ไวส์ฯ ชี้ตลาดสร้างบ้านปี 47 สดใส เตรียมแบบบ้านกว่า 100 แบบ รองรับความต้องการลูกค้า

นายภพศักดิ์ ปานสีทอง กรรมการผู้จัดการ บริษัทไวส์ คอนซัลแทนท์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ให้บริการรับออกแบบและสร้างบ้าน กล่าวว่า แนวโน้มตลาดรับสร้างบ้านในปี 2547จะมีอัตราการเติบโตตามภาวะเศรษฐกิจ หรือมีมูลค่าตลาดรับสร้างบ้านรวมประมาณ 7,000 ล้านบาท สาเหตุเนื่องจากธุรกิจภาคอสังหาริมทรัพย์ในกลุ่มบ้านพักอาศัย เช่น คอนโดมีเนียม, อาคารพาณิชย์ ได้เติบโตอย่างรวดเร็วในปี 2546 ที่ผ่านมา รวมทั้งตลาดรับสร้างบ้านมีอัตราการเติบโต 5-7 % และในปีนี้จะเติบโตเพิ่มอีก 7-9 % เนื่องจาก ผู้บริโภคยังมีความต้องการสร้างบ้านสูงมาก โดยผู้บริโภค ต้องการบ้านที่สามารถปรับเปลี่ยนบ้านให้ลงตัวได้กับครอบครัวในราคาที่คุ้มค่า

แนวโน้มแบบบ้านในปี 2547 จะมีรูปแบบที่ทันสมัย ที่เน้นความโปร่ง โล่ง สบาย และ บริษัทฯ ได้เตรียมแบบบ้านกว่า 100 แบบ ให้ลูกค้าได้เลือก โดยแบบบ้านของบริษัทฯ จะเน้นความโปร่ง สบาย รูปทรงโค้งทำให้รู้สึกอบอุ่น และเน้นพื้นที่ใช้สอยสอดคล้องกับการใช้งานของเจ้าของบ้าน นอกจากนี้ได้ใช้วัสดุสร้างบ้านที่มีคุณภาพ เช่น กระเบื้องหลังคา ยี่ห้อซีแพค, เครื่องสุขภัณฑ์ อเมริกันสแตนดาร์ท และวัสดุอุปกรณ์ของยี่ห้อโคโนเท็กซ์ เป็นต้น ซึ่งบริษัทฯ มีแบบบ้านตั้งแต่ 2 ล้านบาทขึ้นไป โดยมีขนาดพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 200-1000 ตารางเมตร และสามารถรองรับสร้างบ้านได้ประมาณ 50-60 หลังต่อปี

“จุดเด่น ของบริษัทรับสร้างบ้าน ผู้บริโภคสามารถเลือกแบบบ้านได้จำนวนมาก และสามารถตรวจงานได้ทุกขั้นตอน หรือสามารถปรับเปลี่ยนได้ให้เข้ากับความต้องการของครอบครัว ซึ่งข้อดีดังกล่าวทำให้ตลาดรับสร้างบ้านเติบโตอย่างต่อเนื่อง และบริษัทฯตั้งเป้าในปี 2547 จะมียอดขายเพิ่มอีก 70 %” นายภพศักดิ์กล่าว

ลูกค้าหลักของบริษัทฯ ยังเน้นกลุ่มผู้บริโภคอาศัยอยู่ในกรุงเทพมหานคร หรือ ปริมณฑล และยังไม่มีนโยบายกระจายลูกค้าไปต่างจังหวัด ทั้งนี้เพื่อควบคุมคุณภาพในการสร้างบ้านในด้านบุคลากร บริษัทฯ ได้พัฒนาคุณภาพของพนักงานอย่างต่อเนื่อง โดยผู้บริหารจะเข้าไปอบรมให้ความรู้โดยตรงกับพนักงาน และถ่ายทอดประสบการณ์ที่ทำงานทางด้านธุรกิจออกแบบและสร้างบ้านมากว่า 20 ปี ดังนั้นพนักงานของบริษัท จึงเป็นผู้ที่มีความรู้และประสบการณ์อย่างแท้จริง ซึ่งสามารถให้ความรู้แก่ลูกค้าได้อย่างละเอียด

ส่วนราคาวัสดุเหล็กเส้น ที่มีการปรับเพิ่ม 19 บาทต่อกิโลกรัม เมื่อต้นมกราคมที่ผ่านมา จากเดิมที่ราคา 15 บาทต่อกิโลกรัมเมื่อเดือนธันวาคม ปี 2543 เหตุผลเนื่องจากประเทศจีนได้สั่งนำเข้าเหล็กเพื่อนำไปใช้ในประเทศประมาณ 50% ของตลาดโลก สำหรับ บริษัทฯ ยังไม่มีนโยบายปรับราคาสร้างบ้านในช่วงระยะเวลานี้ เพราะได้แก้ปัญหาโดยใช้เทคนิคในการออกแบบทางด้านวิศวกรรมโดยการเพิ่มสัดส่วนของปูนและขนาดเสาคาน แต่ยังคงความแข็งแรงในด้านโครงสร้างเหมือนเดิม