‘ภาระหนี้’ ยังเป็นประเด็นน่าห่วง และน่ากังวลสำหรับคนไทย โดยเฉพาะการก่อหนี้จากเทรนด์ ‘ซื้อก่อน จ่ายทีหลัง’ (Buy Now Pay Later) อีกหนึ่งบริการของอีคอมเมิร์ซที่ทำให้การก่อหนี้ได้ง่ายขึ้น แม้กระทั่ง ‘กาแฟหนึ่งเดียว’ หรือ ลิปสติกแท่งละ 150 บาท ก็ยังผ่อน
จากการเก็บข้อมูลของ ‘บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด’ หรือ ‘เครดิตบูโร’ ช่วง 20 ปีที่ผ่านมา พบว่า ช่วงหลังน้ำท่วมใหญ่ปี 2554 คือ วิกฤตหนี้หนักสุดของไทย ซึ่งมีการก่อหนี้เพิ่มสูงขึ้นจนเป็นภาระหนี้สะสม ทั้งการกู้สินเชื่อส่วนบุคคลมาซ่อมแซมบ้านและสถานประกอบการ จากนั้นถูกซ้ำเติมอีกครั้งจากวิกฤตโควิด-19 เป็นปรากฏการณ์ ‘income shock’ หรือ ‘ตกหลุมรายได้’ ทำให้ผู้คนมีรายได้ลดลงโดยที่ยังมีการะหนี้ที่ดอกเบี้ยยังเดินอยู่
สำหรับสาเหตุของภาระหนี้ที่พุ่งสูงขึ้นของคนไทย ‘สุรพล โอภาสเสถียร’ ผู้อำนวยการใหญ่ เครดิตบูโร บอกว่า ส่วนหนึ่งเกิดจาก ‘นโยบายทางการเมือง’ ในอดีต เช่น โครงการรถยนต์คันแรก บ้านหลังแรก และการรับจำนำข้าว เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังมาจาก ‘สถาบันการเงิน’ และ ‘ผู้ปล่อยสินเชื่อ’ มีการกระตุ้นหรือสร้างแรงจูงใจให้คนก่อหนี้ โดยเฉพาะปัญหาการก่อหนี้ที่น่ากลัวจากเทรนด์ใหม่ ‘ซื้อก่อน จ่ายทีหลัง’ หนึ่งในบริการของแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่ทำให้ก่อหนี้ได้ง่ายขึ้น กระทั่ง ‘กาแฟหนึ่งแก้ว’ หรือ ‘ลิปสติกแท่งละ 150 บาท’ และสินค้าอื่นๆ ก็สามารถผ่อนได้
ขณะเดียวกัน สุรพลได้เตือนว่า นโยบายการเมืองในอนาคต โดยเฉพาะข้อเสนอให้แก้ไขระบบเครดิตบูโร ที่ต้องการให้ ‘ลบประวัติเสียทันที’ หากชำระหนี้ครบ หรือผ่อนต่อเนื่อง 6 เดือน ซึ่งเป็นความเสี่ยง เพราะผู้ให้สินเชื่อไม่รู้ว่า ลูกหนี้ดีกับลูกหนี้เสีย จะถูกลบประวัติเหมือนกัน ทำให้ปล่อยกู้ยากกว่าเดิม
หนี้สินเสมือน ‘ไฟ มีทั้งคุณอนันต์และโทษมหันต์
ด้าน ‘ศ.ดร.ธานี ชัยวัฒน์’ คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้พูดถึง ‘วัฒนธรรมหนี้ 2 ทศวรรษของข้อมูลเครดิตกับเศรษฐกิจไทย’ โดยฉายภาพของการก่อหนี้ว่า หนี้สินเสมือน ‘ไฟ’ มีทั้งคุณอนันต์และโทษมหันต์ และตอนนี้เป็นปัญหาที่น่ากังวล นั่นคือ
-อดีตคนไทยก้าวเข้าสู่ระบบหนี้ครั้งแรกจาก ‘หนี้ก้อนใหญ่’ จากการซื้อบ้านหรือรถ แต่มาจากหนี้ก้อนเล็ก ซึ่งส่วนใหญ่เป็น ‘การเช่าซื้อ’ เพื่ออุปกรณ์ไอที, โทรศัพท์มือถือ, หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าเล็กๆ น้อยๆ
-คนรุ่นใหม่อายุต่ำกว่า 25 ปี ถูกดึงเข้าสู่ระบบหนี้ด้วยการผ่อนโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์ไอทีอย่างรวดเร็ว แต่ที่น่าห่วงคือ หนี้จากการผ่อนซื้อทำให้คนรุ่นใหม่จำนวนมากมีปัญหาเรื่องเครดิตบูโร เพราะมีการผ่อนมากขึ้นจนไม่สามารถจ่ายได้
-กลุ่มเสี่ยงที่สุดคือ ‘นักจ่ายขั้นต่ำ’ ที่มีจำนวนเพิ่มขึ้น โดยจากข้อมูลพบว่า คนที่จ่ายขั้นต่ำกว่า 30% ของยอดคงค้าง มีอัตราการมีปัญหาเป็นหนี้เสียสูงถึง 43.89% และมีระยะเวลาที่เริ่มมีปัญหาเร็วกว่ากลุ่มอื่น
สำหรับทางออก รศ.ดร.ธานีบอกว่า ก่อนก่อหนี้ต้อง ‘ประเมินตนเอง’ และต้องมีความรู้ทางการเงิน เพื่อไม่ให้เล่นกับไฟ จนควบคุมไม่ได้



