ดอกกุหลาบ … สินค้ายอดฮิตในวันวาเลนไทน์

ในช่วงวันวาเลนไทน์สินค้ายอดฮิตได้แก่ดอกกุหลาบ ซึ่งกลายเป็นสัญญลักษณ์ของวันวาเลนไทน์โดยเฉพาะกุหลาบสีแดง โดยการมอบกุหลาบสีแดงให้กันในวันวาเลนไทน์หมายถึงว่า “ฉันรักเธอ” ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจว่าในวันวาเลนไทน์ของทุกปีราคาดอกกุหลาบสีแดงจึงพุ่งขึ้นอย่างน่าตกใจ เนื่องจากสิ่งของที่คนรักตั้งใจจะซื้อในวันวาเลนไทน์มากเป็นอันดับหนึ่งทุกปีคือดอกกุหลาบ ในช่วงเทศกาลวันวาเลนไทน์ที่จะมาถึงนี้คาดว่าราคาดอกกุหลาบปรับราคาเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว

อย่างไรก็ตามตัวแปรสำคัญที่จะทำให้ราคาดอกกุหลาบในช่วงวันวาเลนไทน์ปรับตัวเพิ่มขึ้นไม่มากนักคือ การนำเข้าดอกกุหลาบจากจีนหรือที่เรียกกันว่ากุหลาบคุน- หมิง เนื่องจากราคาจำหน่ายดอกกุหลาบจากจีนจะใกล้เคียงกับราคาดอกกุหลาบในประเทศ ทำให้ร้านจำหน่ายดอกไม้ไม่จำเป็นต้องมีการสั่งจองซื้อ และจ่ายเงินมัดจำล่วงหน้าเหมือนเช่นทุกปีที่ผ่านมาโดยสามารถสั่งซื้อได้ทันที หรืออาจกล่าวได้ว่าบรรดาร้านดอกไม้มีดอกไม้เพียงพอกับความต้องการในช่วงวันวาเลนไทน์นี้ ในขณะที่การนำเข้ากุหลาบจากเนเธอร์แลนด์จะลดลง เนื่องจากราคาแพงกว่าดอกกุหลาบในประเทศและดอกกุหลาบจากจีนถึง 1 เท่าตัว

ดอกกุหลาบที่ขายดีที่สุดในช่วงวันวาเลนไทน์เป็นสายพันธุ์แกรนด์กาล่าที่มีดอกสีแดงสด ดอกใหญ่ ก้านตรง และไม่มีหนาม ซึ่งในช่วงตั้งแต่ต้นเดือนมกราคมเกษตรกรผู้ปลูกดอกกุหลาบส่วนใหญ่ตัดแต่งกิ่ง และให้ปุ๋ยบำรุงต้นและดอกอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้เพื่อเตรียมการณ์ให้กุหลาบจะออกดอกในช่วงวันวาเลนไทน์ กล่าวคือการตกแต่งกิ่งกุหลาบต้องใช้เวลาประมาณ 45 วันกุหลาบจึงจะเริ่มผลิดอก หลังจากนั้น 5-7 วัน เมื่อกลีบดอกเริ่มคลี่เล็กน้อยก็สามารถตัดจำหน่ายได้ โดยจะเริ่มตัดในช่วงเช้าแล้วแพ็คส่งจำหน่ายทันที หรือเกษตรกรบางรายตัดในช่วงบ่ายเมื่อตัดแล้วก็จะแช่น้ำยาก่อนแล้วนำเข้าห้องเย็นทิ้งไว้ 1 คืน จึงจะส่งขายในช่วงเช้าวันรุ่งขึ้น วิธีการนี้จะช่วยยืดอายุกุหลาบให้คงทนและสีสวย

บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด คาดว่าในปี 2547 ในช่วงวันวาเลนไทน์นี้จะมีเม็ดเงินสะพัดในธุรกิจดอกไม้ถึง 180 ล้านบาท โดยในช่วงก่อนวันวาเลนไทน์ 2-3 วันและในวันวาเลนไทน์นับว่าเป็นช่วงที่เกษตรกรผู้ปลูกกุหลาบและธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับดอกไม้สามารถสร้างรายได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ จากการสอบถามทางร้านค้าและชาวสวนแล้วคาดว่าราคาดอกกุหลาบในปี 2547 น่าจะเพิ่มขึ้นจากภาวะปกติประมาณ 2-3 เท่าตัว

โดยคาดว่าราคากุหลาบเกรดสูงซึ่งมีแหล่งปลูกทางภาคเหนือ โดยเฉพาะเชียงใหม่และเชียงรายในปีนี้มีราคาขายตั้งแต่ดอกละ 30-50 บาทขึ้นไป(ราคาเกษตรกรขายได้) โดยสีที่ขายดี ได้แก่ สีแดงและสีขาวซึ่งเป็นที่นิยมมากทุกปี ส่วนราคาดอกกุหลาบในประเทศที่ขายส่งจัดเป็นห่อ (50 ดอก)จะคิดราคาตามขนาดของดอก ความยาวของก้านดอก และสี โดยในช่วงวันวาเลนไทน์กุหลาบขนาดเล็กจะมีราคาประมาณห่อละ 80-100 บาท ขณะที่ช่วงปกติจะมีราคาเพียงห่อละ 30-50 บาท และกุหลาบขนาดใหญ่ราคา 250-300 บาทต่อห่อ จากราคาปกติ 100-120 บาท ซึ่งถือว่าถูกกว่าราคาดอกกุหลาบต่างประเทศที่จัดเป็นห่อๆละ 10 ดอก หากดอกเล็กราคาห่อละ 900-1,500 บาท จากราคาปกติ 300-400 บาท แต่ถ้าเป็นดอกขนาดใหญ่ราคาจะแพงขึ้นไปอีก

โดยดอกกุหลาบที่ขายดีที่สุดคือ สีแดงกำมะหยี่ สีแดง ชมพู โอลด์โรส เหลืองและขาวตามลำดับ
ในช่วงเทศกาลวันวาเลนไทน์ร้านจัดดอกไม้ทั้งรายใหญ่รายย่อยถือว่าเป็นเทศกาลรับทรัพย์เทศกาลหนึ่งทีเดียว ในปีที่ผ่านๆมายอดจำหน่ายของร้านดอกไม้ในช่วงเทศกาลวาเลนไทน์นี้สูงถึงเป็นตัวเลขห้าหลักทีเดียว ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับทำเลที่ตั้งของร้าน ซึ่งมีกลุ่มเป้าหมายหลักของเทศกาลวาเลนไทน์อยู่มากน้อยเพียงใด

นอกจากนี้การสั่งดอกไม้ผ่านทางอินเตอร์เน็ตเริ่มได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น โดยเข้ามาเป็นทางเลือกใหม่ให้กับผู้บริโภค เวบไซต์จำหน่ายดอกไม้ของไทยเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น โดยยอดคำสั่งซื้อในวันวาเลนไทน์มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี ซึ่งคาดว่าในวันวาเลนไทน์ปี 2547 ยอดคำสั่งซื้อดอกไม้ทางอินเตอร์เน็ตเพิ่มขึ้นประมาณ 1 เท่าตัว และหากเทียบกับวันธรรมดาแล้วยอดสั่งซื้อในวันวาเลนไทน์เพิ่มขึ้น 30-40 เท่าตัว นับว่าเป็นจุดดึงดูดนักลงทุนให้เข้ามาลงทุนทำเว็บไซต์เพื่อจำหน่ายดอกไม้กันมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันมีเว็บไซต์จำหน่ายดอกไม้ประมาณ 20 เว็บไซด์

โดยเวบไซต์ขายดอกไม้ต่างๆ มีจุดเด่นและรูปแบบทางธุรกิจที่หลากหลายและน่าสนใจ เป็นเงื่อนไขหนึ่งที่ทำให้เว็บไซต์ขายสินค้าประเภทนี้มีอนาคตสดใส ขณะเดียวกันก็กำลังพัฒนาให้มีสินค้าที่หลากหลายขึ้น เพื่อรองรับความต้องการของกลุ่มลูกค้า โดยเฉพาะสินค้าประเภทของขวัญในเทศกาลต่างๆ เช่น ตุ๊กตา เค็ก เป็นต้น โดยจะไม่จำกัดคำสั่งซื้ออยู่เฉพาะดอกไม้เพียงอย่างเดียว โดยภาพของการขยายตัวของธุรกิจร้านดอกไม้ทางอินเตอร์เน็ตในขณะนี้นั้น นับว่าเป็นธุรกิจที่น่าสนใจไม่น้อยในการลงทุนในขณะนี้ แต่ก็ยังมีอุปสรรคที่สำคัญ ได้แก่

1.การเติบโตของธุรกิจค่อนข้างจำกัดเฉพาะกลุ่มผู้ใช้บริการอินเตอร์เน็ต ซึ่งในขณะนี้จำนวนผู้ใช้บริการอินเตอร์เน็ตในประเทศไทยมีประมาณ 1 ล้านคน และมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มสูงขึ้นก็ตาม แต่ไม่ได้หมายความว่ากลุ่มของลูกค้าจะเพิ่มขึ้นมากนัก เนื่องจากมีอุปสรรคด้านราคาดอกไม้ที่จำหน่ายมีราคาค่อนข้างสูง และทำให้เป็นการเน้นที่ตลาดบน

2.แม้ว่าการให้บริการผ่านทางอินเตอร์เน็ตจะดูเหมือนว่ามีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าการทำการตลาดในรูปแบบอื่นๆ แต่ในระยะแรกที่เว็บไซต์ยังไม่เป็นที่รู้จักแพร่หลายนัก ยังต้องอาศัยสื่ออื่นๆ เป็นส่วนช่วยเสริมในการประชาสัมพันธ์เว็บไซต์ให้เป็นที่รู้จัก และสื่อต่างๆ เหล่านั้นมักจะมีค่าใช้จ่ายสูงทำให้ผู้ประกอบการต้องเผชิญกับสภาวะการขาดทุนในช่วงระยะแรก

3.การให้บริการโดยการเรียกเก็บเงินผ่านทางบัตรเครดิตแม้จะให้ความสะดวกกับผู้ใช้บริการ แต่กลุ่มลูกค้าบางส่วนยังไม่ให้ความไว้วางใจกับระบบรักษาความปลอดภัยของการใช้บัตรเครดิตในการซื้อสินค้าผ่านทางอินเตอร์เน็ต นอกจากนี้ลูกค้าจำนวนไม่น้อยก็ยังไม่ได้ใช้บริการบัตรเครดิต

4.ลูกค้ายังติดที่ภาพลักษณ์ของร้านดอกไม้ทั่วไปที่ลูกค้ามีโอกาสที่จะเดินเข้าไปเลือกซื้อสินค้าได้เองหรือปรับแต่งได้ตามความพอใจ แต่การสั่งซื้อผ่านทางอินเตอร์เน็ตนั้นลูกค้ายังไม่สามารถทราบได้ว่ารูปแบบของสินค้าว่าเป็นอย่างไร รวมทั้งสูญเสียความรู้สึกของการเป็นผู้ส่งช่อดอกไม้ด้วยตนเองในบางโอกาส แต่ถึงกระนั้นก็เป็นบางโอกาสที่ลูกค้าต้องการความเซอร์ไพรส์จากผู้รับก็สามารถที่จะชดเชยกันได้ หรือการส่งดอกไม้เพื่อการติดต่อธุรกิจซึ่งจะเพิ่มความสะดวกให้กับผู้ใช้บริการได้มาก

ปัจจุบันประเทศไทยมีพื้นที่ปลูกกุหลาบตัดดอกประมาณ 5,500 ไร่ กระจายอยู่ทั่วทุกภาคของประเทศ แหล่งปลูกที่สำคัญได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย ตาก นครปฐม สมุทรสาคร ราชบุรี และกาญจนบุรี โดยแหล่งปลูกที่มีการขยายตัวของพื้นที่มากที่สุดอยู่ในเขตอำเภอพบพระ จังหวัดตาก ซึ่งปัจจุบันประมาณว่ามีพื้นที่การผลิตถึง 3,000 ไร่ เนื่องจากอำเภอพบพระมีสภาพภูมิอากาศที่เหมาะสม พื้นที่ไม่สูงชัน และค่าจ้างแรงงานต่ำ

การผลิตกุหลาบในประเทศไทยอาจแบ่งได้เป็น 2 ลักษณะคือ การผลิตกุหลาบในเชิงปริมาณและการผลิตกุหลาบเชิงคุณภาพ การผลิตกุหลาบเชิงปริมาณหมายถึงการปลูกกุหลาบในพื้นที่ขนาดใหญ่หรือปลูกในพื้นที่ราบ ซึ่งจะให้ผลผลิตมีปริมาณมาก แต่ผลผลิตไม่ได้คุณภาพ เช่น ดอกและก้านมีขนาดเล็ก มีตำหนิจากโรคและแมลง หรือการขนส่ง อายุการปักแจกันสั้น เป็นต้น ทำให้ราคาจำหน่ายต่ำ การผลิตชนิดนี้ต้องอาศัยการผลิตในปริมาณมากเพื่อให้เกษตรกรอยู่ได้ ส่วนการผลิตกุหลาบในเชิงคุณภาพ นิยมปลูกในเขตภาคเหนือและบนที่สูง โดยปลูกกุหลาบภายใต้โรงเรือนพลาสติก ในพื้นที่จำกัด มีการจัดการการผลิต และการปฏิบัติหลังการเก็บเกี่ยวที่ดี ใช้แรงงานที่ชำนาญ ทำให้กุหลาบที่ได้มีคุณภาพดี และอายุการปักแจกันได้นาน

ตลาดของกุหลาบคุณภาพปานกลางถึงต่ำหรือตลาดล่าง ในปัจจุบันถึงขั้นอิ่มตัว เกษตรกรขายได้ราคาต่ำมาก ส่วนตลาดของกุหลาบที่มีคุณภาพสูงหรือตลาดบน ผลผลิตในประเทศยังไม่เพียงพอและขาดความต่อเนื่องของผลผลิต ทำให้ยังต้องนำเข้าดอกกุหลาบจากต่างประเทศ เช่น เนเธอร์แลนด์ จีน มาเลเซีย เป็นต้น

ประเด็นที่น่าสนใจในธุรกิจการผลิตกุหลาบในเมืองไทยก็คือ การผลิตกุหลาบที่มีคุณภาพของไทยมีไม่เพียงพอกับความต้องการ กอปรกับพื้นที่ที่เหมาะสมในการปลูกกุหลาบที่มีคุณภาพก็มีจำกัดด้วย ดังนั้นทำให้ยังต้องพึ่งพาการนำเข้ากุหลาบที่มีคุณภาพจากต่างประเทศ กุหลาบคุณภาพที่ผลิตในประเทศราคาต้นทุนประมาณ 10-15 บาทต่อดอก ในขณะที่ต่างประเทศมีต้นทุนอยู่ที่ประมาณ 2-3 บาทต่อดอกเท่านั้น

ในช่วงวันวาเลนไทน์ปี 2547 คาดว่ากุหลาบสีแดงก็ยังเป็นสินค้ายอดฮิตเช่นเดิม โดยบริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด คาดว่าในปี 2547 เม็ดเงินที่สะพัดในธุรกิจดอกไม้จะสูงถึง 180 ล้านบาท เมื่อเทียบกับในปี 2546 แล้วเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.0 ราคาดอกกุหลาบสีแดงก็จะเพิ่มขึ้นในช่วงวันวาเลนไทน์ประมาณ 2-3 เท่าตัวจากในช่วงปกติ แต่ในปีนี้ปัจจัยที่จะดึงไม่ให้ราคากุหลาบเพิ่มขึ้นไม่มากนักคือ กุหลาบจากจีนเนื่องจากราคาจำหน่ายดอกกุหลาบจากจีนจะใกล้เคียงกับราคาดอกกุหลาบในประเทศ