ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา เราคุ้นเคยกับ Guss Damn Good ในฐานะ ‘คราฟท์ไอศกรีม’ สัญชาติไทยขวัญใจคนเมือง แต่ตอนนี้เราได้เห็นความเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ของแบรนด์ ผ่านการ ‘แปลงร่าง’ ครั้งแรกมาอยู่ในรูปแบบ ‘นมพร้อมดื่ม’ ราคา 12 บาท วางจำหน่ายในร้านสะดวกซื้ออย่าง 7-Eleven
แล้วความเคลื่อนไหวครั้งนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร?
“หลายคนอาจมองว่า เราต้องการขยายโปรดักต์สู่ตลาดแมส หรือมองเห็นมูลค่าตลาดนมพร้อมดื่มที่ใหญ่กว่าตลาดไอศกรีม แต่ความจริงไม่ใช่แบบนั้น” ระริน ธรรมวัฒนะ ผู้ก่อตั้ง Guss Damn Good เล่าให้ Positioning ฟังพร้อมอธิบายเพิ่มเติมว่า
โจทย์หลักของการก่อตั้ง Guss Damn Good คือ ต้องการเปิดสวิตช์ รวมถึงส่งต่อ Good Feeling เรื่องราวและความรู้สึกดีๆ ผ่านรสชาติที่ผู้คนลิ้มลอง โดยเธอต้องการส่งต่อความรู้สึกเหล่านี้สู่ผู้คนให้ได้มากที่สุด
ด้วยโจทย์ดังกล่าว ทำให้แบรนด์สามารถจะเป็นอะไรก็ได้ ไม่จำเป็นต้องจำกัดอยู่ในรูปแบบของไอศกรีม เพื่อเข้าถึงกลุ่มคนได้กว้างและง่ายขึ้นกว่าเดิม บวกกับถ้ามีอะไรสนุกๆ ให้แบรนด์ได้ลองทำอะไรใหม่ๆ ก็อยากจะลอง ซึ่งหลักในการเลือกจะ Collab หรือพัฒนาสินค้า จะยึด core value ของแบรนด์ ได้แก่
1.ความสนุกสนาน
2.ใส่ใจรายละเอียด
3.การกล้าลงมือทำ
จากไอศกรีมสู่นมพร้อมดื่ม
สเต็ปแรกระรินเลือกแปลงร่าง Guss Damn Good จาก ‘ไอศกรีม’ สู่ ‘นมพร้อมดื่ม’ ด้วยการร่วมมือกับ ‘สุรนาม พานิชการ’ แห่ง Tofusan และ Sunshine Dairy ทำโปรเจกต์ Sunshine Dairy x Guss Damn Good นำไอศกรีมยอดฮิตของ Guss Damn Good 2 รสชาติ ได้แก่ English Toffee และ Cookies Sauce Froyo มาแปลงร่างเป็นนมพร้อมดื่มอยู่ในแพ็กเกจสามเหลี่ยม วางจำหน่ายใน 7-Eleven ทุกสาขา ประมาณ 2 เดือน
“ส่วนตัวรู้จักกับคุณนาม (สุรนาม พานิชการ) อยู่แล้ว และเขาก็ชวนมาทำอะไรสนุกๆ ร่วมกันนานแล้ว นอกจากนี้นมสดเป็นส่วนประกอบของไอศกรีมอยู่แล้ว จึงทำให้เป็นความร่วมมือที่เข้าใจง่าย”
สำหรับโปรเจกต์นี้ใช้เวลาพัฒนานานเกินครึ่งปี ทั้งการคิดสูตร พัฒนารสชาติ และออกแบบแพ็กเกจ โดยยังคง DNA และเอกลักษณ์ของแบรนด์ Guss Damn Good ไว้อย่างเหนียวแน่นไม่ว่าจะเป็น คุณภาพ ความสนุก ความใส่ใจในรายละเอียด และการกล้าลองทำ
ยกตัวอย่างเช่น นมที่นำมาผลิตเป็นนมวัวแท้มีคุณภาพสูง และมีการนำรสชาติยอดฮิตของ Guss Damn Good นับสิบรสชาติมาเลือกจนเหลือ 2 รสชาติที่นำมาพัฒนา และกว่าจะได้สูตรที่วางจำหน่าย มีการคิดสูตรมาเป็นหลายสิบสูตร กระทั่ง ‘วัว’ บนแพ็กเกจก็วาดแล้ววาดอีกจนถูกใจ
งานชิ้นโบแรกของการเรียนรู้
เมื่อถามว่า คาดหวังกับยอดขายของโปรดักต์ใหม่นี้ไว้อย่างไร?
ระรินตอบว่า ‘ไม่ได้คาดหวัง’ แต่ในฐานะเจ้าของแบรนด์เธอรู้สึกว่า ความเคลื่อนไหวนี้ถือเป็นความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญและเป็นงานชิ้นโบแดงที่จะได้เรียนรู้อะไรมากขึ้น เพราะเป็นแปลงร่างจากโปรดักต์หมวดหนึ่งไปสู่อีกหมวดหนึ่ง
รวมถึงเป็นความพยายามส่งต่อแบรนด์ไปอยู่ในที่ที่คน ‘ทุกระดับชั้น’ ไปจับจ่าย เพื่อทำให้แบรนด์มีความ friendly เข้าถึงคนได้กว้างและง่ายขึ้น จากเดิมฐานแฟนของ Guss Damn Good จะเป็นกลุ่มคนเมืองที่ชอบความแปลกใหม่
“จากคราฟท์ไอศกรีมราคา 95 บาท เราแจ้งเกิดและคนรู้จักเราในกลุ่มคนเมืองที่ชอบอะไรใหม่ๆ พอแปลงร่างเป็นนมพร้อมดื่มราคา 12 บาท วางขายในร้านสะดวกซื้อที่หาซื้อได้ง่ายขึ้น จะทำให้เราเข้าถึงคนได้ง่ายและกว้างขึ้น ซึ่งเป็นโจทย์สำคัญที่เราต้องการ”
ไม่มีแบรนด์ไหนอยู่รอด หากไม่รู้จักเปลี่ยนแปลง
สำหรับการเข้าสู่ตลาดแมส ที่มี ‘ราคา’ เป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญ อาจจะมีการแตกแบรนด์ลูกออกมา โดยแบรนด์นั้นจะต้องยังคุณค่าของความเป็น Guss Damn Good แบบจัดเต็ม ซึ่งเป็นความท้าทายที่น่าสนใจ
ระรินย้ำว่า ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ใหญ่และเป็นตำนานแค่ไหนก็ตาม ไม่มีแบรนด์ใดอยู่รอดได้หากไม่มีการเปลี่ยนแปลง แต่การเปลี่ยนแปลงนั้น ต้องคง Identity ของตัวเองไว้ สรุปง่ายๆ คือ การทรานส์ฟอร์มให้เข้ากับยุคสมัย โดยไม่ทิ้งตัวตนของตัวเองเป็นสิ่งสำคัญ
ถัดมา ต้องก้าวอย่างระมัดระวัง และรัดเข็มขัดอยู่เสมอ สำคัญ คือ ต้องพยายามมองหาโอกาสและช่องทางใหม่ๆ อยู่เสมอ โดยสำหรับเธอพยายามสร้างให้ Guss Damn Good ส่งต่อเรื่องราวและความรู้สึกดีๆ ให้ผู้คน ซึ่งสามารถเป็นอะไรก็ได้
“เรื่องนี้เป็นชาเลนจ์ของตัวเองเช่นกัน เพราะไม่มีอะไรที่ One fit all เราแค่ลงทำมือทำ ส่วนจะสำเร็จหรือล้มเหลวเป็นอีกเรื่อง ถ้าล้มเหลวก็แค่ลุกแล้วสู้ใหม่”
ปัจจุบัน Guss Damn Good มีอยู่กว่า 20 สาขา และมีแบรนด์ในเครือ ได้แก่ ‘Adam & Eve’ แบรนด์โยเกิร์ตซอฟต์เสิร์ฟกรีกไร้น้ำตาล ขายในราคา 89 บาท, ‘Balcony Cream Tea’ แบรนด์ไอศกรีมทำจากชาไต้หวัน เปิดที่เพลินจิต, ‘จรัส’ แบรนด์ไอติมทอดสไตล์ไทยๆ เปิดในย่านบรรทัดทอง
รวมถึงจะเพิ่มช่องทางจัดจำหน่ายเข้าสู่ร้านสะดวกซื้อและโมเดิร์นเทรดต่างๆ และในอนาคตเราจะได้เห็นโปรดักต์อื่นๆ ของ Guss Damn Good ที่ไม่ใช่แค่ไอศกรีมอีกแน่นอน
ส่วนจะเป็นอะไร ต้องติดตามกันต่อไป…
ที่มาภาพ : Facebook Guss Damn Good





