ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินผลกระทบเหตุแผ่นดินไหว เมื่อ 28 มี.ค. 68 ต่อเศรษฐกิจไทยในเบื้องต้นคิดเป็นมูลค่าไม่ต่ำกว่า 20,000 ล้านบาท หรือกระทบ GDP -0.06%
หลักๆ มาจากการหยุดชะงักหรือเลื่อนออกไปของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ รวมถึงกำลังซื้อที่อาจลดลง เพราะธุรกิจและครัวเรือนต้องโยกกระแสเงินสด/รายได้ไปใช้เพื่อการตรวจสอบความเสียหายและซ่อมแซมอาคาร
ทั้งนี้ หากรวมความเสียหายต่ออาคาร ทรัพย์สิน การทรุดตัว/การสั่นสะเทือนของอาคารบางแห่งเพิ่มเติม รวมถึงการซ่อมแซมและการเคลมประกันหลังจากนี้ ผลกระทบจะมากกว่านี้
แม้การซ่อมแซมความเสียหายและความต้องการในการหาที่พักสำรอง จะทำให้การก่อสร้าง วัสดุก่อสร้าง ที่พักแนวราบ ได้รับอานิสงส์
“แต่ผลกระทบด้านลบคงจะมีต่อยอดขายและการโอนกรรมสิทธิ์คอนโดมิเนียมในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่อาจช้าลงในบางโครงการ”

นอกจากนี้ ตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทย อาจมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นในระยะสั้นตามความเชื่อมั่นต่อการเดินทางและการหาที่พัก ซึ่งโรงแรมในกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่ก็เป็นอาคารสูง
ผลต่อธุรกิจธนาคารพาณิชย์ มองว่า มาตรการให้ความช่วยเหลือทางการเงิน คงช่วยประคองภาพสินเชื่อรวม ประเด็นติดตามจะอยู่ที่
- คุณภาพหนี้ โดยเฉพาะหนี้ภาคอสังหาริมทรัพย์ ก่อสร้าง และสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย
- การไถ่ถอนหุ้นกู้ของภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบในระยะที่เหลือของปีนี้
- ผลจากการลดดอกเบี้ยในประเทศ หากเศรษฐกิจไทยส่งสัญญาณการชะลอตัวที่ชัดเจนขึ้น อันจะกระทบต่อรายได้ดอกเบี้ยสุทธิของระบบแบงก์ไทยเพิ่มเติม