พิษก่อการร้าย & ดอกเบี้ยสหรัฐฯ : ดอลลาร์ซึม … ทองคำซู่ซ่า

เงินดอลลาร์สหรัฐฯเคลื่อนไหวอยู่ในช่วงแคบ 1.23-1.24 ดอลลาร์/ยูโร และ 108-109 เยน/ดอลลาร์ เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯชี้ว่าธนาคารกลางอาจผ่อนคลายการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป ประกอบกับเหตุการณ์รุนแรงในอิรักยังไม่มีท่าทีว่าจะทุเลาลง ส่งผลให้สกุลเงินดอลลาร์อเมริกันขาดแรงจูงใจแก่บรรดานักลงทุน เมื่อเทียบกับสกุลเงินสำคัญอื่นๆที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า เช่น ฟรังค์สวิส เงินดอลลาร์ออสเตรเลียและเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ เป็นต้น ส่วนเงินเยนญี่ปุ่น มีค่าเข้มแข็งในช่วงแรกจากผลการเลือกตั้งวุฒิสภาญี่ปุ่น แต่กลับมีค่าลดลงหลังจากที่บริษัท Intel มีผลประกอบการไม่น่าพอใจนัก เขย่าตลาดหุ้นโตเกียว

เงินปอนด์สเตอร์ลิงอังกฤษ มีค่าอ่อนแอลง เนื่องจากเสถียรภาพทางการเมืองของนายกรัฐมนตรี Tony Blair หวั่นไหวจากการสืบสวนกรณีอิรัก สำหรับราคาทองคำในตลาดต่างประเทศ ยืนหยัดเหนือระดับ 400 ดอลลาร์/ออนซ์ ได้รับผลดีจากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯที่คลายความร้อนแรงลง รวมถึงความตึงเครียดในอิรัก

เงินดอลลาร์สหรัฐฯ มีค่าต่ำสุดในรอบกว่า 4 เดือน เมื่อเทียบกับเงินยูโร เป็นผลจากตลาดเงินเริ่มมั่นใจว่าธนาคารกลางสหรัฐฯอาจปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยอย่างช้าๆ ไม่แข็งกร้าวเหมือนที่เคยเก็งกันไว้ก่อนหน้านี้ เนื่องจากรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ทยายประกาศออกมาสะท้อนว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯยังไม่ได้ร้อนแรงจนเกินไป จนถึงขั้นอาจก่อให้เงินภาวะเงินเฟ้อรุนแรง อีกทั้ง รายงานเศรษฐกิจบางรายการยังแสดงว่าสถานการณ์เศรษฐกิจยังไม่เข้มแข็งเท่าที่ควร หากปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยรวดเร็วอาจกลายเป็นปัจจัยเหนี่ยวรั้งการขยายตัวทางเศรษฐกิจได้ ดังนั้น บรรดานักลงทุนจึงเริ่มชะลอการถือเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และหันไปลงทุนสกุลเงินสำคัญอื่นๆแทน ซึ่งให้ผลตอบแทนสูงกว่า เพราะมีการเพิ่มอัตราดอกเบี้ยไปแล้วหลายรอบ เมื่อเทียบกับสหรัฐฯที่เพิ่งปรับขึ้นเป็น 1.25% เมื่อปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม เงินดอลลาร์มีค่ากระเตื้องขึ้นชั่วขณะ หลังจากที่รายงานยอดดุลการค้าเดือนพฤษภาคมขาดดุลลดลง โดยมีมูลค่าประมาณ 45.95 พันล้านดอลลาร์ เทียบกับที่คาดการณ์ไว้เป็นเงิน 48.3 พันล้านดอลลาร์ และมูลค่าขาดดุลเดือนเมษายน 48.10 พันล้านดอลลาร์ นับเป็นตัวเลขที่ช่วยบรรเทาความวิตกกังวลเกี่ยวกับกระแสเงินทุนที่จะไหลเข้าสหรัฐฯ

เป็นที่น่าสังเกตว่า วิกฤตการณ์ขาดดุลงบประมาณของฝรั่งเศสและเยอรมนี ที่อยู่ในระดับเกินเงื่อนไขที่กลุ่มประเทศยูโรวางไว้ประมาณ 3% ของ GDP และกำลังทำลายความน่าเชื่อถือของกลุ่มประเทศยูโรที่ต้องรักษาวินัยทางการเงินและการคลังของประเทศสมาชิกอย่างเข้มงวด กลับไม่ได้มีผลกระทบกระเทือนต่อค่าเงินยูโรแต่ประการใด

ในช่วงปลายสัปดาห์ เงินดอลลาร์ยังคงมีค่าซบเซา เพราะยอดค้าปลีกสหรัฐฯเดือนมิถุนายนลดลง 1.1% รวมถึงผลผลิตภาคอุตสาหกรรมก็ลดลง 0.3% ในเดือนเดียวกัน ทำให้ลู่ทางการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯอีกระลอกคงเลื่อนออกไปอีก

เงินเยนญี่ปุ่น มีค่าดีดสูงขึ้น เมื่อผลการเลือกตั้งสภาสูงปรากฏว่าพรรครัฐบาลมีคะแนนเสียงที่เพียงพอจะสนับสนุนให้นายกรัฐมนตรี Junichiro Koizumi สามารถปฏิรูปเศรษฐกิจต่อไปได้อย่างราบรื่น นับเป็นข่าวดีแก่ค่าเงินเยน แต่อย่างไรก็ตาม เงินเยน กลับอ่อนแรงในเวลาต่อมา เนื่องจากตลาดหุ้นโตเกียวได้รับข่าวร้ายเกี่ยวกับหุ้นไฮเทคทรุดต่ำลง กระตุ้นให้มีการเทขายเงินเยนออกมา ยิ่งไปกว่านั้น การควบรวมกิจการของธนาคารชั้นนำญี่ปุ่น UFJ Holdings กับ Mitsubishi Tokyo Financial Group ไม่ได้ราบรื่นดังคาด ก็มีส่วนฉุดค่าเงินเยนเช่นกัน

เงินปอนด์อังกฤษ มีค่ามั่นคงในช่วงต้นสัปดาห์ เพราะค่าเงินดอลลาร์ตกต่ำจากแนวโน้มที่ว่าสหรัฐฯอาจไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวดเร็วนัก ทำให้นักลงทุนเปลี่ยนใจมาถือเงินปอนด์มากขึ้น ขณะที่อังกฤษกลับมีความเป็นไปได้ที่อาจเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 5 เนื่องจากราคาที่อยู่อาศัยยังคงพุ่งอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม เงินปอนด์มีค่าสะดุดลงในเวลาถัดมา หลังจากที่ Lord Butler เจ้าหน้าที่ระดับสูงของอังกฤษได้แถลงรายงานการตรวจสอบกรณีอาวุธทำลายล้างร้ายแรงในอิรัก ปรากฏผลว่าหน่วยงานด้านข่าวกรองอังกฤษให้ข้อมูลผิดพลาดเกี่ยวกับการที่อิรักซุกซ่อนอาวุธร้ายแรง จนเป็นเหตุให้อังกฤษตัดสินใจร่วมโจมตีกับสหรัฐฯ แต่รายงานไม่ได้ระบุความผิดของนายกรัฐมนตรี Tony Blair แต่อย่างใด แต่ถึงกระนั้น ก็มีส่วนบั่นทอนความน่าเชื่อถือของรัฐบาลและค่าเงินปอนด์ในช่วงปลายสัปดาห์

ราคาทองคำในตลาดต่างประเทศ เปล่งประกายสดใส ซื้อขายอยู่ในช่วง 401-406 ดอลลาร์/ออนซ์ ปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนทองคำ ได้แก่ ความซบเซาของเงินดอลลาร์ ทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯที่คลายความร้อนแรงลง รวมถึงเหตุการณ์น่าวิตกในอิรักที่ยังคงคุกรุ่นทั้งๆที่มีการจัดตั้งรัฐบาลเฉพาะกาลเรียบร้อยแล้ว ล้วนจูงใจให้นักลงทุนมีความต้องการถือทองคำเพิ่มมากขึ้นในช่วงที่ผ่านมา

อัตราแลกเปลี่ยนเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เทียบกับเงินตราสำคัญสกุลต่างๆ ณ วันที่ 12 กรกฎาคม 2547 เทียบกับวันที่ 15 กรกฎาคม 2547 (ตัวเลขในวงเล็บ) มีดังนี้

เงินดอลลาร์สหรัฐฯ มีค่าเท่ากับ 1.2409 ดอลลาร์/ยูโร (1.2360 ดอลลาร์/ยูโร) 108.28 เยน (109.80 เยน) และ 1.8648 ดอลลาร์/ปอนด์ (1.8529 ดอลลาร์/ปอนด์)

ราคาทองคำในตลาดลอนดอน เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2547 เท่ากับ 406.80 ดอลลาร์/ออนซ์ เทียบกับราคา 405.50 ดอลลาร์/ออนซ์ เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2547