ดอลลาร์ดิ่ง & เงินเยนเด่น … ต้อนรับปีงบประมาณใหม่ญี่ปุ่น

เงินดอลลาร์สหรัฐฯ ทำสถิติต่ำสุดเมื่อเทียบกับเงินเยน ณ อัตรา 103.73 เยน เป็นผลจากตลาดมั่นใจว่าทางการญี่ปุ่นอาจชะลอการแทรกแซงตลาดเงิน ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจญี่ปุ่นมีแนวโน้มเข้มแข็ง ในทางตรงกันข้าม เงินดอลลาร์สหรัฐฯ ได้รับแรงกดดันจากข่าวลือที่ว่าผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐฯ นาย Alan Greenspan หัวใจล้มเหลว รวมถึงข่าวการระเบิดโรงกลั่นน้ำมันในรัฐเท็กซัสของสหรัฐฯ

สำหรับเงินยูโร ฟื้นตัวในช่วงท้ายสัปดาห์ หลังจากที่ธนาคารกลางยุโรปมีมติให้รักษาระดับอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 2.0% เหมือนเดิม ทางด้านเงินปอนด์สเตอร์ลิงอังกฤษ มีค่าเข้มแข็ง เนื่องจากรายงานเศรษฐกิจสะท้อนว่าชาวอังกฤษมีการใช้จ่ายอย่างน่าเป็นห่วง ส่งผลให้คาดว่าอังกฤษอาจเพิ่มอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้ ส่วนราคาทองคำในตลาดต่างประเทศ ขยับเพิ่มขึ้นเป็นลำดับ ซื้อขายในช่วง 420-425 ดอลลาร์/ออนซ์ เพราะแรงซื้อทองคำเป็นหลักทรัพย์เพื่อความปลอดภัย

เงินดอลลาร์สหรัฐฯ มีค่ามั่นคงในช่วงแรกของสัปดาห์ โดยเฉพาะเทียบกับเงินยูโร เป็นผลจากตลาดเงินเก็งว่ากลุ่มยูโรอาจลดอัตราดอกเบี้ย เพราะในระยะที่ผ่านๆมาเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกลุ่มยูโรล้วนออกมาแสดงความคิดเห็นในเชิงที่ว่า หากเศรษฐกิจกลุ่มยูโรยังอ่อนแอ การใช้จ่ายเพื่อการบริโภคตกอยู่ในสภาพซบเซา ธนาคารกลางยุโรปควรพิจารณาลดอัตราดอกเบี้ยลง ยิ่งไปกว่านั้น ดัชนีวัดความเชื่อมั่นทางธุรกิจของเยอรมันเดือนมีนาคมลดลงอยู่ที่ระดับ 95.4 ตอกย้ำให้ตลาดเงินเกรงว่าที่ประชุมธนากลางยุโรปอาจตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยในวันที่ 1 เมษายน นี้

อย่างไรก็ตาม เงินดอลลาร์มีค่าอ่อนตัวลงในเวลาต่อมา โดยเฉพาะเทียบกับเงินเยน เมื่อนักค้าเงินคาดว่าหลังสิ้นสุดรอบปิดงวดบัญชี ณ วันที่ 31 มีนาคมแล้ว ทางการญี่ปุ่นอาจยุติการแทรกแซงตลาดเงินเพื่อกดดันค่าเงินเยนให้ลดลง โดยอาจยอมปล่อยให้ค่าเงินเยนสูงขึ้น ตามสภาพตลาด อีกทั้งยังมีหนังสือพิมพ์จากอังกฤษรายงานโดยอ้างเจ้าหน้าที่ระดับสูงในแบงก์ชาติว่าญี่ปุ่นได้ชะลอการใช้มาตรการแทรกแซงค่าเงินเยน ซึ่งต่อมากระทรวงการคลังญี่ปุ่นได้ปฏิเสธรายงานข่าวดังกล่าว และย้ำว่านโยบายการแทรกแซงตลาดเงินยังเป็นมาตรการสำคัญ หากค่าเงินเยนผันผวนเกินไป

ในช่วงกลางสัปดาห์ ค่าเงินดอลลาร์หล่นลงอย่างหนัก เมื่อข่าวลือเกี่ยวกับนาย Alan Greenspan ที่ว่าประสบภาวะหัวใจล้มเหลว สร้างความตื่นตระหนกให้แก่ตลาดเงิน มีการเทขายเงินดอลลาร์โกลาหล ประกอบกับดัชนีวัดกิจกรรมทางธุรกิจในภาคตะวันตกของสหรัฐฯลดลง รวมถึงเหตุการณ์ระเบิดโรงกลั่นน้ำมันบริษัท BP ในรัฐเท็กซัส ก็เป็นปัจจัยลบที่กระตุ้นให้การเทขายเงินดอลลาร์ทะลักออกมามากขึ้น

เงินดอลลาร์ร่วงลงต่ำสุดในรอบ 4 ปี เมื่อเทียบกับเงินเยน ในช่วงท้ายสัปดาห์ เป็นผลจากรายงานรายไตรมาสของธนาคารกลางญี่ปุ่นระบุว่าภาวะเศรษฐกิจของประเทศอยู่ในเกณฑ์สดใสมาก ดัชนีภาคอุตสาหกรรมสูงสุดเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2540 และเป็นการเพิ่มขึ้น 4 ไตรมาสติดต่อกัน อีกทั้งรัฐมนตรีคลังญี่ปุ่นก็แสดงท่าทีผ่อนคลายเกี่ยวกับความเข้มแข็งของค่าเงินเยน ล้วนเป็นแรงจูงใจให้นักลงทุนหันมาถือเงินเยนเพิ่มมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับเงินยูโร เงินดอลลาร์กลับมีค่ากระเตื้องขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากดัชนีอุตสาหกรรมภาคการผลิตของสหรัฐฯเดือนมีนาคมดีกว่าที่คาด โดยดัชนีเพิ่มเป็น 62.5 จากระดับ 61.4 ในเดือนกุมภาพันธ์ โดยเฉพาะโรงงานผลิตมีธุรกิจหนาแน่น นับเป็นสัญญาณที่ดีแก่ภาวะการจ้างงานในสัปดาห์ข้างหน้า ยิ่งไปกว่านั้น เงินยูโรเองก็ได้รับแรงสนับสนุนจากการที่ธนาคารกลางยุโรปยังคงให้รักษาระดับอัตราดอกเบี้ยคงเดิม ทำให้นักลงทุนบางส่วนถือเงินยูโรไว้ เพราะผลตอบแทนยังสูง เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์

เงินปอนด์อังกฤษ มีค่าเพิ่มขึ้นเป็นลำดับ หลังจากที่มีรายงานเกี่ยวกับการปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยยังคงร้อนแรง มีอัตราเพิ่ม 14.5% ในเดือนกุมภาพันธ์ ทำให้ตลาดมองว่าการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางอังกฤษ 2 ครั้ง ในเดือนพฤศจิกายนและกุมภาพันธ์ ยังไม่ได้ช่วยชะลอการใช้จ่ายของผู้บริโภคแต่ประการใด จึงคาดว่าอังกฤษอาจเพิ่มอัตราดอกเบี้ยในอีก 1-2 เดือนข้างหน้านี้ จากผลการสำรวจราคาบ้านเพิ่มขึ้นราว 0.7% ในเดือนมีนาคม ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ การที่ค่าเงินดอลลาร์ทรุดลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ก็มีส่วนทำให้ค่าเงินปอนด์เข้มแข็งเช่นกันเมื่อเทียบกับเงินอเมริกัน

ราคาทองคำในตลาดต่างประเทศ พุ่งขึ้นอยู่ที่ระดับเฉลี่ยราว 425 ดอลลาร์/ออนซ์ ในวันแรกของเดือนเมษายน จากราคาเฉลี่ยราว 400 ดอลลาร์/ออนซ์ ในช่วงต้นเดือนมีนาคม ทั้งนี้ เพราะนักลงทุนยังไม่คลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์รุนแรงในยุโรปและตะวันออกกลาง โดยมีรายงานข่าวเกี่ยวกับการพบระเบิดซุกซ่อนในสถานที่สำคัญของฝรั่งเศสและอังกฤษ รวมถึงเหตุการณ์ระเบิดโรงกลั่นน้ำมันในสหรัฐฯ ล้วนจุดชนวนให้นักลงทุนหันไปถือทองคำเป็นหลักทรัพย์ปลอดภัยอีกระลอก ก่อนหน้านี้ การระเบิดรุนแรงในสเปนและการที่อิสราเอลสังหารผู้นำสำคัญของกลุ่ม Hamas รวมถึงวิกฤตร้ายแรงในอิรักอย่างต่อเนื่อง นับเป็นเรื่องเลวร้ายที่ทำให้นักลงทุนหวาดระแวงว่าจะเกิดเหตุการณ์ก่อการร้ายลุกลามไปทั่วโลก

อัตราแลกเปลี่ยนเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เทียบกับเงินตราสำคัญสกุลต่างๆ ณ วันที่ 29 มีนาคม 2547 เทียบกับวันที่ 1 เมษายน 2547 (ตัวเลขในวงเล็บ) มีดังนี้

– เงินดอลลาร์สหรัฐฯ มีค่าเท่ากับ 1.2161 ดอลลาร์/ยูโร (1.2366 ดอลลาร์/ยูโร) 105.61 เยน (103.73 เยน) และ 1.8195 ดอลลาร์/ปอนด์ (1.8580 ดอลลาร์/ปอนด์)

ราคาทองคำในตลาดลอนดอน เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2547 เท่ากับ 420.70 ดอลลาร์/ออนซ์ เทียบกับราคา 425.95 ดอลลาร์/ออนซ์ เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2547