รายงานภาวะตลาดหุ้นและการเงิน ประจำวันที่ 29 กรกฎาคม 2547

ดัชนีตลาดหุ้นวันนี้

ตลาดหุ้นไทยในวันพฤหัสบดีที่ 29 กรกฎาคม ปิดตลาดลดลงที่ 631.42 จุด ลดลงไป 3.31 จุด หรือร้อยละ 0.52 จากแรงขายหุ้นในกลุ่มธนาคารเนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหา NPL ของธนาคารพาณิชย์ และ การที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกได้ปรับสูงขึ้นก็ได้เป็นอีกปัจจัยที่กดดันตลาดในวันนี้

– ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดตลาดลดลงไปสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 7 วัน โดยลดลง 137.17 จุด หรือร้อยละ 1.11 ไปปิดที่ระดับ 12,183.1 จุด จากความวิตกกังวลเกี่ยวกับราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นอีกครั้ง และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารฮ่องกง ซึ่งได้ทำให้ราคาหุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ปรับตัวลดลงในวันนี้

– ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดตลาดลดลงในวันนี้ โดยลดลงไป 87.53 จุด หรือร้อยละ 0.78 ไปปิดที่ระดับ 11,116.84 จุด จากความวิตกกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับแนวโน้มของกลุ่มบริษัทเทคโนโลยี หลังจากที่ได้มีการประกาศผลประกอบการ และการคาดการณ์ผลกำไรในอนาคตที่ลดลงของหลายบริษัทในกลุ่มดังกล่าว เช่น บริษัทไพโอเนียร์ คอร์ป

– ตลาดหุ้น Dow Jones วันพุธที่ 28 กรกฎาคม ปิดตลาดเพิ่มขึ้นในวันนี้ โดยเพิ่มไป 31.93 จุด หรือร้อยละ 0.32 ไปอยู่ที่ระดับ 10,117.07 จุด โดยได้ปัจจัยหนุนจากราคาหุ้นบริษัทต่างๆหลายบริษัทได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังการเผยผลประกอบการไตรมาส 2 ที่ดีขึ้น เช่น หุ้นของบริษัทโบอิ้ง

– เงินดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับค่าเงินเยน และยูโร โดยอยู่ที่ระดับ 111.73 เยน/ดอลลาร์ฯและที่ 1.2055 ดอลลาร์ฯ/ยูโร แต่ได้อ่อนค่าลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเงินบาทที่ 41.39 บาท/ดอลลาร์ฯ

ภาวะตลาดหุ้น

Thailand’s SET
ตลาดหุ้นไทยในวันนี้ ปิดตลาดลดลงเล็กน้อยที่ 3.31 จุด หรือร้อยละ 0.52 ไปอยู่ที่ 631.42 จุด จากการที่มีแรงขายออกมาอย่างมากในหุ้นกลุ่มธนาคาร ซึ่งได้ส่งผลให้มีแรงขายหุ้นกลุ่มอื่นออกมาเพื่อลดความเสี่ยง โดยนักลงทุนยังคงมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหา NPL ของธนาคารพาณิชย์ และการที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกได้เพิ่มขึ้นอย่างมากไปสู่ระดับสูงสุดในรอบ 21 ปีที่ 43.05 ดอลลาร์ฯ/บาร์เรลในวันนี้ก็ได้เป็นอีกปัจจัยที่กดดันการซื้อขายในตลาด

Japan Nikkei-225
ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดตลาดลดลงจากวันก่อน โดยปิดที่ระดับ 11,116.84 จุด ลดลงไป 87.53 จุด หรือร้อยละ 0.78 จากความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มของกลุ่มบริษัทเทคโนโลยี หลังจากที่บางบริษัทได้มีการประกาศผลประกอบการไตรมาส2/2547 และการคาดการณ์ผลกำไรในอนาคตที่ลดลง เช่นบริษัทไพโอเนียร์ คอร์ป นอกจากนั้นราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นก็ได้เป็นอีกปัจจัยที่กดดันการซื้อขายในตลาดในวันนี้

Hang Seng
ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดตลาดลดลงถึง 137.17 จุด หรือร้อยละ 1.11 ไปปิดที่ระดับ 12,183.1 จุด จากความวิตกกังวลเกี่ยวกับราคาน้ำมันที่ได้เพิ่มขึ้นอีกครั้ง และการคาดการณ์ถึงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารฮ่องกงหากสหรัฐฯขึ้นอัตราดอกเบี้ยในครั้งต่อไป ซึ่งได้ทำให้ราคาหุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ปรับตัวลดลงไปอย่างมากในวันนี้

US ‘s Dow Jones
ตลาดหุ้นสหรัฐฯในพุธที่ 28 กรกฎาคม ปิดตลาดเพิ่มขึ้นไป 31.93 จุด หรือร้อยละ 0.32 ไปปิดที่ระดับ 10,117.07 จุด โดยตลาดได้รับแรงหนุนจากการที่หลายบริษัทได้เปิดเผยผลประกอบการไตรมาส2 ที่เพิ่มขึ้น เช่น บริษัทโบอิ้ง อย่างไรก็ตาม ความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มของธุรกิจที่ยังคงมีอยู่ได้ส่งผลให้หุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวลดลงไป นอกจากนั้นนักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงชะลอการซื้อขาย เนื่องจากราคาน้ำมันที่ได้เพิ่มสูงขึ้น โดยราคาน้ำมันดิบไลท์ส่งมอบเดือน ก.ย. ได้เพิ่มขึ้นไปถึงระดับสูงสุดในรอบ 21 ปีที่ 43.05 ดอลลาร์/บาร์เรลที่ตลาด NYMEX ในวันนี้

US’s NASDAQ
ดัชนี NASDAQ ปรับตัวลดลงไปเล็กน้อย โดยได้ปิดตลาดที่ระดับ 1,858.26 จุด ลดลง 10.84 จุด หรือ ร้อยละ 0.58 โดยตลาดได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น และการที่หุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวลดลงในวันนี้

สรุปการเคลื่อนไหวของค่าเงิน

Baht/USD
เงินบาท/เงินดอลลาร์สหรัฐฯ ปรับตัวอยู่ในช่วงแคบๆ โดยได้แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจากระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 1 ปีในวันก่อน โดยนักลงทุนส่วนใหญ่จะรอดูตัวเลขทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯที่จะประกาศออกมาในสัปดาห์นี้ โดยเฉพาะตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2 ที่จะประกาศในวันศุกร์ และให้ความสนใจกับท่าทีของธนาคารแห่งประเทศไทยต่อการที่เงินบาทได้อ่อนค่าลงไปว่าจะมีการดำเนินการอย่างไร

Yen/USD
เงินดอลลาร์สหรัฐฯยังคงแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนในวันนี้ โดยเงินดอลลาร์ฯยังคงได้รับแรงหนุนมาจากการประกาศตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐฯที่ได้เพิ่มขึ้นกว่าที่คาดไว้ ในวันก่อน และแถลงการณ์ในเชิงบวกเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐฯของ นายอลัน กรีนสแปน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ถึงแม้ว่าจะมีการประกาศยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือน มิ.ย.ที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่คาด แต่ตัวเลขดังกล่าวไม่ได้ส่งผลกระทบต่อค่าเงินมากนักในวันนี้ โดยนักลงทุนจะรอดูตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในวันนี้ และตัวเลขจีดีพีไตรมาส2 ของสหรัฐฯที่จะประกาศในวันพรุ่งนี้

USD/Euro
เงินดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินยูโรในวันนี้ โดยนักลงทุนไม่ได้ให้ความสำคัญมากนักกับตัวเลขยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือน มิ.ย. ที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่คาด โดยตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.7 หลังจากที่ได้ลดลงร้อยละ 0.9 ในเดือน พ.ค. ในขณะที่นักลงทุนคาดว่าตัวเลขดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.9 นอกจากนั้น ผลสำรวจจากรายงาน Beige Book ของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่ได้ระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯขยายตัวในเดือน มิ.ย. และต้นเดือน ก.ค.ก็ได้เป็นอีกปัจจัยที่หนุนค่าเงินดอลลาร์ฯในวันนี้

สรุปการเคลื่อนไหวของอัตราผลตอบแทนในตลาดตราสารหนี้

Thai Gov. Bond
มูลค่าการซื้อขายในวันนี้อยู่ที่ 21,030.36 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากวันก่อนร้อยละ 32.3 โดยอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลระยะสั้นส่วนใหญ่ เพิ่มขึ้นไปตั้งแต่ 1 ถึง 2 bps. ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการเพิ่มขึ้นในกลุ่มของพันธบัตรระยะกลาง และระยะยาว

Us Treasury Bond 10 Years
ราคาพันธบัตรของสหรัฐฯในวันพุธที่ 28 กรกฎาคม ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย จากการประกาศตัวเลขยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทนในเดือน มิ.ย.ที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยหากไม่นับรวมสินค้าในหมวดอาวุธ และยานพาหนะ แล้วตัวเลขดังกล่าวจะถือได้ว่าลดลงจากเดือนก่อน นอกจากนั้น การที่นักลงทุนคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป หลังการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจที่อ่อนแอหลายตัวของสหรัฐฯในช่วงที่ผ่านมา ได้เป็นปัจจัยบวกต่อตลาดพันธบัตรด้วย