ภเดช กันตจินดา กรรมการบริหารร้านนิตยาไก่ย่าง เปิดเผยว่า ตลาดร้านอาหารในไทย (อ้างอิงศูนย์วิจัยกสิกรไทย) มีมูลค่าราว 562,000 ล้านบาท เติบโต 3% เมื่อเทียบกับปีก่อน (YoY)
ทั้งนี้ เมนู “ส้มตำ” เป็นเมนูฮอตฮิตของคนไทยนานกว่า 20 ปี สอดคล้องกับข้อมูลยอดสั่งอาหารจากแพลตฟอร์มเดลิเวอรีอาหาร LINEMAN และ GRAB ที่พบว่า ติด Top 3 อาหารยอดนิยมในปีที่ผ่านมา!
อาหารไทย-อีสาน มีโอกาสเติบโตสูง ด้วยเป็นเมนู Comfort zone ของคนไทย ที่กินได้เกือบทุกวัน สะท้อนจากฐานสมาชิกของนิตยาไก่ย่าง (จำนวน 2 แสนคน) มีผู้มาทานซ้ำสูงสุด 130 ครั้ง/ปี หรือเฉลี่ย 2-3 วัน/สัปดาห์ โดยมียอดใช้จ่ายเฉลี่ยต่อบิลอยู่ที่ 800-900 บาท
ส่งผลให้ช่วง 4 ปีที่ผ่านมา นิตยาไก่ย่าง เติบโตต่อเนื่อง ดังนี้
- ปี 2564 รายได้ 628 ล้านบาท
- ปี 2565 รายได้ 814 ล้านบาท
- ปี 2566 รายได้ 933 ล้านบาท
- ปี 2567 รายได้ 986 ล้านบาท
- ปี 2568 ตั้งเป้ารายได้ 1,000 ล้านบาท
หากเทียบปี 2564 กับปี 2567 พบว่ารายได้เติบโตถึง 56.9%

จ่อขยายสาขาต่างจังหวัด-ต่างประเทศ พร้อมรีโนเวตสาขาเดิม
ปัจจุบันนิตยาไก่ย่าง มีสาขารวม 31 แห่ง โดย Top 3 สาขาขายดีสุด คือ ประชานุกูล พระนั่งเกล้า และประชาชื่น ส่วน 3 เมนูขายดีสุด ได้แก่ ส้มตำไทยไข่เค็ม ไก่ย่างต้นตำรับ และต้มโย้งไก่ย่าง
เบื้องต้น บริษัทฯ มีแผนรีโนเวตสาขาเดิม และขยายสาขาใหม่ต่อเนื่อง โดยใช้งบลงทุนประมาณ 10 ล้านบาท/สาขา ดังนี้
- รีโนเวตสาขาเดิม ปี 2568 เริ่มทำในสาขาซอยสายลม รังสิต พระนั่งเกล้า นวมินทร์ โดยปี 2569 มีแผนรีโนเวต 3-4 สาขาเพิ่มเติม อาทิ สาขาประชาชื่น เป็นต้น
- ขยายสาขาใหม่ เน้นทำเลต่างจังหวัด ปี 2568 นำร่องสาขาโลตัส สระบุรี และปี 2569 มีแผนขยาย 1-2 สาขา แต่อาจต้องดูควบคู่กับสภาพเศรษฐกิจในเวลานั้น ๆ ด้วย
นอกจากนี้ นิตยาไก่ย่าง ยังอยู่ระหว่างศึกษาแผนความเป็นไปได้ในการ “เปิดสาขาในต่างประเทศครั้งแรก” หลังจากมีคนติดต่อมาให้ไปเปิดในหลายพื้นที่ ส่วนจะเป็นประเทศไหนกำลังศึกษาข้อมูลอย่างจริงจัง
“ปัจจุบันมีคนเสนอพื้นที่ให้เราไปเปิดสาขาจำนวนมาก แต่ด้วยภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว จึงต้องลงทุนอย่างระมัดระวัง ทำเลที่เปิดต้องมั่นใจจริง ๆ อีกสิ่งที่ปีนี้มุ่งเน้น คือการเมนเทนยอดขายของสาขาเดิมให้ดีขึ้น”
