โสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (AREA) เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาตลาดอสังหาภูเก็ต มีการพัฒนารวม 728 โครงการ จำนวน 72,000 หน่วย คิดเป็นมูลค่า 460,000 ล้านบาท
ขณะที่ปัจจุบันมีจำนวนขายได้แล้วกว่า 62,000 หน่วย เหลือขายเพียง 10,000 หน่วย เท่านั้น สะท้อนดีมานด์ภูเก็ตยังคงสูง
จำแนกรายพื้นที่ พบว่า
- อำเภอถลาง มีจำนวน 32,000 หน่วย ขายได้แล้ว 25,000 หน่วย เหลือขาย 7,000 หน่วย
- อำเภอเมือง มีจำนวน 28,000 หน่วย ขายได้แล้ว 26,000 หน่วย เหลือขาย 1,200 หน่วย
- อำเภอกระทู้ จำนวน 12,000 หน่วย เหลือขาย 700 หน่วย
ทั้งนี้ ในไตรมาส 1 ปี 2568 มีโครงการเปิดตัวใหม่ จำนวน 25 โครงการ รวม 4,000 หน่วย คิดเป็นมูลค่ารวม 54,000 ล้านบาท หรือเฉลี่ยหน่วยละ 13 ล้านบาท
สินค้าส่วนใหญ่ที่เปิดคือ ห้องชุดตากอากาศถึง 45,000 ล้านบาท หรือ 83% ของทั้งหมด และแทบทั้งหมด ของการเปิดตัวโครงการใหม่ในไตรมาสแรกนี้ เปิดในอำเภอถลาง
“ในรอบหนึ่งปีที่ผ่านมาอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตขายได้ประมาณ 10,000 หน่วยรวมมูลค่า 90,000 ล้านบาท หรือขายเฉลี่ยหน่วยละ 9 ล้านบาท และโดยมากขายในเขตอำเภอถลาง และสินค้าที่ขายได้เร็วมากเป็นห้องชุดตากอากาศและวิลล่า ส่วนที่อยู่อาศัยของคนไทยเองกลับขายได้ช้ากว่า”
ราคาที่ดินในภูเก็ต ช่วง 20 ปีนี้ (พ.ศ. 2547 – 2567) เพิ่มเฉลี่ย 7.47 เท่า หรือเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 10.7% ซึ่งถือว่าสูงมากเมื่อเทียบกับราคาที่ดินในบริเวณอื่นของประเทศไทย
- หาดราไวย์ เพิ่มขึ้นสูงสุด 14 เท่า
- หาดบางเทา เพิ่มขึ้น 10.67 เท่า
- หาดไม้ขาว เพิ่มขึ้น 9 เท่า
ส่วนที่เพิ่มขึ้นช้า ได้แก่ เอาสป๋า หาดกะรน และเกาะสิเหร่
จำแนกราคาที่ดินสูงสุดตามที่ศูนย์ข้อมูลประเมินไว้ ดังนี้
- อันดับ 1 หาดป่าตอง 350 ล้านบาทต่อไร่
- อันดับ 2 หาดบางเทา หาดสุรินทร์ และหาดกะรน ราคา 80 ล้านบาทต่อไร่
- อันดับ 3 หาดกมลา 70 ล้านบาทต่อไร่
- อันดับ 4 หาดไม้ขาว 45 ล้านบาทต่อไร่