ภูมิชาย มัธยมภพภิญโญ กรรมการผู้จัดการกลุ่มธุรกิจพัฒนาโครงการภาคใต้ บริษัท แสนสิริ จํากัด (มหาชน) หรือ SIRI เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา ทุกครั้งที่ “ภูเก็ต” เผชิญวิกฤต อาทิ สึนามิ โควิด แต่ก็พบ New S-Curve ใหม่ตลอด ดังนั้นประเด็นภูมิรัฐศาสตร์โลกแม้มีความท้าทาย หากมองลึก ๆ ก็นับเป็นโอกาสเช่นกัน
ภูเก็ต คนทะลักเกาะกว่า 2 ล้านคน ราคาที่ดินดีด 700% ใน 20 ปี
ปัจจุบันภูเก็ต มีผู้อยู่อาศัยในเกาะเกิน 2 ล้านคน แบ่งเป็น ประชากรดั้งเดิม 4.6 แสนคน ประชากรแฝง (กลุ่มคนทำงานและนักท่องเที่ยวระยะยาวเกิน 1 เดือนขึ้นไป) 6-8 แสนคน และ นักท่องเที่ยวระยะสั้น 1.2-1.5 ล้านคน/ปี
ปัจจัยเหล่านี้ส่งเสริมตลาดที่อยู่อาศัยในภูเก็ตให้เฟื่องฟู สะท้อนจากผู้เล่นในตลาดที่เข้ามาโหมตลาดภูเก็ตมากขึ้น ส่งผลให้ราคาที่ดินโอเวอร์ขึ้นไปถึง 700% ในรอบ 20 ปี

อย่างไรก็ดี ต่อจากนี้ไปอีก 2 ปี ตลาดอสังหาภูเก็ต จะกลายเป็นตลาดของผู้เล่นตัวจริง ที่ทำราคาได้เหมาะสมในทำเลที่ถูกต้อง เพราะภาพรวมจะเข้าสู่ภาวะจริงมากขึ้น ไม่ใช่เหมือนใน 2 ปีก่อนหน้านี้ ที่ทำโปรดักส์อะไรลงมา แล้วจะขายได้ทั้งหมด
อย่างบางทำเล เราเริ่มพบภาวะซัพพลายล้น เช่น บางเทา เชิงทะเล ที่มี 7-8 พันยูนิต ทำให้อัตราดูดซับช้าลง แม้จะยังมีดีมานด์ในตลาดก็ตาม
อิสราเอล บังกลาเทศ ยูเครน นักลงทุนหน้าใหม่ในภูเก็ต ส่วน LGBTQIA+ เลือกไทยเป็นบ้านเซฟโซน
ภูมิชาย กล่าวต่อไปว่า เราพบอินไซด์น่าสนใจว่า กลุ่มชาวต่างชาติย้ายมาปักหลักภูเก็ตมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่ม Digital Nomad ที่เริ่มขยายครอบครัว ย้ายมาจากสิงคโปร์และฮ่องกง เนื่องจากค่าครองชีพในไทยถูกกว่า รวมถึงกลุ่ม retirement ที่ซื้อที่อยู่ในไทยเป็นบ้านหลังที่สอง
โดยช่วง 2-3 ปีนี้ แสนสิริพบ New Demands จากชาติใหม่ ๆ โดยเฉพาะ อิสราเอล เริ่มเข้ามาซื้อคอนโดเพื่อการลงทุนในภูเก็ต โดยปี 2568 นี้มีการซื้อจากแสนสิริราว ๆ 40-50 ยูนิต ในราคา 3-6 ล้านบาท จากปีก่อนมีมาซื้อประปรายไม่กี่ยูนิตเท่านั้น
“แรก ๆ เราคิดว่าเขาซื้ออสังหาจากปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์แต่ปรากฏว่าไม่ใช่ เพราะนักลงทุนอยู่ทั้งประเทศเขา และบางทีก็มาไทยบ้าง โดยคนกลุ่มนี้ซื้ออสังหาผ่านเอเจนต์และบางรายไม่เคยมาดูห้องตัวจริงด้วย แต่เขาก็ซื้อเพราะมั่นใจแสนสิริ ทีละ 1-2 ยูนิต”

ขณะเดียวกัน ก็พบว่านักลงทุนจากหลายที่ทั่วโลก เริ่มกระจายพอร์ตการลงทุน อย่างชาวบังกลาเทศที่เป็นนักธุรกิจในอเมริกา จากเดิมเคยซื้ออสังหาเพื่อการลงทุนในดูไบ แต่เมื่อราคาอสังหาดูไบราคาเริ่มขึ้นสูง จนให้ยีลด์ได้ไม่ดีนัก จึงซื้อคอนโดในภูเก็ตแทน ซึ่งมีราคาเริ่มต้นเพียง 2-5 ล้านบาท/ยูนิต ต่างจากดูไบที่มีราคาเริ่มต้น 15 ล้านบาท/ยูนิต
นอกจากนี้ ก็มีชาติอื่น ๆ เข้ามาซื้อมากขึ้น อาทิ คาซัคสถาน ยูเครน อินเดีย
และที่น่าสนใจ คือ กลุ่ม LGBTQIAN+ ในต่างประเทศวางแผนตั้งถิ่นฐานหรือลงทุนที่ภูเก็ต เพราะประเทศไทยมีความชัดเจนเรื่องกฎหมายที่ให้ความคุ้มครอง และมีความเปิดกว้าง
ปล่อยเช่าคอนโดฮอต อัตราเข้าพัก 80%
สมสกุล หลิมศุทธพรรณ รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจและบริหารสินทรัพย์ บริษัท พลัส พร็อพ เพอร์ตี้ จำกัด กล่าวว่า จากการทำบริการ Plus Concierge หาผู้เช่า และบริหารจัดการอสังหาให้นักลงทุน พบว่า มีอัตราการเข้าพัก (Occupancy Rate) 80% ส่วนใหญ่มาจากกลุ่มผู้เช่ามี 2 ส่วนหลัก ๆ ได้แก่
- กลุ่มคนไทยที่ในทำงานภูเก็ต และกลุ่มต่างชาติ Digital Nomad นิยมโซนในเมือง
- นักท่องเที่ยวระยะยาว มากกว่า 1-3 เดือนขึ้นไป นิยมโซนรอบเมือง เช่น โซนเชิงทะเล เป็นต้น

โดยยีลด์ค่าเช่าที่อยู่อาศัยในภูเก็ตมีระดับสูงเฉลี่ยประมาณ 1 ดิจิตปลาย ๆ ซึ่งหากเทียบกับอสังหาที่พลัสพร็อพเพอร์ตี้มีการปล่อยเช่าให้ลูกค้าจะคิดอัตราผลตอบแทน (Rental Yield) ได้ดังนี้
1.ดีคอนโด ภูเก็ต
- ราคาทรัพย์ประมาณ 2 ล้านบาท
- ค่าเช่า 12,000-15,000 บาท/เดือน
- Yield: 7.2% – 9.0%
2.เดอะเบส ภูเก็ต
- ราคาทรัพย์ 3 ล้านบาทกลาง ๆ
- ค่าเช่า 18,000 – 20,000 บาท/เดือน
- Yield: 6.17% – 6.86%
3.บ้านสราญสิริ ภูเก็ต
- ราคาทรัพย์ 9 ล้านบาท
- ค่าเช่า 75,000 – 80,000 บาท/เดือน
- Yield: 10.0% – 10.67%
“จากความร้อนแรงของภูเก็ต ทำให้ราคาเช่าบางทีอาจเด้งขึ้นสูง เช่น พูลวิลล่าบางแห่ง ราคา 30 ล้านบาท สัญญา 1 ปี ปล่อยเช่า 2.5 แสนบาท/เดือน แต่หากรอปล่อยเช่าช่วงไฮซีซั่น จะได้ค่าเช่า 8-9 แสนบาท/3 เดือน“
แสนสิริ จ่อเปิดเพิ่ม 29 โครงการ มูลค่า 3.3 หมื่นล้านบาท ใน 5 ปี
สำหรับปี 2568 แสนสิริ เปิดตัวโครงการใหม่เพิ่มอีก 3 แห่งในภูเก็ต มูลค่ารวมราว 2,500-3,000 ล้านบาท ได้แก่
- เดอะเบส เชิงทะเล ราคาเริ่มต้น 3.65 ล้านบาท/ยูนิต
- เศรษฐศิริ เกาะแก้ว ราคา 13-20 ล้านบาท/ยูนิต
- ดีคอนโด กระทู้ ราคาเริ่มต้น 2 ล้านบาท/ยูนิต
โดยตั้งเป้ายอดขายในภูเก็ตปีนี้ ประมาณ 5,000 ล้านบาท จากปัจจุบันมีโครงการแอคทีฟอยู่ 8 โครงการ เหลือประมาณ 200-300 ยูนิตเท่านั้น
ส่วนแผนระยะยาวในอีก 5 ปีข้างหน้า (พ.ศ. 2568 – 2572) เตรียมเปิดตัวรวม 29 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 33,000 ล้านบาท แบ่งเป็น
- แนวราบ 16 โครงการ มูลค่า 12,000 ล้านบาท
- คอนโดมิเนียม 13 โครงการ มูลค่า 21,000 ล้านบาท
จากปัจจุบันแสนสิริเปิดตัวโครงการในภูเก็ตไปมากกว่า 26 โครงการ





