29 มกราคม 2547 – สืบเนื่องจาก บริษัท แนเชอรัล พาร์ค จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร ได้เข้าลงทุนซื้อหุ้นสามัญของบริษัท แปซิฟิค แอสเซ็ทส์ จำกัด (มหาชน) โดยปัจจุบัน แนเชอรัล พาร์ค ถือหุ้นในแปซิฟิค แอสเซ็ทส์ รวมเป็นจำนวน 211,739,547 หุ้น คิดเป็น
สัดส่วนการถือหุ้น 63.40% ของทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้ว และมีมูลค่าเงินลงทุนใน แปซิฟิค แอสเซ็ทส์ รวมทั้งสิ้น 1,693,916,376 บาท
วันนี้ บริษัท แปซิฟิค แอสเซ็ทส์ จำกัด (มหาชน) ได้จัดให้มีการประชุมคณะกรรมการบริษัท เพื่อพิจารณาอนุมัติแต่งตั้งกรรมการของบริษัท พร้อมทั้งแต่งตั้งประธานกรรมการบริษัท และประธานคณะกรรมการตรวจสอบ โดยที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท มีมติเป็นเอกฉันท์ อนุมัติแต่งตั้ง ให้ นายเสริมสิน สมะลาภา เป็นประธานกรรมการบริษัท (Chairman of the Board) และแต่งตั้ง ให้ นายวีระวงค์ จิตต์มิตรภาพ เป็นประธานคณะกรรมการตรวจสอบ (Chairman of the Audit Committee)โดยประวัติย่อของทั้งสองท่านมีดังนี้
นายเสริมสิน สมะลาภา
สำเร็จการศึกษาปริญญาตรี สาขาสถาปัตยกรรมศาสตร์ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และปริญญาโท สาขาการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ จากสถาบันเทคโนโลยีแห่งแมสซาชูเซ็ทส์ (MIT)
นายเสริมสิน มีประสบการณ์ในแวดวงอสังหาริมทรัพย์มานานกว่า 10 ปี และเคยดำรงตำแหน่ง กรรมการสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย และเป็นอาจารย์สอนวิชาการเงินอสังหาริมทรัพย์ ที่คณะพาณิชยศาสตร์
และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อีกด้วย
ปัจจุบัน นายเสริมสิน ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ (President & CEO) ของ บริษัท แนเชอรัล พาร์ค จำกัด (มหาชน)
นายวีระวงค์ จิตต์มิตรภาพ
สำเร็จการศึกษานิติศาสตร์บัณฑิต จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และนิติศาสตร์มหาบัณฑิต (LL.M.) จาก University of Pennsylvania และเนติบัณฑิตไทย และเป็นทนายความจากประเทศไทยคนแรกที่สอบเป็นเนติบัณฑิตรัฐนิวยอร์คได้
ปัจจุบัน นายวีระวงค์ ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไว้ท์ แอนด์ เคส (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นสำนักงานกฎหมายชั้นนำของโลก และดำรงตำแหน่งที่ปรึกษา สมาคมบริษัทจดทะเบียน ที่ปรึกษา ศูนย์ซื้อขายตราสารหนี้ไทย ที่ปรึกษา ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และที่ปรึกษา สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เป็นต้น
นายวีระวงค์ มีประสบการณ์เป็นที่ปรึกษากฎหมายในด้านการเงินธุรกิจ การกู้เงิน และระดมทุน การปรับโครงสร้างกิจการและโครงสร้างหนี้ การควบรวมกิจการแก่บริษัทในประเทศ และต่างประเทศ รวมทั้งการแปรรูปกิจการ โดยได้ทำเรื่องสำคัญ ๆ ในประเทศไทยมาเป็นจำนวนมาก เช่น สินเชื่อที่เกี่ยวข้องกับ
ทางด่านบางนา – บางปะกง Telecom Asia TA-Orange UCOM TAC และบริษัทชั้นนำอื่น ๆ ของประเทศไทย การปรับโครงสร้างหนี้ของ Thai Oil และการแปรรูปการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย เป็นต้น