หลายคนก็คงจะคิดไว้แล้วว่า จีน จะต้องหาทางระบายสินค้าก่อนที่มาตรการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนของสหรัฐฯ ในอัตราสูงถึง 145% จะมีผลบังคับใช้ และยอดส่งออกของจีนในเดือนเมษายนก็แสดงให้เห็นว่า อาเซียน เป็นตลาดที่มาชดเชยการหายไปของสหรัฐฯ
ตามข้อมูลจาก สำนักงานศุลกากรจีน เปิดเผยว่า การส่งออกของจีนในเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น +8.1% แม้ว่าการส่งออกไปยัง สหรัฐอเมริกา จะ ลดลงมากกว่า -21% ก็ตาม ปัจจัยที่ทำให้การส่งออกของจีนยังเติบโตก็คือ ตลาดยุโรป (+8%) และ ตลาดอาเซียน ที่เติบโตถึง +21% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
โดยประเทศ เวียดนาม และ มาเลเซีย ถือเป็น 2 ประเทศปลายทางหลักในการส่งออกของจีนในอาเซียน แต่ อินโดนีเซีย และ ไทย มีการจัดส่งจากจีนเพิ่มขึ้น +37% และ +28% ตามลำดับ เมื่อเทียบเป็นรายปี
ทั้งนี้ ในเดือนมีนาคม ยอดส่งออกของจีนไปยังสหรัฐฯ พุ่งขึ้น +9.1% เนื่องจากผู้ส่งออกเร่งส่งออกไปล่วงหน้าก่อนมีการปรับขึ้นภาษี แต่เมื่อนับการส่งออกในช่วง 4 เดือนแรกของปี การส่งออกของจีนไปยังสหรัฐอเมริกา ลดลง -2.5% ในขณะที่การ นําเข้า จาหสหรัฐฯ ไปยังจีน ลดลง -4.7% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อน
นับตั้งแต่มีการขึ้นกำแพงภาษีระหว่างจีนและสหรัฐฯ ได้ส่งผลให้ กิจกรรมโรงงานของจีน ในเดือนเมษายน ลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 16 เดือน ในขณะที่ คําสั่งซื้อส่งออกใหม่ ลดลงสู่ระดับ ต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2022