รายงานภาวะตลาดหุ้นและการเงิน ประจำวันที่ 23 สิงหาคม 2547

ดัชนีตลาดหุ้นวันนี้

ตลาดหุ้นไทยในวัน ศุกร์ที่ 20 สิงหาคม ปิดตลาดลดลงเป็นวันที่สองติดต่อกัน โดยลดลงไป 3.99 จุด หรือร้อยละ 0.66 ไปอยู่ที่ 598.55 จุด มูลค่าการซื้อขายเบาบางที่สุดในรอบ 14 เดือน โดยนักลงทุนส่วนใหญ่ชะลอการซื้อขายจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับราคาน้ำมันที่สูงขึ้น และ เพื่อรอดูทิศทางอัตราดอกเบี้ยในประเทศจากการประชุมของธนาคารแห่งประเทศไทยสัปดาห์หน้า

– ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดตลาดลดลงไป 19.77 จุดหรือร้อยละ 0.16 ไปปิดที่ระดับ 12,376.9 จุด โดยได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้นักลงทุนเกิดความกังวลเกี่ยวกับการขยายตัวของเศรษฐกิจ และการลดลงของผลกำไรภาคเอกชน

– ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดตลาดลดลงหลังจากที่ได้เพิ่มขึ้นเป็นวันที่สามติดต่อกัน โดยลดลงไป 14.39 จุด หรือร้อยละ 0.13 ไปปิดที่ระดับ 10,889.14 จุด จากการที่ราคาน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ ได้ทำให้นักลงทุนชะลอการซื้อขายหุ้น อย่างไรก็ตาม ตลาดไม่ได้ปรับลงไปมากนัก โดยได้รับแรงหนุนจากตัวเลขดัชนีกิจกรรมภาคบริการเดือน มิ.ย.ที่ดีขึ้นกว่าที่คาดไว้

– ตลาดหุ้น Dow Jones ในวันพฤหัสบดีที่ 19 สิงหาคม ปิดตลาดลดลงหลังจากที่เพิ่มขึ้นไปเป็นเวลาสี่วัน โดยลดลงไป 42.33 จุด หรือร้อยละ 0.42 ไปปิดที่ 10,040.82 จุด โดยได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบในตลาด NYMEX ที่ปรับตัวสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ ไปปิดตลาดที่ 48.7 ดอลลาร์ฯ/บาร์เรล จากข่าวเหตุการณ์รุนแรงในอิรัก และ การที่ดัชนีการผลิตของธนาคารกลางสหรัฐฯ สาขาฟิลาเดเฟีย ประจำเดือน ส.ค.ลดลงกว่าที่คาดไว้

-เงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับค่าเงินเยน ,เงินบาท และ เงินยูโร โดยอยู่ที่ระดับ 109.13 เยน/ดอลลาร์ฯ , 41.42 บาท/ดอลลาร์ฯ และที่ 1.2367ดอลลาร์ฯ/ยูโร ตามลำดับ

ภาวะตลาดหุ้น

Thailand’s SET
ตลาดหุ้นไทยในวันนี้ได้ปรับตัวลดลงเป็นวันที่สองติดต่อกัน โดยได้ลดลงไป 3.99 จุด หรือร้อยละ 0.66 ไปอยู่ที่ระดับ 598.55 จุด มูลค่าการซื้อขายเบาบางที่สุดในรอบ 14 เดือนที่ 7.4 พันล้านบาท โดยได้รับปัจจัยลบจากราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ได้เพิ่มสูงขึ้น นอกจากนั้นนักลงทุนส่วนใหญ่ชะลอการซื้อขายเพื่อรอดูทิศทางอัตราดอกเบี้ยในประเทศ จากผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินในสัปดาห์หน้า

Japan Nikkei-225
ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดตลาดปรับลดลงหลังจากที่ได้เพิ่มขึ้นเป็นเวลาสามวันติดต่อกัน โดยปิดที่ระดับ 10,889.14 จุด ลดลงไป 14.39 จุด หรือร้อยละ 0.13 โดยนักลงทุนส่วนใหญ่ได้ชะลอการซื้อขายหุ้นลงไป จากการที่ราคาน้ำมันได้ปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ในวันนี้ อย่างไรก็ตาม ตลาดไม่ได้ปรับลดลงไปมากนัก โดยได้รับแรงหนุนจากการประกาศตัวเลขดัชนีกิจกรรมภาคบริการเดือน มิ.ย.ที่ได้ปรับตัวขึ้นร้อยละ 0.8 มากกว่าที่คาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.5 ซึ่งได้ส่งผลให้ราคาหุ้นในกลุ่มค้าปลีกปรับตัวเพิ่มขึ้น

Hang Seng
ตลาดหุ้นฮ่องกงปรับตัวลดลงเช่นเดียวกับตลาดหุ้นต่างประเทศส่วนใหญ่ ที่ได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันซึ่งเพิ่มขึ้นไปสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ทำให้เกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับการลดลงของผลกำไรภาคเอกขน อย่างไรก็ตามตลาดได้รับแรงบวกอยู่บ้างจากการเพิ่มขึ้นของราคาหุ้น CNOOC ซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมัน โดยตลาดได้ลดลงไป 19.77 จุด หรือร้อยละ 0.16 ไปปิดที่ระดับ 12,376.9 จุด ในวันนี้

US ‘s Dow Jones
ตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันพฤหัสบดีที่ 19 สิงหาคม ปรับตัวลดลงหลังจากที่เพิ่มขึ้นไปสี่วันติดต่อกัน โดยลดลง 42.33 จุด หรือ ร้อยละ 0.42 ไปปิดที่ 10,040.82 จุด ทั้งนี้ตลาดได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบในตลาด NYMEX ซึ่งปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ โดยปิดตลาดที่ 48.7 ดอลลาร์ฯ/บาร์เรล โดยมีสาเหตุมาจากความรุนแรงที่เพิ่มขึ้นในอิรัก ซึ่งได้ทำให้นักลงทุนเกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับการลดลงของปริมาณน้ำมันในตลาดโลก นอกจากนั้นตัวเลขดัชนีการผลิตของธนาคารกลางสหรัฐฯ สาขาฟิลาเดเฟีย ประจำเดือน ส.ค.ที่ลดลงไปอยู่ที่ 28.5 จาก 36.1 ในเดือน ก.ค.ก็ได้เป็นอีกปัจจัยที่กดดันการซื้อขายในวันนี้

US’s NASDAQ
ดัชนี NASDAQ ปรับตัวลดลงไปอยู่ที่ระดับ 1,819.69 จุด ลดลง 11.48 จุด หรือ ร้อยละ 0.63 โดยราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ได้ส่งผลให้นักลงทุนเกิดความกังวลเกี่ยวกับต้นทุนพลังงานที่สูงขึ้นว่าจะกระทบต่อกำไรของธุรกิจ

สรุปการเคลื่อนไหวของค่าเงิน

Baht/USD
เงินบาท/เงินดอลลาร์สหรัฐฯยังคงแข็งค่าขึ้นไปจากวันก่อน โดยเป็นการแข็งค่าขึ้นเช่นเดียวกับค่าเงินเยน และ ค่าเงินส่วนใหญ่ในภูมิภาค โดยเงินดอลลาร์ฯอ่อนค่าลงไปจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการก่อการร้าย และ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ หลังจากมีข่าวการโจมตีสถานฑูตสหรัฐฯและบริษัทน้ำมัน ในอิรัก ซึ่งทำให้ราคาน้ำมันขึ้นไปสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

Yen/USD
เงินดอลลาร์สหรัฐฯได้ลดลงไปสู่ระดับต่ำที่สุดในรอบ 1 เดือนเมื่อเทียบกับเงินเยนในวันนี้ ทั้งนี้ค่าเงินเยนได้รับแรงหนุนจากการประกาศตัวเลขดัชนีกิจกรรมภาคบริการเดือน มิ.ย.ที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.8 จากที่คาดไว้ที่ร้อยละ 0.5 นักลงทุนส่วนใหญ่ไม่ได้ให้ความสนใจกับตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ที่น้อยกว่าคาดไว้มากนัก โดยได้ขายเงินดอลลาร์ฯออกมาโดยให้ความสำคัญกับตัวเลขดัชนีการผลิตเดือน ส.ค ของธนาคารกลางสหรัฐฯ สาขาฟิลาเดเฟีย ได้ลดลงกว่าที่คาดไว้ และราคาน้ำมันที่ขึ้นไปสูงถึง 48.98 ในการซื้อขายที่ตลาดโตเกียว ว่าจะกดดันการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ

USD/Euro
เงินดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนค่าลงไปเมื่อเทียบกับเงินยูโร โดยเงินดอลลาร์ฯได้รับแรงกดดันจากเหตุการณ์ความรุนแรงในอิรัก และ การที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวสู่ระดับสูงสุดครั้งใหม่ นักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงรอดูตัวเลขทางเศรษฐกิจที่สำคัญ ได้แก่ ตัวเลขการจ้างงานเดือน ส.ค.ที่จะประกาศในวันที่ 3 ก.ย. เพื่อพิจารณาถึงการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ

สรุปการเคลื่อนไหวของอัตราผลตอบแทนในตลาดตราสารหนี้

Thai Gov. Bond
มูลค่าการซื้อขายในวันนี้อยู่ที่ 8,634.53 ล้านบาท ลดลงจากวันพฤหัสที่ผ่านมาร้อยละ 35 โดยอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลส่วนใหญ่ต่างปรับตัวลดลงไปในวันนี้ โดยลดลงไปตั้งแต่ –1 ถึง -4 bps. โดยอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรอายุ 8 และ9 ปี ได้ปรับตัวลดลงไปมากที่สุดถึง –4 bps.

US Treasury Bond 10 Years
ราคาพันธบัตรของสหรัฐฯในวันพฤหัสบดีที่ 19 สิงหาคมปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยนักลงทุนคาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯอาจจะไม่ได้ฟื้นตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งตามที่ธนาคารกลางสหรัฐฯได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ เมื่อพิจารณาจากการประกาศตัวเลขดัชนีการผลิตเดือน ส.ค ของธนาคารกลางสหรัฐฯ สาขาฟิลาเดเฟีย ซึ่งลดลงไปอยู่ที่ 28.5 ต่ำกว่าเดือนก่อนซึ่งอยู่ที่ 36.1 และที่คาดไว้ว่าจะอยู่ที่ 32 ประกอบกับราคาน้ำมันซึ่งยังคงปรับตัวสูงขึ้นไปสู่ระดับสูงสุดครั้งใหม่ ทำให้คาดว่าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯอาจจะไม่ถูกปรับขึ้นไปอย่างมาก