รายงานภาวะตลาดหุ้นและการเงิน ประจำวันที่ 31 สิงหาคม 2547

ดัชนีตลาดหุ้นวันนี้

ตลาดหุ้นไทยในวันอังคารที่ 31 สิงหาคม ปิดตลาดเพิ่มขึ้นไป 12.14 จุด หรือร้อยละ 1.98 ไปปิดที่ 624.59 จุด โดยได้ปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับลดลงไป และแรงซื้อที่กลับเข้ามาในหุ้นกลุ่มธนาคารจากการที่นักลงทุนได้คลายความกังวลหลังจากที่ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ออกมาชี้แจงเกี่ยวกับการปรับเพิ่มสัดส่วนตั้งสำรอง NPL ว่าจะไม่กระทบต่อฐานะของธนาคารพาณิชย์

– ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดตลาดลดลงไป 27.5 จุดหรือร้อยละ 0.21 ไปปิดที่ระดับ 12,850.28 จุด การซื้อขายเป็นไปอย่างเบาบางจากการที่ยังไม่มีข่าวใหม่ๆเข้ามาในตลาด โดยหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ได้เริ่มลดแรงบวกลงไป หลังจากที่ปรับตัวขึ้นมากในช่วงที่ผ่านมา

– ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดตลาดลดลงเป็นวันที่สองติดต่อกัน โดยลดลง 102.74 จุด หรือร้อยละ 0.92 ไปปิดที่ระดับ 11,081.79 จุด โดยได้รับแรงกดดันจากการ ประกาศตัวเลขการผลิตในภาคอุตสาหกรรมเดือน ก.ค. ที่ทรงตัวเมื่อเทียบกับเดือน มิ.ย. และ การลดลงของราคาหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีจากความกังวลเกี่ยวกับผลประกอบการของอินเทล คอร์ป

– ตลาดหุ้น Dow Jones ในวันจันทร์ที่ 30 สิงหาคม ปิดตลาดลดลงไป 72.49 จุด หรือร้อยละ 0.71 โดยอยู่ที่ 10,122.52 จุด มูลค่าการซื้อขายเบาบางที่สุดในรอบปี โดยนักลงทุนได้หลีกเลี่ยงที่จะอยู่ในตัวเมืองระหว่างการประชุมใหญ่ของพรรครีพับลิกันที่เริ่มขึ้นในวันจันทร์ นอกจากนั้นตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์รายได้ที่อาจลดลงของอินเทล คอร์ป ซึ่งทำให้หุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ปรับตัวลดลงตามไปด้วย

– เงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลงไปเมื่อเทียบกับค่าเงินเยน ,เงินบาท และ เงินยูโร โดยอยู่ที่ระดับ 109.85 เยน/ดอลลาร์ฯ , 41.62 บาท/ดอลลาร์ฯ และที่ 1.2076 ดอลลาร์ฯ/ยูโร ตามลำดับ

ภาวะตลาดหุ้น

Thailand’s SET
ตลาดหุ้นไทยในวันนี้ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นไป 12.14 จุด หรือร้อยละ 1.98 ไปปิดที่ 624.59 จุด มูลค่าการซื้อขาย 18,217 ล้านบาท ทั้งนี้ตลาดได้รับปัจจัยบวกจากการที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกได้ปรับลดลง ทำให้มีแรงซื้อกลับเข้ามาในหุ้นขนาดใหญ่หลายตัว ประกอบกับการที่มีแรงซื้อกลับเข้ามาในหุ้นกลุ่มธนาคาร หลังจากที่ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ออกมาชี้แจงเกี่ยวการปรับสัดส่วนการตั้งสำรอง NPL ว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของธนาคารพาณิชย์

Japan Nikkei-225
ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดตลาดลดลงเป็นวันที่สองติดต่อกัน โดยลดลงไปอีก 102.74 จุด หรือร้อยละ 0.92 ไปอยู่ที่ระดับ 11,081.79 จุด ทั้งนี้ตลาดได้รับแรงกดดันจากการประกาศตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรมที่ทรงตัวในเดือน ก.ค. เมื่อเทียบกับเดือน มิ.ย. ในขณะที่นักลงทุนส่วนมากคาดการณ์ว่าตัวเลขดังกล่าวจะเพิ่มขึ้น นอกจากนั้น การปรับลดลงของราคาหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีตามทิศทางของหุ้นกลุ่มเดียวกันในสหรัฐฯ จากความวิตกกังวลถึงผลกำไรที่อาจลดลงของบริษัทอินเทล คอร์ป ก็ได้เป็นอีกปัจจัยที่กดดันตลาดให้ปรับลดลงไปในวันนี้

Hang Seng
ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดตลาดลดลงไป 27.5 จุด หรือร้อยละ 0.21 ไปปิดที่ระดับ 12,850.28 จุด โดยได้แรงกดดันจากการลดลงของราคาหุ้นบริษัทจีน ในกลุ่มที่เกี่ยวกับบริษัทวัตถุดิบ และ กลุ่มน้ำมัน การซื้อขายในวันนี้เป็นไปอย่างเบาบาง จากการที่ไม่มีข้อมูลใหม่ๆมากระตุ้นการซื้อขาย นอกจากนั้นราคาหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ได้เริ่มชะลอแรงบวกลงไป หลังจากที่ปรับขึ้นไปอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา

US ‘s Dow Jones
ตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันจันทร์ที่ผ่านมา ปิดตลาดลดลงไป 72.49 จุด หรือ ร้อยละ 0.79 ไปปิดที่ 10,122.52 จุด โดยปริมาณการซื้อขายต่ำสุดในรอบปีที่ 856 ล้านหุ้น โดยนักลงทุนส่วนใหญ่ได้หลีกเลี่ยงการที่จะอยู่ในเมืองระหว่างการประชุมใหญ่ของพรรครีพับลิกันที่เริ่มขึ้นเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา นอกจากนั้น ตลาดยังได้ปัจจัยลบจากราคาหุ้นอินเทล คอร์ปที่ได้ปรับลดลงอย่างมาก จากความวิตกกังวลว่าจะมีการปรับลดการคาดการณ์รายได้ลงไป ในการรายงานผลประกอบการกลางไตรมาสซึ่งจะมีขึ้นในวันพฤหัสบดีนี้

US’s NASDAQ
ดัชนี NASDAQ ได้ปรับลดลงเช่นเดียวกัน โดยปิดที่ระดับ 1,836.49 จุด ลดลง 25.6 จุด หรือ ร้อยละ 1.37 ทั้งนี้ความวิตกกังวลเกี่ยวกับการคาดการณ์รายได้ที่อาจลดลงของอินเทล คอร์ป ได้ส่งผลให้ราคาหุ้นในกลุ่มผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ ปรับลดลงไปอย่างมาก

สรุปการเคลื่อนไหวของค่าเงิน

Baht/USD
เงินบาท/เงินดอลลาร์สหรัฐฯได้ปรับตัวอยู่ในกรอบแคบๆจากวันก่อน โดยค่าเงินภูมิภาคส่วนใหญ่ต่างก็แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์ฯ เช่นเดียวกัน นักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงไม่มั่นใจในการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ทำให้มีการชะลอการเข้าซื้อดอลลาร์ฯเพื่อรอดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน ส.ค.ที่จะประกาศในวันศุกร์นี้

Yen/USD
เงินเยนแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ทั้งนี้นักลงทุนไม่ได้ให้ความสนใจกับตัวเลขข้อมูลการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือน ก.ค.ของญี่ปุ่นที่ต่ำกว่าที่คาดไว้มากนัก โดยเงินดอลลาร์ฯได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลทางด้านความปลอดภัยระหว่างการประชุมใหญ่พรรครีพับลิกัน ประกอบกับความไม่แน่ใจในทิศทางของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ทำให้มีการชะลอการซื้อขายก่อนการประกาศตัวเลขทางเศรษฐกิจสำคัญ ซึ่งนอกจากตัวเลขการจ้างงานเดือน ส.ค.ในวันศุกร์แล้ว ยังมีตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ส.ค.ของ Conference Board ซึ่งจะประกาศในวันนี้

USD/Euro
เงินดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนค่าลงไปเมื่อเทียบกับเงินยูโร โดยในช่วงแรกเงินดอลลาร์ฯได้รับแรงหนุนจากการประกาศตัวเลขการบริโภคส่วนบุคคลเดือน ก.ค.ที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.8 อย่างไรก็ตาม การประกาศตัวเลขรายได้รายได้ส่วนบุคคลเดือน ก.ค.ที่เพิ่มเพียงร้อยละ 0.1 ซึ่งต่ำกว่าที่คาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.5 ได้กดดันเงินดอลลาร์ให้อ่อนค่าลงในเวลาต่อมา

สรุปการเคลื่อนไหวของอัตราผลตอบแทนในตลาดตราสารหนี้

Thai Gov. Bond
มูลค่าการซื้อขายในวันนี้อยู่ที่ 8,664.1 ล้านบาท เพิ่มจากวันก่อนร้อยละ 23.41 โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรส่วนใหญ่แทบไม่เปลี่ยนแปลงในวันนี้ ทั้งนี้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะกลางและระยะยาวส่วนใหญ่ได้ปรับตัวอยู่ในช่วงตั้งแต่ -2 ถึง 1 bps.

US Treasury Bond 10 Years
ราคาพันธบัตรของสหรัฐฯ เมื่อวันจันทร์ที่ 30 สิงหาคม ได้ปรับตัวสูงขึ้น จากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการก่อการร้ายระหว่างการประชุมใหญ่ของพรรครีพับลิกัน ซึ่งได้ทำให้นักลงทุนหันไปลงทุนในพันธบัตรเนื่องจากเชื่อว่าเป็นการลงทุนที่ปลอดภัยก่อนการประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน ส.ค.ในวันศุกร์ นอกจากนั้น การประกาศตัวเลขรายได้ส่วนบุคคลเดือน ก.ค.ที่อ่อนแอกว่าที่คาดไว้ ได้ทำให้นักลงทุนคาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อในเดือน ก.ค.จะเพิ่มขึ้นไปไม่มากนัก ทำให้อัตราดอกเบี้ยไม่น่าที่จะปรับขึ้นไปอย่างมาก