ตลาดเงินทิ้งยูโร ทุบเงินเยนถือดอลลาร์

เงินดอลลาร์สหรัฐฯ ปิดฉากเดือนกรกฎาคมอย่างแข็งแกร่ง เมื่อเทียบกับเงินสำคัญสกุลต่างๆ โดยมีค่ายืนที่ระดับเฉลี่ย 1.20 ดอลลาร์/ยูโร และมีค่าทะยานถึง 112 เยน/ดอลลาร์เป็นผลสำเร็จ ทั้งนี้เป็นผลจากตลาดเงินมั่นใจว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯกำลังขยายตัวอย่างน่าพอใจ และไม่ต้องพะวงเรื่องเงินเฟ้อมากนัก เนื่องจากธนาคารกลางสหรัฐฯพร้อมขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดภัยเงินเฟ้อรุนแล้วอยู่แล้ว สำหรับเงินเยนญี่ปุ่น มีค่าร่วงลงอย่างรวดเร็ว หลังจากที่ค่าเงินดอลลาร์มีทิศทางสดใสชัดเจน ทำให้เกิดแรงขายเงินเยนและซื้อเงินดอลลาร์สหรัฐฯ นอกจากนี้ เงินปอนด์อังกฤษก็มีค่าอ่อนไหวเช่นกันจากความแข็งแกร่งของสกุลเงินดอลลาร์ รวมถึงความหวั่นวิตกเกี่ยวกับภาวะอสังหาริมทรัพย์ในอังกฤษ

ส่วนตลาดทองคำในต่างประเทศ ค่อนข้างอับเฉา หลังจากที่ราคาทองคำหล่นลงอย่างหนัก ผ่านแนวต้าน 390 ดอลลาร์/ออนซ์ เมื่อนักลงทุนหันไปถือสกุลเงินดอลลาร์อีกครั้ง และเทขายทองคำออกมา ยิ่งไปกว่านั้น การที่ค่าเงินดอลลาร์แข็งเมื่อเทียบกับเงินสกุลอื่นๆ ยังทำให้ชาวยุโรปและชาวเอเชียพากันชะลอการซื้อทองคำ เนื่องจากราคาทองคำในรูปสกุลท้องถิ่นเหล่านั้นจะแพงขึ้น ส่งผลให้ปริมาณความต้องการซื้อทองคำในตลาดต่างประเทศอ่อนตัวลง

เงินดอลลาร์สหรัฐฯ มีค่าขยับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อน เมื่อเทียบกับเงินสกุลต่างๆ ปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนค่าเงินดอลลาร์ ได้แก่ การรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยเฉพาะดัชนีวัดความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเดือนกรกฎาคมเพิ่มอยู่ในระดับ 106.1 เทียบกับระดับ 102.8 ในเดือนมิถุนายน และเป็นการเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน รวมถึงยอดขายบ้านเดือนมิถุนายนเพิ่มถึง 2.1% นับเป็นรายงานเศรษฐกิจที่สอดคล้องกับการแถลงสถานการณ์เศรษฐกิจสหรัฐฯของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ นาย Alan Greenspan ในช่วงก่อนหน้านี้ ที่ย้ำว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯยังคงเติบโตต่อไป และปลอดภัยจากวิกฤตเงินเฟ้อ ดังนั้น บรรดานักลงทุนจึงเข้าซื้อเงินดอลลาร์ เพราะต่างมั่นใจว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯน่าจะมั่นคงไปจนถึงฤดูการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในเดือนพฤศจิกายน ศกนี้

เป็นที่น่าสังเกตว่า ถึงแม้รายงานภาวะเศรษฐกิจรายไตรมาสของธนาคารกลางสหรัฐฯ จะเพิ่งประกาศออกมาล่าสุด จะสะท้อนภาพที่ไม่ค่อยชัดเจนนัก โดยระบุว่าภาพรวมทางเศรษฐกิจเดือนมิถุนายนและกรกฎาคมยังขยายตัว แต่มีบางภูมิภาคที่มีอัตราเพิ่มเชื่องช้าลง รวมถึงรายงานที่ว่ายอดสั่งซื้อสินค้าถาวรเดือนมิถุนายนได้เพิ่มขึ้นต่ำกว่าที่คาดไว้ ล้วนเป็นตัวเลขเศรษฐกิจที่ไม่ได้ส่งผลเสียแก่ค่าเงินดอลลาร์แต่ประการใด แม้แต่ข่าวที่ว่าสายการบิน United Airline จากนครซิดนีย์ ออสเตรเลีย ซึ่งกำลังจะบินกลับไปยังลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกา ถูกข่มขู่เรื่องระเบิด ทำให้ต้องบินย้อนกลับไปตรวจสอบใหม่ ก็ไม่ได้กดดันค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯในช่วงต้นสัปดาห์

ในขณะเดียวกัน เงินดอลลาร์ได้รับแรงสนับสนุนเพิ่มขึ้นอีกในเวลาต่อมา จากรายงานข่าวที่ว่าปากีสถานได้จับกุมผู้ก่อการร้ายที่ระเบิดสถานทูตสหรัฐฯ 2 แห่งในแอฟริกาเมื่อปี 2541 ได้สำเร็จ ช่วยเติมความมั่นใจให้แก่ตลาดเงินต่อการจัดการด้านความปลอดภัยของสหรัฐฯ สาเหตุอีกประการหนึ่งที่ช่วยพยุงค่าเงินดอลลาร์ไว้อย่างดี ก็คือ ตลาดเงินไม่กล้าเทขายเงินดอลลาร์เพื่อเอากำไร เนื่องจากรอประกาศตัวเลข GDP ของสหรัฐฯไตรมาสที่ 2 ซึ่งจะเปิดเผยในช่วงท้ายของสัปดาห์

เงินเยนญี่ปุ่น มีค่าลดลงอย่างรวดเร็วจากระดับเฉลี่ยราว 109 เยน/ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 102 เยน/ดอลลาร์ เนื่องจากความเข้มแข็งของค่าเงินดอลลาร์เป็นสำคัญ ประกอบกับรายงานผลผลิตภาคอุตสาหกรรมญี่ปุ่นเดือนมิถุนายนลดลง 1.3% จากเดือนก่อน ซึ่งต่ำลงมากกว่าที่ตลาดเงินเก็งไว้ กลายเป็นปัจจัยลบที่เขย่าความมั่นใจของนักลงทุน

เงินปอนด์อังกฤษ ค่อนข้างแจ่มใสในช่วงแรก เพราะตลาดเงินเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจอังกฤษยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี และมีแนวโน้มที่ธนาคารกลางอังกฤษจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง แต่ปรากฏว่าเงินปอนด์กลับมีค่าอ่อนแรงลงเป็นลำดับ โดยได้รับแรงกดดันจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และรายงานยอดสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยที่ลดต่ำลง ทำให้เกรงว่าภาวะซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ของอังกฤษอาจเริ่มซบเซา ไม่เป็นผลดีแก่เศรษฐกิจอังกฤษโดยรวมเท่าใดนัก แต่อย่างไรก็ตาม เงินปอนด์ยังได้รับอานิสงส์ จากกระแสข่าวที่ว่าธนาคารพาณิชย์ชั้นนำของสเปนสนใจที่จะเข้าซื้อสถาบันการเงินด้านสินเชื่อที่อยู่อาศัยอันดับ 2 ของอังกฤษเป็นมูลค่าราว 8 พันล้านปอนด์ ทำให้คาดว่าปริมาณความต้องการเงินปอนด์จะเพิ่มมากขึ้นในระยะต่อไป

อัตราแลกเปลี่ยนเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เทียบกับเงินตราสำคัญสกุลต่างๆ ณ วันที่ 26 กรกฎาคม 2547 เทียบกับวันที่ 29 กรกฎาคม 2547 (ตัวเลขในวงเล็บ) มีดังนี้

เงินดอลลาร์สหรัฐฯ มีค่าเท่ากับ 1.2147 ดอลลาร์/ยูโร (1.2040 ดอลลาร์/ยูโร) 109.99 เยน (112.06 เยน) และ 1.8410 ดอลลาร์/ปอนด์ (1.8166 ดอลลาร์/ปอนด์)

ราคาทองคำในตลาดลอนดอน เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2547 เท่ากับ 390.20 ดอลลาร์/ออนซ์ เทียบกับราคา 390.30 ดอลลาร์/ออนซ์ เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2547