“ชลบุรี” เป็นทำเลสุดฮอตของตลาดที่พักอาศัย ด้วยเป็นเมืองติด Top 4 ที่ชาวต่างชาติและคนไทยมาเยือนมากที่สุดในไทย
ส่งผลให้ช่วงปี 2567 ที่ผ่านมา ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ ลุย “ตลาดวิลล่าชลบุรี” มากขึ้น
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) ระบุว่า ช่วงไตรมาส 4 ปี 2567 มีวิลล่าเปิดตัวใหม่ในชลบุรี จำนวน 40 ยูนิต เพิ่มขึ้น 566% และคิดเป็นมูลค่า 1,250 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,063% โดยมีราคาขายเฉลี่ย 31.2 ล้านบาท/หน่วย เมื่อเทียบกับปีก่อน (YoY)
สวนทางกับ จำนวนยอดขายใหม่ ของวิลล่า ที่ขายได้ 24 หน่วย ลดลง 35% คิดเป็นมูลค่า 634 ล้านบาท ลดลง 43% ซึ่งมีราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ 26 ล้านบาท/หน่วย (YoY)
จากยอดขายที่ต่ำกว่ายอดการเปิดตัวใหม่ ส่งผลให้ หน่วยเหลือขาย วิลล่าชลบุรี ขยายตัว โดยในไตรมาส 4 ปี 2567 มีจำนวน 338 หน่วย เพิ่มขึ้น 15% และมีมูลค่า 10,048 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.5% (YoY)
ทั้งนี้ มีอัตราดูดซับเพียง 2.2% คาดใช้เวลาระบายสินค้าราว 42 เดือน (ประมาณ 3.5 ปี) สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ใช้เวลาระบายสต๊อก 24 เดือน (2 ปี)
หากจำแนกอัตราดูดซับวิลล่าชลบุรี แยกตามทำเล จากยอดขายใหม่รวม 24 ยูนิต พบว่ากระจายอยู่ 5 ทำเล ดังนี้
1.หนองปรือ-มาบประชัน
- ขายได้ 11 หน่วย
- หน่วยเหลือขาย 98 หน่วย
- อัตราดูดซับ 3.4%
- ใช้เวลาระบายสต๊อก 27 เดือน (2 ปี 3 เดือน)
2.พัทยา-จอมเทียน
- ขายได้ 8 หน่วย
- หน่วยเหลือขาย 47 หน่วย
- อัตราดูดซับ 4.8%
- ใช้เวลาระบายสต๊อก 18 เดือน (1 ปี 6 เดือน)
3.ห้วยใหญ่
- ขายได้ 3 หน่วย
- หน่วยเหลือขาย 134 หน่วย
- อัตราดูดซับ 0.7%
- ใช้เวลาระบายสต๊อก 134 เดือน (11 ปี 2 เดือน)
4.โรงโป๊ะ-หนองปลาไหล
- ขายได้ 1 หน่วย
- หน่วยเหลือขาย 11 หน่วย
- อัตราดูดซับ 2.8%
- ใช้เวลาระบายสต๊อก 33 เดือน (2 ปี 9 เดือน)
5.สัตหีบ-อู่ตะเภา
- ขายได้ 1 หน่วย
- หน่วยเหลือขาย 39 หน่วย
- อัตราดูดซับ 0.8%
- ใช้เวลาระบายสต๊อก 117 เดือน (9 ปี 9 เดือน)