บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL รายงานผลประกอบการปี 2567 ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศ ไทย พบว่า มีรายได้รวมอยู่ที่ 987,794 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.2% จากปีก่อน และ มีกำไรสุทธิ 25,346 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37.1% จากการที่ทุกกลุ่มธุรกิจปรับตัวดีขึ้นตามการเพิ่มขึ้นของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ และการบริโภคภายในประเทศที่เพิ่มขึ้น
สำหรับรายได้ดังกล่าว มาจาก 3 ธุรกิจหลัก แบ่งตามสัดส่วนรายได้ ดังต่อไปนี้
กลุ่มที่ 1 รายได้จากธุรกิจร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven 45%
กลุ่มที่ 2 รายได้จากธุรกิจค้าส่งค้าปลีกและศูนย์การค้า อาทิ Makro และ Lotus’s 48%
กลุ่มที่ 3 รายได้จากธุรกิจอื่นๆ ในประเทศไทย 7%
ในปี 2567 หากเจาะลงมาที่ธุรกิจร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven พบว่า
– มีรายได้ขายสินค้าและบริการ 439,787 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.1%
– กำไรสุทธิอยู่ที่ 21,564 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40%
-มีสาขาทั่วประเทศ 15,245 สาขา เพิ่มขึ้น 700 สาขาจากปีก่อน
– ยอดขายต่อสาขาเฉลี่ย 83,906 บาท/วัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ 80,837 บาท/วัน
– จำนวนลูกค้าต่อวันต่อสาขาเฉลี่ยอยู่ที่ 978 คน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ 965 คน
– ยอดซื้อเฉลี่ยต่อบิล 85 บาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ 83 บาท
– 7Delivery และ All online สร้างรายได้คิดเป็นสัดส่วน 11% ของยอดขายรวม
สำหรับในต่างประเทศ CPALL มีการขยายร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven ในกัมพูชา 30 สาขา และ สปป.ลาว 7 สาขา ทำให้กัมพูชามีสาขา 7-Eleven รวมแล้ว 112 สาขา และในสปป.ลาวรวมแล้ว 10 สาขา
ส่วนในปี 2568 ทาง CPALL มีแผนจะลงทุนเปิดสาขาใหม่ในประเทศไทยอีก 700 สาขา รวมถึงมีเป้าหมายจะเปิดร้านสาขาใหม่ในกัมพูชา และ สปป.ลาว