ธนาคารกสิกรไทย เดินหน้าฝ่ากระแสความท้าทาย ประกาศปรับยุทธศาสตร์ความยั่งยืนภายใต้แนวคิดใหม่จากแกน ESG สู่การจัดการประเด็นสำคัญแบบองค์รวม พร้อมปรับเพิ่มเป้าหมายการให้สินเชื่อและเงินลงทุนเพื่อความยั่งยืนกว่าสองเท่า เป็น 4-5 แสนล้านบาท ภายในปี 2573
ด้วยความท้าทายที่ประเทศไทยกำลังเผชิญทั้งปัจจัยภายในประเทศที่เป็นปัญหาเชิงโครงสร้าง ซึ่งจะส่งผลต่อศักยภาพในการแข่งขัน อาทิ หนี้สาธารณะและหนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูง, ความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์และสงครามการค้า, การเปลี่ยนแปลงด้านสภาพภูมิอากาศ ฯลฯ
รวมไปถึงมาตรการทางการค้าจากประเทศคู่ค้าสำคัญ อาทิ EU CBAM ที่จะเริ่มเก็บค่าธรรมเนียมคาร์บอนตั้งแต่ปี 2569 เป็นต้นไป ที่คาดว่า จะส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทยเพิ่มมากขึ้น จากปัจจุบันครอบคลุมมูลค่าสินค้า 1.1 หมื่นล้านบาท เป็นราว 2.8 หมื่นล้านบาท ภายในปี 2573
จากภาพดังกล่าว ‘จงรัก รัตนเพียร’ ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ธุรกิจที่ปรับตัวได้ก่อนจะสร้างความได้เปรียบ และจากการประเมินปัจจัยรอบด้าน ทำให้ธนาคารกสิกรไทยได้ทบทวนกลยุทธ์การทำงานด้านความยั่งยืน จากแกน ESG-based Strategy สู่การจัดการประเด็นสำคัญแบบองค์รวม (Issue-based Strategy) เพื่อให้สามารถรับมือกับความเปลี่ยนแปลงได้เร็วขึ้น
รวมถึงได้เพิ่มเป้าหมายสินเชื่อและเงินลงทุนเพื่อความยั่งยืนเป็น 4-5 แสนล้านบาท ภายในปี 2573 ซึ่งคาดว่า จะมีสัดส่วนประมาณ 20% ของพอร์ตสินเชื่อทั้งหมด ขณะที่ยอดสะสมของสินเชื่อและการลงทุนด้านความยั่งยืน ข้อมูล ณ เดือนสิงหาคม 2568 อยู่ที่กว่า 1.7 แสนล้านบาท และคาดว่าเมื่อถึงสิ้นปีนี้จะอยู่ที่ราว 2 แสนล้านบาท
โดยกลุ่มเป้าหมายของผลิตภัณฑ์ด้านความยั่งยืน ธนาคารกสิกรไทยโฟกัสไปในกลุ่ม Corporate Business เพราะเป็นภาคธุรกิจขนาดใหญ่พร้อมปรับตัว และสามารถเป็นตัวอย่างในการดำเนินการให้กับกลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอีได้
สำหรับยุทธศาสตร์ความยั่งยืนแนวคิดใหม่แบบองค์รวม จะเน้นการจัดการประเด็นสำคัญแบบองค์รวม เชื่อมโยงทุกมิติทั้งสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล กำหนดเป็นความมุ่งหมาย ที่ธนาคารมุ่งเน้นส่งมอบให้แก่ผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย 3 เรื่องหลัก ได้แก่
-การเป็นธนาคารที่ทุกคนเชื่อมั่น (Be a Most Trusted Bank) มุ่งเป็นธนาคารที่ทุกคนเชื่อมั่น พร้อมเคียงข้างผู้มีส่วนได้เสียในการก้าวผ่านความท้าทายเพื่อสร้างการเติบโตที่อย่างยั่งยืน ผ่านการบริการลูกค้า การกำกับดูแลกิจการ และการยึดมั่นในหลักจริยธรรม
-การเสริมความยืดหยุ่นพร้อมก้าวสู่อนาคตร่วมกัน (Reinforce Future-Ready Resilience) เพื่อพร้อมรับมือกับทุกความไม่แน่นอน และร่วมก้าวสู่โอกาสการเติบโตใหม่ ๆ ในอนาคต ผ่านการบริหารความเสี่ยง การสร้างนวัตกรรม และการพัฒนาขีดความสามารถ
-การสร้างการเติบโตที่ครอบคลุมและทั่วถึง (Enable Inclusive Growth) ส่งมอบพลังให้ผู้มีส่วนได้เสียเข้าถึงศักยภาพสูงสุดผ่านผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่ครอบคลุมและทั่วถึง ผ่านการขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำอย่างทั่วถึง การให้ความรู้และสร้างการเข้าถึงบริการทางการเงินที่ช่วยเสริมสร้างศักยภาพ และการสร้างความเสมอภาคทางการเงิน
นอกจากนี้ ธนาคารกสิกรไทย ได้ประกาศเจตนารมณ์สู่ Net Zero มาตั้งแต่ปี 2564 และตั้งเป้าหมายที่จะเป็น “The Most Comprehensive Climate Solution Provider – ผู้ให้บริการโซลูชันด้านสภาพภูมิอากาศที่ครอบคลุมที่สุด” และ Moving beyond finance เพื่อช่วยสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันที่จำเป็นให้กับลูกค้า
สำหรับการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการดำเนินงานของธนาคาร เพื่อไปสู่เป้าหมาย Net Zero จากการดำเนินงานของธนาคารภายในปี 2573 โดยปี 2567 ธนาคารสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 17.02% เมื่อเทียบกับปีฐาน 2563 จากการดำเนินโครงการต่างๆ เช่น การติดตั้งโซลาร์รูฟครบทุกอาคารหลัก และสาขาอีก 161 แห่ง พร้อมใช้รถยนต์ไฟฟ้าแล้วกว่า 354 คัน รวมทั้งได้รับการรับรองว่าเป็นองค์กรที่เป็นกลางทางคาร์บอนต่อเนื่องถึง 8 ปี (ปี 2561-2568)
ส่วนการสนับสนุนให้ลูกค้าสามารถเปลี่ยนผ่านสู่ธุรกิจคาร์บอนต่ำ ด้วยการสนับสนุนทั้งด้านการเงิน ความรู้ และเทคโนโลยี ผ่านการปล่อยสินเชื่อและการลงทุน โดยมียอดสะสมของสินเชื่อและการลงทุนเพื่อความยั่งยืนกว่า 173,231 ล้านบาท (ณ สิงหาคม 2568) และสามารถช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้มากกว่า 2.74 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ประกอบด้วยสินเชื่อรถยนต์ไฟฟ้ากว่า 39,000 คัน สินเชื่อเพื่ออาคารสีเขียวมากกว่า 1 ล้านตารางเมตร สินเชื่อสำหรับโครงการทางธุรกิจเพื่อความยั่งยืนกว่า 500 โครงการ เป็นต้น



