หลังจากที่ JAS หรือ บมจ. จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล คว้าลิขสิทธิ์ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2025-2028 ด้วยการลงทุนกว่า 19,000 ล้านบาท ล่าสุด บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น ก็เคลื่อนไหว พร้อมเปิดตัว TrueVisions NOW ที่ยังคงความเป็น King of sports และเพิ่มความบันเทิงเพื่อชดเชย พรีเมียร์ลีก ที่หายไป
รู้ว่าจ่ายเท่าไหร่ถึงขายได้ เลยต้องยอม
องอาจ ประภากมล หัวหน้าสายงานทรูวิชั่นส์ และมีเดีย บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น ได้เปิดใจถึงกรณีที่ทรูชวดลิขสิทธิ์ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2025-2028 ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นรายการฟุตบอล ยอดนิยม ของคนไทย โดยยอมรับว่า เสียดาย และอาจจะส่งผลกระทบให้ จำนวนผู้ใช้ และรายได้ลดลง จากปัจจุบันอยู่ที่ 1.3 ล้านราย มีรายได้รวม 6,000 ล้านบาท และ ARPU (Average Revenue Per User) เฉลี่ย 290 บาท/เดือน แต่ในวิกฤตอาจมีโอกาส เพราะต้นทุนการลงทุนคอนเทนต์ก็ลดลง ดังนั้น ต้องรอดูที่ กำไร ว่าดีขึ้นหรือลดลง
“จะเห็นว่าทีวีแทบไม่มีใครซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลมาถ่ายทอด เพราะรายได้จากโฆษณามันไม่พอ และตอนนี้พรีเมียร์ลีกกำลังเป็นแบบนั้น เพราะดีที่สุด แต่ก็แพงสุด ซึ่งเราจ่ายมา 20 ปี เรารู้ว่ามันขายได้เท่าไหร่ เราจ่ายได้เท่าไหร่ แพงกว่านี้มันขายไม่ได้ ซึ่งคู่แข่งเขาชนะเราด้วยราคามากกว่าเรา 2 เท่าครึ่ง ตอนนั้นเราไม่รู้ว่าใครได้ แต่คิดว่าขอให้โชคดี”
ไม่ได้พรีเมียร์ลีก ก็มีเงินมาทุ่มบันเทิง
กลยุทธ์ของทรูวิชั่นส์ในวันที่ไม่มีพรีเมียร์ลีก ก็คือนำงบลงทุนไปเน้นที่คอนเทนต์ บันเทิง ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ ซีรีส์ ที่เป็น Top-Tier รวมถึงการผลิต ออริจินัลคอนเทนต์ ซึ่ง องอาจ มองว่าเป็น ตลาดที่ใหญ่กว่า และทรูก็มี พาร์ทเนอร์ ที่พร้อมขายคอนเทนต์ดี ๆ ให้
“เงินที่จ่ายซื้อพรีเมียร์ลีกอาจจะเสิร์ฟลูกค้าได้แค่กลุ่มเดียว แน่นอนว่าเป็นกลุ่มใหญ่ แต่ในกลุ่มบันเทิงมันใหญ่กว่า โดยเมื่อดูจากจำนวนชั่วโมง ลูกค้าเราส่วนใหญ่ก็ดูบันเทิงมากกว่ากีฬา ดังนั้น การมาเน้นบันเทิงอาจทำให้เราได้กลุ่มลูกค้าที่ใหญ่กว่า อาจทำรายได้มากกว่าที่ได้”
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของ กีฬา ทางทรูมั่นใจว่ายังคงเป็น King of Sports โดยยังมีกีฬาระดับโลกอื่น ๆ เช่น F1, MotoGP, NFL, NBA, ฟุตบอลลาลีกา, บุนเดสลีกา, ซาอุดิลีก, ยูฟ่าแชมเปียนส์ ลีก, ยูโรปา ลีก, คอนเฟอเรนซ์ ลีก, ฟุตซอลไทยลีก และกำลังเจรจาถึงลิขสิทธิ์ ไทยลีก
“เราไม่ทิ้งคำว่า King of Sports เราอาจไม่มีพรีเมียร์ลีก แต่ยังมีกีฬาอื่น ๆ ที่กว้างและลึก ซึ่งลูกค้าระดับท็อปเขายอมจ่าย และใช้ความหลากหลายของคอนเทนต์ฮุกเขา ให้เขารู้สึกว่าคุ้มค่า ไม่ได้จ่ายแล้วดูได้แค่อย่างเดียว”
ไม่ได้ปิดโอกาสร่วมกับ JAS
แม้ว่าล่าสุด JAS จะได้ AIS หรือ บมจ. แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส เป็น พาร์ทเนอร์ ในการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีกตั้งแต่ฤดูกาล 2025-26 ไปแล้ว แต่ทางทรูก็ พร้อมเปิดกว้าง หาก JAS หาพาร์ทเนอร์ใหม่ในอนาคต
“เราเข้าใจว่า AIS น่าจะเป็นเอ็กซ์คลูซีฟพาร์ทเนอร์กับ JAS แต่เราก็เปิดกว้าง เรายินดีที่จะมีส่วนร่วม แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับทาง JAS ไม่ใช่เรา ดังนั้น ต้องดูกันยาว ๆ”
สำหรับแพ็กเกจ ทรูวิชั่นส์ นาว (TrueVisons NOW) มีทั้งหมด 4 แพ็กเกจ ได้แก่
- TrueVisions NOW POP ราคา 119 บาทต่อเดือน แพ็กเกจที่คนไทยต้องดู เพลิดเพลินไปกับซีรีส์ หนังสุดฮิตจากไทย และเชียร์ทัพนักกีฬาไทยไปด้วยกัน
- TrueVisions NOW PLUS ราคา 249 บาทต่อเดือน แพ็กเกจสำหรับคอซีรีส์ไทย จีน, เกาหลี, ญี่ปุ่น อนิเมะ และกีฬาดัง เช่น F1, ฟุตบอลลีก และถ้วยยุโรปชั้นนำ และชมฟรีซีรีส์ดังจากแอปฯ IQIYI
- TrueVisions NOW PRIME ราคา 449 บาทต่อเดือน รับชมภาพยนตร์ วาไรตี้ สารคดี กีฬาดังระดับโลก MOTO GP, NBA, NFL สามารถดูซีรีส์จีน และอนิเมะจากแอปฯ IQIYI และ We TV
- TrueVisions NOW MAX ราคา 2,155 บาทต่อเดือน ดูฟรีแพลตฟอร์มพาร์ทเนอร์ดัง ได้แก่ IQIYI, We TV, MAX, VIU และ NETFLIX