ดัชนีตลาดหุ้นวันนี้
ตลาดหุ้นไทยในวันพุธที่ 18 สิงหาคม ปิดตลาดเพิ่มขึ้นเป็นวันที่สามติดต่อกัน โดยเพิ่มไปอีก 2.55 จุด หรือร้อยละ 0.42 ไปอยู่ที่ 605.3 จุด มูลค่าการซื้อขายหนาแน่นที่สุดในรอบเกือบหนึ่งเดือน จากแรงซื้อที่เข้ามาอย่างหนาแน่นในหุ้นกลุ่มสื่อสารจากการคาดหวังในเรื่องการจัดตั้งคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม
– ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดตลาดปรับตัวลดลงในวันนี้ โดยลดไป 27.58 จุดหรือร้อยละ 0.23 ไปปิดที่ระดับ 12,228.54 จุด จากการปรับตัวลดลงของราคาหุ้นที่มีมูลค่าตลาดสูง เช่น ไชนา โมบาย หลังจากการเปิดเผยผลกำไรในครึ่งปีแรกซึ่งเป็นไปตามที่นักลงทุนคาดการณ์ไว้ อย่างไรก็ตาม ตลาดไม่ได้ปรับลดลงไปมากนัก เนื่องจากได้แรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของราคาหุ้นบริษัทจีนหลังจากหุ้นกลุ่มดังกล่าวได้ปรับตัวลงตั้งแต่เดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา
– ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดตลาดเพิ่มขึ้นเป็นวันที่สองติดต่อกัน โดยเพิ่มไป 48.29 จุด หรือร้อยละ 0.45 ไปปิดที่ระดับ 10,774.26 จุด โดยการที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวเพิ่มขึ้นในวันนี้ ได้ทำให้ราคาหุ้นในกลุ่มส่งออกปรับตัวสูงขึ้น และช่วยผ่อนคลายความวิตกกังวลในเรื่องของราคาน้ำมันที่ยังคงอยู่ในระดับสูง
– ตลาดหุ้น Dow Jones ในวันอังคารที่ 17 สิงหาคม ปิดตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้นไปเป็นวันที่สามอีก 18.28 จุด หรือร้อยละ 0.18 ไปอยู่ที่ระดับ 9,972.83 จุด โดยได้รับแรงบวกจากตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคเดือน ก.ค.ที่ลดลงไป และการปรับตัวขึ้นของราคาหุ้นในกลุ่มค้าปลีกหลังจากการเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 2 ที่ดีขึ้นเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับค่าเงิน
– เยน โดยอยู่ที่ระดับ 110.39 เยน/ดอลลาร์ฯ และ ทรงตัวเมื่อเทียบกับเงินบาทที่ และ 41.48 บาท/ดอลลาร์ฯ ในขณะที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินยูโรที่ 1.2 349 ดอลลาร์ฯ/ยูโร
ภาวะตลาดหุ้น
Thailand’s SET
ตลาดหุ้นไทยในวันนี้ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นวันที่สาม โดยเพิ่มไปอีก 2.55 จุด หรือร้อยละ 0.42 ไปอยู่ที่ระดับ 605.3 จุด โดยมูลค่าการซื้อขายหนาแน่นที่สุดในรอบเกือบเดือน โดยได้แรงหนุนจากแรงซื้อที่เข้ามาอย่างมากในหุ้นกลุ่มสื่อสาร จากความคาดหวังในเรื่องของการจัดตั้งคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมที่ใกล้จะสำเร็จ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงจับตาดูทิศทางของราคาน้ำมันในตลาดโลกซึ่งยังทรงตัวอยู่ในระดับสูง และเป็นปัจจัยที่กดดันการซื้อขายในวันนี้
Japan Nikkei-225
ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดตลาดปรับตัวขึ้นเป็นวันที่สองติดต่อกัน โดยปิดที่ระดับ 10,774.26 จุด เพิ่มขึ้นไป 48.29 จุด หรือร้อยละ 0.45 ทั้งนี้ตลาดได้รับแรงหนุนจากการปรับตัวสูงขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ซึ่งได้ทำให้ราคาหุ้นในกลุ่มส่งออกหลายตัวปรับเพิ่มขึ้นไป เช่น หุ้น โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป และได้ช่วยคลายความวิตกกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับราคาน้ำมันซึ่งยังคงอยู่ในระดับสูงได้ส่วนหนึ่ง
Hang Seng
ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดตลาดลดลงในวันนี้ โดยได้ลดลงไป 27.58 จุด หรือร้อยละ 0.23 ไปปิดที่ระดับ 12,228.54 จุด จากการ ปรับตัวลดลงของราคาหุ้นที่มีมูลค่าทางตลาดสูง เช่น ไชนา โมบาย หลังจากที่ได้มีการเปิดเผยผลประกอบการในครึ่งปีแรกที่ไม่แตกต่างจากที่นักลงทุนส่วนมากได้คาดไว้ อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงได้รับแรงบวกจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาหุ้นบริษัทจีนซึ่งมีแรงซื้อกลับเข้ามาหลังจากที่หุ้นกลุ่มดังกล่าวได้ปรับตัวลดลงไปตั้งแต่ปลายเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา ทำให้ตลาดไม่ได้ปรับลดลงไปมากนัก
US ‘s Dow Jones
ตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันอังคารที่ 17 สิงหาคม ปรับตัวเพิ่มขึ้นไปเป็นวันที่สามอีก 18.28 จุด หรือ ร้อยละ 0.18 ไปปิดที่ 9,972.83 จุด โดยตลาดได้รับแรงหนุนจากการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจหลายตัวที่ดีขึ้น เช่น ข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภคเดือน ก.ค.ที่ลดลงไปเป็นครั้งแรกในรอบ 8 เดือน, ตัวเลขการผลิตทางอุตสาหกรรม และ กิจกรรมการสร้างบ้านที่เพิ่มขึ้น นอกจากนั้นการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาหุ้นในกลุ่มค้าปลีกหลังจากที่ได้มีการเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 2 ที่ดีขึ้น ทำให้นักลงทุนได้คลายความกังวลเกี่ยวกับราคาน้ำมันซึ่งยังคงอยู่ในระดับสูง
US’s NASDAQ
ดัชนี NASDAQ ปรับตัวเพิ่มขึ้นไปเช่นเดียวกัน โดยได้ปิดตลาดที่ระดับ 1,795.25 จุด เพิ่มขึ้น 12.41 จุด หรือ ร้อยละ 0.7 จากการเปิดเผยตัวเลขทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้นหลายตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคเดือน ก.ค.ที่ลดลงไปซึ่งทำให้นักลงทุนคาดว่าการขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯมีแนวโน้มที่จะเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป
สรุปการเคลื่อนไหวของค่าเงิน
Baht/USD
เงินบาท/เงินดอลลาร์สหรัฐฯทรงตัวอยู่ในช่วงแคบจากวันก่อน โดยนักลงทุนส่วนใหญ่เริ่มไม่มั่นใจในทิศทางของเงินดอลลาร์ฯ หลังจากตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคเดือน ก.ค.ได้ลดลงไปร้อยละ 0.1 ซึ่งต่ำกว่าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.1 อย่างไรก็ตาม คาดว่าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯน่าจะถูกปรับขึ้นต่อไปอย่างค่อยเป็นค่อยไปจนถึงสิ้นปีนี้
Yen/USD
เงินดอลลาร์สหรัฐฯได้อ่อนค่าลงไปเมื่อเทียบกับเงินเยน หลังจากที่ได้มีการประกาศตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคเดือน ก.ค.ที่ต่ำกว่าที่คาดไว้เมื่อวันก่อน และตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯที่ลดลงไปเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ซึ่งทำให้นักลงทุนคาดว่าธนาคารสหรัฐฯจะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรุนแรงในการประชุมครั้งต่อไป นอกจากนั้นนักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงรอดูตัวเลขทางเศรษฐกิจที่สำคัญ ได้แก่ ตัวเลขการจ้างงานเดือน ส.ค.ที่จะประกาศในวันที่ 3 ก.ย.
USD/Euro
เงินดอลลาร์สหรัฐฯได้แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินยูโร โดยได้รับแรงหนุนเล็กน้อยจากตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านในเดือน ก.ค.ซึ่งได้เพิ่มขึ้นสู่ 1.978 ล้านหลัง จากที่คาดไว้ที่ 1.9 ล้านหลัง และ ตัวเลขการผลิตทางอุตสาหกรรมเดือน ก.ค.ที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.4 อย่างไรก็ตาม การประกาศตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคที่ลดลงไป และ ตัวเลขเศรษฐกิจที่อ่อนแอในช่วงที่ผ่านมา ได้ทำให้นักลงทุนคาดว่าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯจะถูกปรับขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป
