ธีระยุทธ จิราธิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โรงแรมและรีสอร์ตในเครือเซ็นทารา กล่าวว่า ปี 2567 บริษัทฯ ทำผลประกอบการสูงสุดเท่าที่เคยทำมา ทำรายได้ 11,162 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% (YoY) และ กำไรสุทธิ 1,043 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43% (YoY)
ปัจจัยหลักมาจากการเติบโตของพอร์ตฯ โรงแรมในไทย และต่างประเทศ อาทิ
- กทม. กระบี่ รายได้ขยายตัวถึง 20% แซงช่วงก่อนโควิด ปี 2562
- ญี่ปุ่น เริ่มเปิดตัวโรงแรมเต็มปี มีอัตราการเข้าพัก (OCC) 78% และมีราคาเฉลี่ยห้องพัก 30,000 เยน
- ดูไบ เปิดตัวเมื่อปี 2564 ได้รับผลตอบรับดีต่อเนื่อง สะท้อนจากอัตราการเข้าพักสูงถึง 85%
นายกันย์ ศรีสมพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่การเงิน และ รองประธานฝ่ายการเงินและบริหาร ของเซ็นทารา เปิดเผยว่า เซ็นทารา วางยุทธศาสตร์ 3 ปี (พ.ศ. 2568 – 2570) ลงทุน 19,000 ล้านบาท แบ่งงบประมาณออกเป็น 2 ส่วนหลัก ได้แก่
1. งบลงทุนโรงแรมและร้านอาหาร จำนวน 15,000 ล้านบาท
- โรงแรม 11,000-12,000 ล้านบาท
- ร้านอาหาร 3,300 ล้านบาท (เฉลี่ย 1-1.2 พันล้านบาท/ปี)
2. งบประมาณที่อยู่ระหว่างการวางแผน 4,000 ล้านบาท
สำหรับ ปี 2568 งบลงทุนยังเน้นการรีโนเวตโรงแรมเดิม และขยายโรงแรมใหม่ จำนวน 1,497 ห้อง จาก 9 โครงการใหม่ อาทิ เซ็นทารา แกรนด์ ลากูน มัลดีฟส์ รีสอร์ตหรูเปิดตัวเดือนเมษายนนี้ เดอะ เซ็นทารา คอลเลคชั่น บาหลี รวมถึงโรงแรมในประเทศบนเกาะพีพี และเกาะสมุย เป็นต้น
ส่วนโปรเจ็กต์ลงทุนที่เป็นไฮไลต์ และเตรียมเปิดตัวในอนาคต อาทิ
- ขยายโรงแรมดูไบ งบประมาณ 1,400 ล้านบาท เพื่อเพิ่มห้องพักเป็น 600 ห้อง จากเดิม 200 ห้อง โดยได้ซื้อที่ดินเพิ่ม 14 ไร่ เพื่อพัฒนา คาดแล้วเสร็จ ปี 2570-2571
- ขยายพอร์ตโรงแรมลักซูรี ด้วยการรีแบรนด์ เซ็นทารา แกรนด์ บีช รีวอร์ทและวิลล่ากระบี่ มีแผนปิดปรับปรุงมาเป็น “เซ็นทารา รีเซิร์ฟ กระบี่” จากเดิมมีราคาเฉลี่ยห้องพัก 7,000 บาท/คืน เมื่อรีแบรนด์คาดดันราคาเฉลี่ยห้องพักเป็น 17,000-18,000 บาท/คืน ได้ คาดใช้งบประมาณ 1,600 ล้านบาท
- ขยายโรงแรมและวิลล่าตรงสมุย ภายใต้งบประมาณ 500 ล้านบาท โดยซื้อที่ดินเพิ่มประมาณ 4 ไร่ ข้าง ๆ เซ็นทารา รีเซิร์ฟ สมุย โดยวางสัดส่วน 70% เพิ่มเป็นวิลล่า 40-50 หลัง (เดิมมีวิลล่า 3 หลัง) และที่เหลืออีก 30% จะเป็นห้องพักโรงแรม คาดเริ่มก่อสร้างปลายปีนี้ ก่อนแล้วเสร็จในปี 2570
- ขยายโรงแรมและรีโนเวตตรงโครงการต่อเนื่องในพื้นที่หัวหิน จำนวน 3 โรงแรม งบลงทุน 2,500 ล้านบาท ที่ได้ปิดปรับปรุงและรีโนเวต “เซ็นทารา แกรนด์ บีช รีสอร์ทและวิลล่า หัวหิน” ประมาณ 214 ห้อง โดยบริเวณใกล้เคียงกัน จะสร้างเป็นวิลล่าหรู 70 หลัง ภายใต้แบรนด์ “เดอะ เซ็นทารา คอลเลคชั่น” รวมถึงสร้างห้องพัก 200 ห้อง ภายใต้แบรนด์ “เซ็นทารา ไลฟ์” คาดแล้วเสร็จปี 2570
จากแผนการเปิดโรงแรมใหม่ และการปรับโฉมโรงแรมต่าง ๆ ในปีนี้ จะช่วยให้เซ็นทารามีการเติบโต ดังนี้
- รายได้รวม 15,100 ล้านบาท เติบโต 23% (YoY)
- ทำอัตราเข้าพัก (OCC) 77% จากปีก่อน 70%
- รายได้เฉลี่ยห้องพัก (Revpar) 4,500-4,800 บาท จากปีก่อนอยู่ที่ 4,100 บาท
- ราคาห้องพักต่อคืน (ADR) 6,200 บาท/คืน จากปีก่อน 5,700 บาท/คืน
“จากแผนทั้งหมดนี้ บริษัทตั้งเป้าขยายโรงแรมให้มีจำนวนครบ 20,000 ห้อง ในปี 2570 เพื่อผลักดันให้เซ็นทารา ก้าวสู่ Top 100 แบรนด์โรงแรมโลก จากปัจจุบันอยู่อันดับ 111”
สำหรับเซ็นทารา มีพอร์ตฯ โรงแรมรวม 90 แห่ง แบ่งเป็น โรงแรมที่เปิดบริการแล้ว 51 แห่ง จำนวน 11,082 ห้อง และโรงแรมที่อยู่ระหว่างเซ็นสัญญาและพัฒนาโครงการ 8,932 ห้อง
