โรงงานแบตเตอรี่ เอฟบี เข้ม ! ฟูรูกาวาญี่ปุ่นหนุนเทคโนโลยีล้ำยุคผลิตแบตเตอรี่ ประสิทธิภาพสูง ล่าสุด เตรียมเข้าสู่มาตรฐาน ISO/TS16949 เจาะตลาด OEM ทุกค่

30 กรกฎาคม 2547 – กระบวนการผลิตแบตเตอรี่ เอฟบี ตรวจละเอียดทุกขั้นการผลิต มุ่งพัฒนาแบตเตอรี่ชั้นสูงสำหรับการใช้งานในรูปแบบต่าง ๆ โดยเฉพาะ เน้นอายุงานยาวนานขึ้นและรักษาสิ่งแวดล้อม ด้วยเทคโนโลยีเหนือชั้นจากเครือข่ายฟูรูกาวาญี่ปุ่น ผู้นำด้านเทคโนโลยีการผลิตแบตเตอรี่ระดับโลก โดยโรงงานได้รับมาตรฐานการผลิตจากผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำได้แก่ QS.9000/ISO9001, ISO 14001 และพร้อมเดินหน้าเข้าสู่มาตรฐานการผลิตสากล ISO/TS16949 ระดมความร่วมมือบุคลากรสร้างทีมเวิร์ก เน้นการสื่อสารที่ชัดเจนในไลน์การผลิต ตั้งเป้าขยายตลาดคลอบคลุมความต้องการผู้ผลิตรถยนต์ทั่วโลก

นายธวัชชัย วงศ์ไพศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามฟูรูกาวาเทรดดิ้ง จำกัด ผู้จัดจำหน่ายแบตเตอรี่ชั้นนำของประเทศไทย ภายใต้แบรนด์ “แบตเตอรี่ เอฟบี” กล่าวว่า แบตเตอรี่ เอฟบี แหล่งพลังสำคัญของทศวรรษที่เกิดจากการผสมผสานจนเป็นหนึ่งเดียวกันระหว่างประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญและเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย จนพร้อมสมบูรณ์สำหรับยานยนต์แห่งปัจจุบันและอนาคต ด้วยคุณสมบัติพิเศษของ ระบบเก็บจ่ายกระแสไฟ ความแข็งแกร่งทนทาน รวมถึงอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า กระบวนการทางศาสตร์และศิลป์ในภาคอุตสาหกรรมนับตั้งแต่การทดลองคิดค้น การคัดเลือกวัตถุดิบ ทุกขั้นตอนการผลิต ผ่านการควบคุมคุณภาพจากผู้เชี่ยวชาญและระบบการตรวจสอบด้วยคอมพิวเตอร์ที่มีความถูกต้องแม่นยำสูง เพื่อให้ได้แบตเตอรี่ที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน

“ ศักยภาพด้านเทคโนโลยีการผลิต ระบบบริหารจัดการและบุคลากรที่มีคุณภาพเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เรามีความเชื่อว่าแบตเตอรี่ เอฟบี สามารถตอบความต้องการของผู้ใช้ได้อย่างพิเศษเฉพาะ เจาะลึกถึงการใช้งานในสภาวะการขับเคลื่อนรูปแบบต่าง ๆ และด้วยความร่วมมือของบริษัท ฟูรูกาวา แบตเตอรี่ จำกัด ประเทศญี่ปุ่น ที่ถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตอันทันสมัยอยู่เสมอ รวมทั้งการทำงานร่วมกับทีมงานชาวไทยที่ได้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเกี่ยวกับการผลิต เพื่อให้เกิดความเข้าใจผู้บริโภคชาวไทยอย่างแท้จริง ซึ่งความต้องการที่หลากหลายนี้เป็นความท้าทายของทีมวิจัยและพัฒนาแบตเตอรี่ ที่จะสร้างนวัตกรรมที่เหมาะสมที่สุดกับการใช้งาน สิ่งเหล่านี้เป็นความตั้งใจของเราในการพัฒนาระบบการผลิตทุกส่วนให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด ประหยัดวัตถุดิบ และสิ่งที่แบตเตอรี่ เอฟบี มุ่งพัฒนาไม่แพ้ความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีการผลิต คือการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม ด้วยประสบการณ์ในโรงงานผลิตแบตเตอรี่ของกลุ่มฟูรูกาวา ญี่ปุ่น กว่า 40 ปี ทำให้เราสามารถป้องกันผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้เป็นอย่างดี จนได้รับมาตรฐานการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม ISO 14001” ธวัชชัย กล่าว

นายเผด็จ ไตรอุโฆษ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามฟูรูกาวา จำกัด ผู้ผลิตแบตเตอรี่ เอฟบี กล่าวว่า หัวใจสำคัญในกระบวนการผลิตแบตเตอรี่ เอฟบี คือ ความพิถีพิถันในทุกขั้นตอนการผลิต ตั้งแต่การคัดเลือกวัตถุดิบ ผ่านกระบวนการผลิตทั้งหมด จนถึงการส่งแบตเตอรี่ไปถึงมือผู้ซื้อ บุคลากรทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะตรวจสอบคุณภาพส่วนประกอบต่าง ๆ ก่อนจะส่งไปยังขั้นตอนต่อไป ซึ่งกระบวนการผลิตที่ไม่ซับซ้อนมากนัก เช่นนี้ ทำให้มีเวลาในการตรวจสอบคุณภาพการผลิตอย่างละเอียดถี่ถ้วน

กระบวนการผลิต สามารถลำดับได้ดังนี้ 1. การออกแบบแบตเตอรี่ 2. การผลิตโครงแผ่นธาตุ (Grid) 3.การผลิตผงตะกั่วออกไซด์ (Oxide) 4.การทำแผ่นธาตุ 5. การอัดกระแสไฟฟ้าเข้าแผ่นธาตุ และสุดท้าย 6. การประกอบแบตเตอรี่

โรงงานแบตเตอรี่ เอฟบี ได้วางระบบการผลิตตามกระบวนการข้างต้น ภายใต้เทคโนโลยีจาก บริษัท ฟูรูกาวา แบตเตอรี่ จำกัด ประเทศญี่ปุ่น ที่ได้ถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตให้ ซึ่งนอกจากกระบวนการผลิตหลักข้างต้นแล้ว ยังได้รับความร่วมมือที่คลอบคลุมตั้งแต่การวิจัยและพัฒนาแบตเตอรี่ การผลิต การทดสอบการใช้งานตามสภาวะจริง การดูแลรักษาแบตเตอรี่และการจัดการผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สิ่งเหล่านี้ทำให้โรงงานแบตเตอรี่ เอฟบี มีคุณภาพการผลิตที่ได้มาตรฐาน สามารถประหยัดการใช้พลังงานและวัตถุดิบอย่างน่าพอใจ ศักยภาพการผลิตของโรงงานแบตเตอรี่เอฟ บี นี้ จึงเป็นความภาคภูมิใจในการทำงานของฝ่ายที่เกี่ยวข้องตลอดมา จนได้รับมาตรฐานการผลิต QS.9000/ISO9001 อันเป็นที่ยอมรับของผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำของโลก อาทิ ฟอร์ด, ไครส์เลอร์, จีเอ็ม เป็นต้น และด้วยปณิธานในการสร้างสรรค์นวัตกรรมระดับเลิศและตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคชาวไทยนั้น ทางโรงงานจึงไม่หยุดยั้งในการมุ่งยกระดับมาตรฐานการผลิตให้เป็นที่ยอมรับต่อผู้ผลิตรถยนต์ทั่วโลก

นายเผด็จ กล่าวต่อว่า โรงงานแบตเตอรี่ เอฟบี ได้เตรียมการเข้าสู่มาตรฐานการผลิต ISO/TS16949 ซึ่งเป็นที่ยอมรับของผู้ผลิตรถยนต์ส่วนใหญ่ของโลก ทั้ง ฟอร์ด, ไครส์เลอร์, จีเอ็ม รวมถึง โตโยต้า, อีซูซุ,ฮอนด้า และผู้ผลิตรายอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งได้วางกำหนดการตรวจสอบและการเข้าสู่มาตรฐานการผลิต ISO/TS16949 อย่างสมบูรณ์ ประมาณเดือนมิถุนายน – ตุลาคม 2547 นี้

สำหรับการดำเนินการภายในโรงงานเพื่อเข้าสู่มาตรฐานการผลิต ISO/TS16949 ทางโรงงานแบตเตอรี่ เอฟบี ได้มุ่งเน้นเรื่องการสื่อสารระหว่างทีมงานผลิตให้มีความชัดเจน เข้าใจและเห็นถึงเป้าหมายของการทำงานร่วมกัน ตลอดจนรู้จักบทบาทหน้าที่ในการทำงานอย่างชัดเจน ซึ่งจะสร้างให้เกิดทีมเวิร์ก เกิดบรรยากาศการทำงานที่มีพลัง และในการดำเนินการเข้าสู่มาตรฐานการผลิต ISO/TS16949 นั้น ทางโรงงานมีกิจกรรมเพื่อส่งเสริมและตรวจติดตามผลสำหรับการเข้าสู่มาตรฐานการผลิต ISO/TS16949 อาทิ การฝึกอบรมเกี่ยวกับมาตรฐานการผลิต ISO/TS16949 และการสัมภาษณ์พนักงาน เป็นต้น

“ผู้ใช้รถชาวไทยมีความต้องการที่หลากหลาย ดังนั้นการได้รับการยอมรับจากโรงงานผู้ผลิตรถยนต์ส่วนใหญ่ (ตลาด OEM) จะส่งผลถึงการได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภคด้วย ความต้องการที่หลากหลายของผู้ใช้รถยนต์ รถจักรยานยนต์ นั้น เราเชื่อว่าแบตเตอรี่ เอฟบี สามารถตอบความต้องการที่แตกต่างนั้นได้ และการเข้าสู่มาตรฐานการผลิต ISO/TS16949 นี้ว่าถือเป็นโอกาสที่ดี เนื่องจากทางโรงงานต้องปฏิบัติตามข้อตกลงตลอดจนขั้นตอนที่ผู้ผลิตรถยนต์รายต่าง ๆ กำหนดขึ้น ซึ่งแต่ละรายก็จะมีความแตกต่างกัน ผลที่เกิดขึ้น นอกจากการยอมรับจากผู้ผลิตรถยนต์แต่ละรายแล้ว เรายังสามารถสัมผัสความต้องการผู้ผลิตรถยนต์อย่างใกล้ชิดพร้อมกับการพัฒนาคุณภาพการทำงานของบุคลากรฝ่ายต่าง ๆ ในโรงงานอีกด้วย” เผด็จ กล่าว

นายเผด็จ กล่าวปิดท้ายว่า นอกจากแผนการเข้าสู่มาตรฐานการผลิต ISO/TS16949 แล้ว ทางโรงงานยังได้มีการติดตั้งเครื่องจักรเพิ่มในขั้นตอนการประกอบชิ้นส่วนแบตเตอรี่ เพื่อรองรับการขยายปริมาณการผลิตแบตเตอรี่ที่คาดว่าจะมีการเพิ่มการผลิตแบตเตอรี่ในอนาคตอันใกล้ เนื่องจากอุตสาหกรรมรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการขยายตลาดแบตเตอรี่ เอฟบี ทั้งภายในและต่างประเทศ