บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้นำหุ้นเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์
อย่างเป็นทางการในวันที่13 พ.ย. โดยราคาหุ้นดีดตัวสูงสุดที่ระดับ 30 บาท สูงกว่าราคาจองที่ 15 บาทถึงเท่าตัว และปิดตลาดอยู่ที่ 27 บาท และในวันเดียวกันบริษัทยังได้เปิดเผยถึงผลประกอบการในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ ซึ่งนับเป็นการเปิดเผยผลประกอบการเป็นครั้งแรกหลังจากที่เปลี่ยนสถานะเป็นบริษัทมหาชน
นายสุรเธียร จักรธรานนท์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “สืบเนื่องมาจากการตอบรับอย่างท่วมท้นจากทั้งนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายย่อยในการเปิดให้จองหุ้นที่เสนอขายไปนั้น เรามีความยินดี เป็นอย่างยิ่งที่ได้เห็นแรงสนับสนุนที่มีให้กับบริษัทเรานั้นได้รับผลตอบแทนอันเป็นที่น่าพอใจ ณ ตอนนี้ เราได้เสร็จสิ้นกระบวนการเสนอขายหุ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เรามั่นใจว่าจะมุ่งมั่นดำเนินการเพื่อให้ผู้ถือหุ้นได้รับผลประโยชน์สูงสุดในปีต่อๆ ไป”
ในไตรมาสที่สามของปีนี้ ทางบริษัทได้รายงานผลกำไรสุทธิจำนวน 46.84 ล้านบาท เทียบกับที่ขาดทุน 3.78 ล้านบาทในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว โดยมีสาเหตุหลักจากบริษัทเริ่มรับรู้รายได้จากการขายบ้านและคอนโดมิเนียมในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ทั้งสิ้น 23.32 ล้านบาท รวมถึงมีส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทย่อย คิดเป็นจำนวน 83.10 ล้านบาท สำหรับผลประกอบการงวด 9 เดือน บริษัทมีกำไรสุทธิ 56.15 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วที่มีผลขาดทุน 23.49 ล้านบาท
บริษัทฯ ได้ทำการเสนอขายหุ้นจำนวนทั้งสิ้น 64.6 ล้านหุ้น ที่ราคาหุ้นละ 15 บาท โดยมีการเปิดให้จองในช่วงวันที่ 3 – 5 พฤศจิกายน และนำเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ภายใต้ชื่อ SC
บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อย่างครบวงจร โดยเริ่มจากธุรกิจให้เช่าอาคารสำนักงาน-อาคารชินวัตรทาวเวอร์ 3 ซึ่งเป็นอาคารสำนักงานที่ทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งที่ได้นำนวัตกรรมด้านการสื่อสาร
โทรคมนาคมและเทคโนโลยีสารสนเทศ และระบบอัตโนมัติในอาคารที่มีศักยภาพสูงรวมไว้ด้วยกัน เปิดดำเนินงานตั้งแต่ปี 2543 เป็นต้นมา และได้รับรางวัลอนุรักษ์พลังงานทั้งจากในประเทศและต่างประเทศ ในปี 2545 บริษัทได้ปรับเปลี่ยนบทบาทและกำหนดทิศทางการขยายธุรกิจสู่การเป็นผู้พัฒนาที่อยู่อาศัยทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ อาคารชุดพักอาศัย และอาคารสำนักงาน โดยยังคงรักษาภาพลักษณ์ในการเป็นผู้นำเรื่องเทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อมภายใต้แนวคิด i-home