บล.ไทยพาณิชย์ เดินหน้างานค้าหลักทรัพย์เต็มพิกัดรุกเปิดศูนย์การลงทุนครบวงจร SCBS Trade Zone ล่าสุดที่พระราม 2

บล.ไทยพาณิชย์ ย้ำภาพสุดยอดโบรกเกอร์ไทยจากเอเชียมันนี่อีกครั้งด้วยการเดินหน้าพัฒนาด้านเทรดดิ้งเต็มกำลังชูจุดแข็งด้านบทวิเคราะห์และมาร์เกตติ้งขยายฐานลูกค้า พร้อมรุกเปิด SCBS TradeZone แห่งที่ 10 ที่เซ็นทรัล พระราม 2 แล้ววันนี้หวังช่วยกระจายศูนย์รวมการลงทุนครบวงจรสู่ลูกค้าได้ครอบคลุมทั่วประเทศและดันมาร์เก็ตแชร์พุ่งสู่ 4% ภายในปีนี้

ม.ล.ชโยทิต กฤดากร กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด เผยว่าภายหลังจาก บล.ไทยพาณิชย์ ได้รับรางวัล Best Local Brokerage หรือโบรกเกอร์ที่ดีที่สุด ของประเทศไทยจากนิตยสารเอเชียมันนี่เมื่อปีที่ผ่านมาในฐานะที่เป็นโบรกเกอร์ไทยที่มีความยอดเยี่ยมในเรื่องคุณภาพของงานวิเคราะห์หลักทรัพย์และประสิทธิภาพในการบริการซื้อขายหลักทรัพย์ บริษัทฯยังคงพัฒนาการให้บริการด้านนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์อย่างไม่หยุดยั้ง ในอันที่จะขยายฐานนักลงทุนหน้าใหม่เข้ามาในตลาดและทำให้นักลงทุนมองว่าตลาดทุนเป็นแหล่งในการออมมากกว่าการเก็งกำไร

กลยุทธ์การเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ของบล.ไทยพาณิชย์นั้นได้มุ่งเน้นการพัฒนางานวิเคราะห์หลักทรัพย์และพัฒนาทีมมาร์เก็ตติ้งให้ครอบคลุมการให้บริการแก่นักลงทุนรายย่อยและสถาบันทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งขยายบริการออกไปให้ทั่วถึงในพื้นที่ที่มีแนวโน้ม การเพิ่มขึ้นของนักลงทุนหน้าใหม่ ทั้งนี้ จึงเป็นที่มาของการเปิด SCBS TradeZone ณ เซ็นทรัล พระราม 2

นายกฤษณ์ เกษมศานติ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานค้าหลักทรัพย์บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า บล.ไทยพาณิชย์พร้อมเปิดให้บริการ SCBS Trade Zone ศูนย์รวมการลงทุนครบวงจร ณ เซ็นทรัล พระราม2 แล้ววันนี้ เพราะเล็งเห็นโอกาสในการขยายฐานลูกค้าในบริเวณถนนพระราม 2และพื้นที่ใกล้เคียง ทั้งนี้ เราได้รวบรวมข้อมูล กลยุทธ์และผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่ๆ ในการลงทุนมาอย่างครบถ้วนโดยมีเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ คอยให้คำปรึกษาและแนะนำกลยุทธ์การลงทุนในตลาดเงินและตลาดทุน

“ SCBS Trade Zone สำนักงานใหญ่ได้ก่อตั้งขึ้นที่ บล.ไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ ณอาคารสินธร ถนนวิทยุ ส่วน SCBS Trade Zone สาขาเซ็นทรัล พระราม 2 นับเป็นสาขาที่ 10 หลังจากได้เปิดสำนักงานสาขามาแล้ว 6 แห่งในกรุงเทพ และ 3แห่งในภูมิภาค คือ เชียงใหม่ สงขลา และขอนแก่น ทั้งนี้เพื่อให้บริการนักลงทุนได้ครอบคลุมทั่วประเทศและหวังเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดเป็น 4% ภายในปี 2547”

นายกฤษณ์ กล่าวต่อว่า SCBS Trade Zoneแตกต่างจากห้องค้าของบริษัทหลักทรัพย์อื่นๆเพราะมิใช่เป็นเพียงศูนย์ซื้อขายหลักทรัพย์เท่านั้นแต่ยังมีผลิตภัณฑ์ทางการเงิน เช่น ตราสารทุน (หุ้น) ตราสารหนี้และหน่วยลงทุนของกองทุนต่างๆ มาให้นักลงทุนได้เลือกลงทุน ที่เหมาะสมกับความต้องการและความเสี่ยงที่ยอมรับได้
โดยมีเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญในด้านลงทุนช่วยให้คำแนะนำด้านกลยุทธ์เพื่อวางแผนให้ตรงกับความต้องการของแต่ละบุคคลมากที่สุด

“บล.ไทยพาณิชย์ ยึดมั่นที่จะรักษาผลประโยชน์ของลูกค้าเป็นสำคัญมาโดยตลอด เราจึงมุ่งเน้นที่จะให้คำแนะนำการลงทุนที่นักลงทุนยอมรับได้พร้อมกับให้ข้อมูลความรู้ด้านการลงทุนแก่ผู้ลงทุนมากที่สุดก่อนการตัดสินใจลงทุน นอกจากนั้นยังมีโครงการที่จะจัดกิจกรรมอบรมสัมมนาเพิ่มความรู้ให้กับนักลงทุนหน้าใหม่อย่างต่อเนื่อง ดังนั้น เราจึงขอยืนยันว่าว่านักลงทุนที่มาใช้บริการ SCBS Trade Zoneจะได้รับความพึงพอใจในการลงทุนในตลาดทุนและตลาดเงินสูงสุดอย่างแน่นอน” นายกฤษณ์กล่าวในที่สุด