ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย เผชิญแรงกดดันต่อเนื่อง จากกำลังซื้อในประเทศหดตัวลง อ้างอิงตัวเลขยอดโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัย ไตรมาส 1 ปี 2568 จากศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ พบว่า มีจำนวน 65,276 หน่วย ลดลง 10.5% และมีมูลค่า 181,545 ล้านบาท ลดลง 13% เมื่อเทียบกับปีก่อน (YoY)
ส่งผลให้ “ตลาดต่างชาติ” กลายเป็นหนึ่งในหนทางรอดของตลาดที่อยู่อาศัยไทย ช่วงภาพรวมตลาดอยู่ในโหมดฟุบตัว
ซึ่งที่ผ่านมา “ชาวจีน” เป็นลูกค้าหลัก ที่มียอดโอนกรรมสิทธิ์สูงสุดในหมู่ชาวต่างชาติร่วมหลายปี จากความสนใจลงทุนอสังหาในไทย เพื่อปล่อยเช่า

สุรเชษฐ กองชีพ หัวหน้าฝ่ายวิจัยและที่ปรึกษา คุชแมน แอนด์ เวคฟีลด์ ประเทศไทย กล่าวว่า ยอดซื้ออสังหาริมทรัพย์ไทยจากกลุ่มคนจีน ลดลงเป็นไปในทิศทางเดียวกับจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางเข้าไทย
โดยช่วง 1 มกราคม – 11 พฤษภาคม 2568 (อ้างอิง ททท.) พบว่า คนจีนเข้าไทยเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มชาวต่างชาติ มีจำนวน 1.77 ล้านคน แต่ลดลง 30.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY)
หากพิจารณายอดโอนกรรมสิทธิ์คอนโดของคนจีน ในรอบ 8 ปี ที่ผ่านมา มีข้อมูลดังนี้

- ปี 2561 จำนวน 7,916 หน่วย
- ปี 2562 จำนวน 7,626 หน่วย
- ปี 2563 จำนวน 5,254 หน่วย
- ปี 2564 จำนวน 4,867 หน่วย
- ปี 2565 จำนวน 5,707 หน่วย
- ปี 2566 จำนวน 6,614 หน่วย
- ปี 2567 จำนวน 5,670 หน่วย
- ไตรมาส 1 ปี 2568 จำนวน 1,481 หน่วย
“การโอนกรรมสิทธิ์คอนโดมิเนียมของคนจีนลดลงในช่วงหลังจากโควิด-19 เป็นต้นมา และไม่เคยกลับไปเทียบเท่าช่วงปี 2561 – 2562 อีกเลย และดูแล้วปี 2568 ก็คงมีการโอนกรรมสิทธิ์ของคนจีนที่ไม่มากอาจจะไม่แตกต่างจากปี 2567 มากนัก”

สงกรานต์ อิสสระ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้ตลาดจีนค่อนข้างเงียบ จากกระแสตลาดรถ EV เริ่มวายลงต่างจากปีก่อน ๆ
ขณะที่อีกส่วนหนึ่งมาจากตลาดท่องเที่ยวที่ดรอปลง จากความกังวลด้านความปลอดภัยจากกรณีลักพาตัวดาราจีน ซึ่งเป็นข่าวดังมากที่จีน อาจต้องใช้เวลาฟื้นความเชื่อมั่น 2-3 ปีจึงจะดีขึ้น
“ตอนนี้คนจีนซื้ออสังหาไทยน้อยลง จากเคยอยู่อันดับต้น ๆ ในใจคนจีน ก็ร่วงอยู่อันดับ 6-8 ซึ่งตอนนี้คนจีนหันไปซื้อที่อยู่อาศัยในญี่ปุ่น เวียดนาม และมาเลเซียแทน”