ในปี 2025 ไมโครซอฟท์ (Microsoft) ได้ประกาศเลิกจ้างพนักงานไปแล้ว 3 ครั้ง ได้แก่ เดือนมกราคม ปลดพนักงานราว 1% และอีกรอบในเดือนพฤษภาคมจำนวน 6,000 ตำแหน่ง และปลดพนักงานในเดือนมิถุนายนอีก 300 คน ล่าสุด ประกาศปลดพนักงานอีกระลอก ซึ่งถือเป็น ครั้งที่ 4 ในปีนี้
โดย ไมโครซอฟท์ ได้ประกาศว่า บริษัทจะเลิกจ้างพนักงานประมาณ 9,000 คน ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อพนักงานราว 4% ของพนักงานทั่วโลก รวมไปถึงแผนก Xbox โดยการปรับลดคนในครั้งนี้ ถือเป็น รอบที่ 4 ของปี แต่เป็นการปลดครั้งแรกของปีงบประมาณ 2026 ของบริษัท
“เพื่อให้ Gaming อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมสำหรับความสำเร็จที่ยั่งยืน และให้เราสามารถมุ่งเน้นไปที่พื้นที่เติบโตเชิงกลยุทธ์ เราจะยุติหรือลดงานในพื้นที่บางส่วนของธุรกิจ และการลดชั้นการจัดการเพื่อเพิ่มความคล่องตัวและประสิทธิภาพ” Phil Spencer ซีอีโอฝ่ายเกมของ Microsoft กล่าว
อย่างไรก็ตาม การลดจำนวนพนักงานของไมโครซอฟท์รอบนี้ ก็ยังไม่ใช่ รอบใหญ่สุด โดยการเลิกจ้างครั้งใหญ่สุดเกิดขึ้นในปี 2014 โดยลดจำนวนพนักงานถึง 18,000 คน หลังจากเข้าซื้อกิจการอุปกรณ์ และบริการของ Nokia และในปี 2023 ที่เลิกจ้างพนักงาน 10,000 คน
แม้จะมีการปรับลดจำนวนพนักงาน แต่สถานะทางการเงินของไมโครซอฟท์ยังคงแข็งแกร่ง โดยในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้ 70,000 ล้านดอลลาร์ และมีกำไรสุทธิประมาณ 26,000 ล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์วอลล์สตรีทคาดการณ์ไว้
ขณะที่รายได้ไตรมาสเดือนมิถุนายน คาดว่าจะเติบโตประมาณ +14% จากการเติบโตของบริการคลาวด์ Azure และซอฟต์แวร์องค์กรแบบสมัครสมาชิก ส่งผลให้หุ้นไมโครซอฟท์ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 497.45 ดอลลาร์ต่อหุ้นในวันที่ 26 มิถุนายน
ไม่ใช่แค่ไมโครซอฟท์ที่ปรับลดพนักงาน แต่บริษัทผู้ให้บริการซอฟท์แวร์รายอื่น ๆ ก็มีแผนจะลดคนอีกเช่นกัน อาทิ Autodesk, Chegg และ CrowdStrike ที่ได้ลดขนาดลงในปี 2025