ดัชนีตลาดหุ้นวันนี้
ตลาดหุ้นไทยในวันศุกร์ที่ 30 กรกฎาคม ปิดตลาดเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ 636.7 จุด เพิ่มขึ้น 5.28 จุด หรือร้อยละ 0.84 จากแรงซื้อในหุ้นกลุ่มพลังงาน สื่อสาร และ ธนาคาร อย่างไรก็ตามการที่นักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนวันหยุดยาวในสุดสัปดาห์ได้ทำให้ปริมาณการซื้อขายลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 13 เดือน
– ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดตลาดเพิ่มขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบ 7 วันเมื่อวันก่อน โดยเพิ่มขึ้น 54.93 จุด หรือร้อยละ 0.45 ไปปิดที่ระดับ 12,238.03 จุด จากการคาดการณ์ถึงผลประกอบการไตรมาส2/2547 ที่อาจเพิ่มขึ้นของธนาคารต่างๆ และนักลงทุนได้คลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางฮ่องกง
– ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดตลาดเพิ่มขึ้นในวันนี้ โดยเพิ่มไป 208.94 จุด หรือร้อยละ 1.88 ไปปิดที่ระดับ 11,325.78 จุด โดยตลาดได้รับแรงบวกจากการปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ประกอบกับข่าวการเข้าเทคโอเวอร์ของธนาคารขนาดใหญ่ในญี่ปุ่น ได้ทำให้ราคาหุ้นในกลุ่มธนาคารปรับตัวขึ้น
– ตลาดหุ้น Dow Jones วันพฤหัสบดีที่ 29 กรกฎาคม ปิดตลาดเพิ่มขึ้นเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน โดยเพิ่มไป 12.17 จุด หรือร้อยละ 0.12 ไปอยู่ที่ระดับ 10,129.24จุด โดยได้ปัจจัยหนุนจากราคาหุ้นบริษัทเอ็กซอน โมบิล และหุ้น Aetna Inc. ที่ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังการเผยผลประกอบการไตรมาส 2 ที่ดีขึ้น
– เงินดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนค่าลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับค่าเงินเยน และบาท โดยอยู่ที่ระดับ 111.61 เยน/ดอลลาร์ฯและที่ 41.34 บาท/ดอลลาร์ฯ แต่แทบไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อนเมื่อเทียบกับเงินยูโรที่ 1.205 บาท/ยูโร ในวันนี้
ภาวะตลาดหุ้น
Thailand’s SET
ตลาดหุ้นไทยในวันนี้ ปิดตลาดเพิ่มขึ้นไป 5.28 จุด หรือร้อยละ 0.84 ไปอยู่ที่ 636.7 จุด จากการที่มีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นกลุ่มพลังงาน และ สื่อสาร จากการคาดการณ์ถึงผลประกอบการไตรมาส2/2547 ที่จะเพิ่มขึ้น นอกจากนั้นยังมีแรงซื้อกลับเข้ามาในหุ้นกลุ่มธนาคาร เนื่องจากราคาหุ้นกลุ่มดังกล่าวได้ปรับลดลงไปอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา และหุ้นในกลุ่มผู้ส่งออกกุ้ง หลังจากที่สหรัฐฯ ได้เผยว่าจะเก็บภาษีกุ้งประเทศไทยต่ำกว่าประเทศอื่นๆ
Japan Nikkei-225
ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดตลาดเพิ่มขึ้นจากวันก่อน โดยปิดที่ระดับ 11,325.78 จุด เพิ่มขึ้นถึง 208.94 จุด หรือร้อยละ 1.88 ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 21 มิ.ย. เป็นต้นมา โดยราคาหุ้นในกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีได้ปรับตัวขึ้นตามหุ้นกลุ่มเดียวกันในตลาดสหรัฐฯ นอกจากนั้นราคาหุ้นในกลุ่มธนาคารก็ได้ปรับตัวขึ้นอย่างมากเช่นเดียวกัน จากข่าวการเข้าเทคโอเวอร์ธนาคารยูเอฟเจ โฮลดิงส์ โดยธนาคารสุมิโตโม มิตซุย ไฟแนนเชียล อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงระมัดระวังในการซื้อขาย จากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และ ราคาน้ำมันที่ยังคงอยู่ในระดับสูง
Hang Seng
ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดตลาดเพิ่มขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบ 7 วันเมื่อวันก่อน โดยเพิ่มขึ้น 54.93 จุด หรือร้อยละ 0.45 ไปปิดที่ระดับ 12,238.03 จุด จากการคาดการณ์ถึงผลประกอบการไตรมาส 2/2547 ที่จะเพิ่มขึ้นของธนาคารส่วนใหญ่ในฮ่องกง ได้ทำให้หุ้นในกลุ่มดังกล่าวปรับตัวเพิ่มขึ้น นอกจากนั้นนักลงทุนส่วนใหญ่ได้คลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของรัฐบาลฮ่องกงที่อาจจะมีขึ้น ซึ่งได้ทำให้การซื้อขายกลับมาคึกคักมากขึ้น
US ‘s Dow Jones
ตลาดหุ้นสหรัฐฯในพฤหัสบดีที่ 29 กรกฎาคม ปิดตลาดเพิ่มขึ้นไปเป็นวันที่สามติดต่อกัน โดยเพิ่มขึ้น 12.17 จุด หรือร้อยละ 0.12 ไปปิดที่ระดับ 10,129.24 จุด โดยตลาดยังคงได้รับแรงหนุนจากการเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส2 ที่เพิ่มขึ้นของหลายบริษัท โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บริษัทเอ็กซอน โมบิล คอร์ป และ บริษัทประกันสุขภาพ Aetna Inc. อย่างไรก็ตาม ความวิตกกังวลเกี่ยวการก่อการร้าย และกับราคาน้ำมันที่ยังคงอยู่ในระดับสูงได้เป็นปัจจัยที่กดดันการซื้อขาย โดย FBI ได้ให้ข้อมูลการก่อการร้ายที่ยังไม่ได้รับการยืนยันในนิวเม็กซิโก และ แคลิฟอร์เนียกับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นของรัฐในวันนี้
US’s NASDAQ
ดัชนี NASDAQ ปรับตัวเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน โดยได้ปิดตลาดที่ระดับ 1,881.06 จุด เพิ่มขึ้น 22.8 จุด หรือ ร้อยละ 1.23 โดยตลาดได้รับปัจจัยบวกจากการประกาศผลประกอบการไตรมาส 2/2547 ที่ดีขึ้นของหลายบริษัท
สรุปการเคลื่อนไหวของค่าเงิน
Baht/USD
เงินบาท/เงินดอลลาร์สหรัฐฯ ปรับตัวอยู่ในช่วงแคบๆ โดยได้แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจากระดับต่ำสุดในรอบเกือบปีที่ 41.5 บาท/ดอลลาร์ฯ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา จากการที่นักลงทุนบางส่วนได้ขายเงินดอลลาร์ฯออกมาก่อนวันหยุดชดเชยวันเข้าพรรษาในวันจันทร์นี้ นอกจากนั้นการที่นักลงทุนส่วนใหญ่จะรอดูตัวเลขทางจีดีพีไตรมาส 2 ของสหรัฐฯ ได้ทำให้การซื้อขายในวันนี้เป็นไปอย่างเบาบาง
Yen/USD
เงินดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนค่าลงไปเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเงินเยนในวันนี้ หลังจากเงินดอลลาร์ฯได้แข็งค่าขึ้นไปอยู่ที่ระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือนที่ 112.5 เยน/ดอลลาร์ฯ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์ค โดยนักลงทุนส่วนใหญ่ได้ชะลอการซื้อขายก่อนการประกาศตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2 ของสหรัฐฯในวันนี้ นอกจากนั้นเงินดอลลาร์ฯยังได้รับแรงกดดันจากการที่มีแรงขายโดยกลุ่มผู้ส่งออกของญี่ปุ่นหลายรายในช่วงสิ้นเดือน นอกจากนั้นเงินเยนยังได้รับแรงบวกจากตัวเลขเศรษฐกิจที่ได้ประกาศในช่วงที่ผ่านมาซึ่งบ่งบอกว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นกำลังฟื้นตัว ได้แก่ ตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานเดือน มิ.ย.ที่ปรับลงร้อยละ 0.1 น้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ร้อยละ 0.2
USD/Euro
เงินดอลลาร์สหรัฐฯปรับตัวอยู่ในช่วงแคบๆเมื่อเทียบกับเงินยูโรในวันนี้ โดยได้อ่อนค่าลงไปหลังจากที่ได้ขึ้นไปอยู่ที่ระดับสูงสุดในรอบ 6 สัปดาห์ที่ 1.199 ดอลลาร์ฯ/ยูโร ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์ค จากการที่นักลงทุนส่วนใหญ่รอฟังการประกาศตัวเลขจีดีพีไตรมาส2 ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.9 – 4.3 เมื่อเทียบกับการขยายตัวที่ร้อยละ 3.9 ในไตรมาสแรก
สรุปการเคลื่อนไหวของอัตราผลตอบแทนในตลาดตราสารหนี้
Thai Gov. Bond
มูลค่าการซื้อขายในวันนี้อยู่ที่ 15,268.89 ล้านบาท ลดลงจากวันก่อนร้อยละ 27 โดยอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลระยะสั้นส่วนใหญ่ เพิ่มขึ้นไปตั้งแต่ 1 ถึง 11 bps. ส่วนกลุ่มของพันธบัตรระยะกลาง และระยะยาวได้ปรับตัวตั้งแต่ -3 ถึง 1 bps.
Us Treasury Bond 10 Years
ราคาพันธบัตรของสหรัฐฯในวันพฤหัสบดีที่ 29 กรกฎาคม ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยการประกาศตัวเลขดัชนีต้นทุนการผลิตที่ได้เพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 0.9 ในไตรมาส 2 ถือได้ว่าส่งผลกดดันต่อระดับราคาค่าจ้างในประเทศเพียงเล็กน้อย และส่งผลให้การขยายตัวของอัตราค่าจ้างประจำปีอยู่ที่ร้อยละ 2.5 ซึ่งเป็นการขยายตัวที่ต่ำสุดในรอบ 22 ปี ทำให้นักลงทุนคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปที่ร้อยละ 0.25 ในการประชุมแต่ละรอบ เป็นจำนวน 4 รอบจนถึงสิ้นปีนี้
