู้ประกอบการธุรกิจสปารายใหม่อย่างน้อย 50 ราย คาดว่าจะมีเม็ดเงินลงทุนขั้นต่า 5 ล้านบาทต่อกิจการ ส่งผลให้เกิดการลงทุนทั้งสิ้นประมาณ 250 ล้านบาท และจะมียอดรายได้กิจการละประมาณ 10 ล้านบาทต่อปี โดยผู้ประกอบการธุรกิจสปารายใหม่กลุ่มนี้จะมียอดรายได้กิจการละประมาณ 10 ล้านบาทต่อปี โดยผู้ประกอบการธุรกิจสปารายใหม่กลุ่มนี้จะมียอดรายได้รวมประมาณ 500 ล้านบาทต่อปี นอกจากนี้ ในส่วนของการอบรมนักบำบัดสปา (Therpist) ทางสถาบันฯ อยุ่ระหว่างการเตรียมการลงนามความร่วมมือกับสมาคมสปาประเทศสิงคโปร์เพื่อส่งต่อนักบำบัดที่ผ่านการอบรมไปทำงานในสปาทั้งในและต่างประเทศ และสำหรับหลักสูตรการบริหารสปาชั้นสูง (Advanced Spa Managemen) สถาบันฯ ได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัย Conell สหรัฐอเมริกาในการพัฒนาหลักสูตร โดยมีเป้าหมายที่จะให้บรากรให้คำปรึกษาด้านการลงทุนสปาอย่างครบวงจร ในลักษณะ Turn Key
นายธเนตร กล่าวต่อว่า ปัจจะบันเรามียุทธศษสตร์ของชิตที่จะผลักดันไทยให้เป็นศูนย์กลางการพัฒนและส่งเสริมนักธุรกิจสปามืออาชีพ อันจะนำปไปสู่ความเป็น “ศูนย์กลางสุขภาพแห่งเอเชีย” เพราะธุรกิจสปาไทยกำลังได้รับความนิยมและสนใจจากลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ อีกทั้งยังเชื่อมโยงไปสู่อุตสหากรรมต่อเนื่องให้มีการขยายตัวเพิ่มขึ้น เช่น ผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทย ผลิตภัณฑ์ตกแต่งในสปา และสินค้า OTOP เป็นต้น ดังนั้น สถาบันฯ จึงมุ่งเน้นการพัฒนามาตรฐานการให้บริการ ผลิตภัณฑ์ และการจัดการเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันสู่ตลาดโลก”
“ปัจจุบันประเทศไทยมีสถานบริการสปาจำนวน 250 แห่ง มีผู้ใช้บริการสปาในปรี 2545 – 2546 ประมาณ 2.6 ล้านคน ซึ่งมีอัตราการขยายตัวรอ้ยละ 44 และสามารถสร้างรายได้กว่า 3,655 ล้านบาท คาดว่าในปี 2547 ธุรกิจสปาจะสามารถสร้างรายได้ถึง 7,325 ล้านบาท” นายธเนตรกล่าวในที่สุด