รายงานภาวะตลาดหุ้นและการเงิน ประจำวันที่ 8 กันยายน 2547

ดัชนีตลาดหุ้นวันนี้

ตลาดหุ้นไทยในวันพุธที่ 8 กันยายน ปิดตลาดลดลงไปเล็กน้อยจากวันก่อน โดยปิดที่ 630.21 จุด ลดลงไป 1.19 จุด หรือร้อยละ 0.19 มูลค่าการซื้อขายที่ 1.24 หมื่นล้านบาท ตลาดยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในช่วงแคบๆ ตลอดทั้งวัน โดยได้ปรับตัวขึ้นในช่วงเช้าจากปัจจัยบวกในเรื่องของราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับตัวลดลง และ แรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติ อย่างไรก็ตาม การชะลอการเข้าซื้อของนักลงทุน และการขายทำกำไรในหุ้นบางกลุ่มได้ทำให้ตลาดปรับลดลงในช่วงบ่าย

– ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดตลาดลดลงไปจากระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือนเมื่อวันก่อน โดยปิดที่ 13,049.96 จุด ลดลงไป 86.08 จุด หรือร้อยละ 0.66 โดยได้รับแรงกดดันจากการปรับตัวลดลงของราคาหุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ส่วนใหญ่ในวันนี้

– ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดตลาดลดลงไปจากระดับสูงสุดในรอบ 5 สัปดาห์เมื่อวานนี้ โดยลดลงไป 19.75 จุด หรือร้อยละ 0.17 ไปปิดที่ระดับ 11,279.19 จุด จากการขายทำกำไรในหุ้นกลุ่มที่มูลค่าทางการตลาดต่ำบางตัว และ หุ้นกลุ่มที่ราคาได้เพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงได้แรงหนุนอยู่บ้างจากการเพิ่มขึ้นของราคาหุ้นใหม่ที่ได้นำไปคำนวณดัชนีนิกเกอิทั้ง 3 ตัว

– ตลาดหุ้น Dow Jones ในวันอังคารที่ 7 กันยายน ปิดตลาดที่ระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือน โดยอยู่ที่ระดับ 10,341.16 จุด เพิ่มขึ้น 80.96 จุดหรือร้อยละ 0.79 โดยได้แรงบวกจากการลดลงของราคาน้ำมันในตลาดโลก และการเพิ่มขึ้นของราคาหุ้นบริษัทซิสโก ซิสเทมส์ อิงค์หลังจากที่ได้มีการเพิ่มอันดับความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าว

– เงินดอลลาร์สหรัฐฯ ปรับตัวอยู่ในช่วงแคบๆเมื่อเทียบกับค่าเงินเยน , เงินยูโร และ เงินบาทในวันนี้ โดยอยู่ที่ระดับ 109.5 เยน/ดอลลาร์ฯ และที่ 1.2078 ดอลลาร์ฯ/ยูโร และที่ 41.643 บาท/ดอลลาร์ฯ ตามลำดับ

ภาวะตลาดหุ้น

Thailand’s SET
ตลาดหุ้นไทยปิดตลาดอยู่ที่ระดับ 630.21 จุด ลดลงไปเพียงเล็กน้อยจากวันก่อน 1.19 จุด หรือร้อยละ 0.19 มูลค่าการซื้อขายที่ 12,478 ล้านบาท ตลาดยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบๆ โดยในช่วงเช้าตลาดได้รับแรงบวกจากราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับลดลงไป และ แรงซื้อจากนักลงทุนต่างชาติ อย่างไรก็ตาม การที่นักลงทุนขาดปัจจัยใหม่ๆเข้ามาหนุนตลาด ทำให้นักลงทุนยังชะลอการเข้าซื้อ และ มีแรงขายทำกำไรหุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่มของพลังงาน สื่อสาร และธนาคารออกมา ส่งผลให้ตลาดปรับตัวลดลงในช่วงบ่าย

Japan Nikkei-225
ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดตลาดลดลงไปจากระดับสูงสุดในรอบ 5 สัปดาห์เมื่อวันก่อน โดยลดลงไปอีก 19.75 จุด หรือร้อยละ 0.17 ไปอยู่ที่ระดับ 11,279.19 จุด จากการขายเพื่อทำกำไรในหุ้นกลุ่มที่มีมูลค่าทางตลาดต่ำบางตัว และ หุ้นกลุ่มที่ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงได้รับแรงบวกอยู่บ้างจากการเพิ่มขึ้นของราคาหุ้นใหม่ 3 ตัวที่ได้นำไปรวมในการคำนวณดัชนีนิกเกอิ ได้แก่ หุ้นซอฟแบงก์ คอร์ป, หุ้นเดนท์สึ อิงค์ และ หุ้นนิปปอน มีท แพ็คเกอร์ส

Hang Seng
ตลาดหุ้นฮ่องกงลดลงไปในวันนี้ โดยได้ลดลงไปอีก 86.08 จุด หรือ ร้อยละ 0.66 ไปปิดที่ระดับ 13,049.96 จุด ทั้งนี้ตลาดได้รับปัจจัยลบจากการปรับตัวลดลงของราคาหุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ถึงแม้ว่าจะมีข่าวว่ารัฐบาลจะจัดให้มีการประมูลที่ดินครั้งที่ 3 ในปีนี้ของรัฐบาลฮ่องกงในเดือนหน้าก็ตามโดยได้มีการขายเพื่อทำกำไรในหุ้นกลุ่มดังกล่าวออกมา หลังจากที่ราคาได้ปรับตัวสูงขึ้นอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา

US ‘s Dow Jones
ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดตลาดที่ระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือนเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โดยได้เพิ่มขึ้นไป 80.96 จุด หรือ ร้อยละ 0.79 ไปปิดที่ 10,341.16 จุด โดยมีปริมาณการซื้อขายปานกลางที่ 1.2 พันล้านหุ้น โดยได้รับแรงบวกจากการลดลงของราคาน้ำมันในตลาดโลก ซึ่งได้ทำให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของราคาน้ำมันต่อกำไรของธุรกิจ นอกจากนั้นการที่ราคาหุ้นของบริษัทซิสโก ซิสเทมส์ ปรับตัวสูงขึ้น หลังจากมีการเพิ่มอันดับความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าวขึ้นไป ก็ได้เป็นอีกปัจจัยที่หนุนให้ตลาดปรับตัวสูงขึ้น

US’s NASDAQ
ดัชนี NASDAQ ปิดตลาดเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน โดยปิดที่ระดับ 1,858.56 จุด เพิ่มขึ้น 14.08 จุด หรือ ร้อยละ 0.76 โดยได้รับแรงบวกจากการเพิ่มขึ้นของราคาหุ้นบริษัทซิสโก ซิสเทมส์

สรุปการเคลื่อนไหวของค่าเงิน

Baht/USD
เงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในช่วงแคบๆเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯเช่นเดียวกับค่าเงินสกุลหลักอื่นๆในวันนี้ โดยเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 41.6 – 41.7 บาท/ดอลลาร์ฯ นักลงทุนส่วนใหญ่ชะลอการเข้าซื้อขายก่อนแถลงการณ์ของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯในคืนนี้ ซึ่งตลาดคาดการณ์ว่าอาจจะส่งผลให้เงินดอลลาร์ฯแข็งค่าขึ้นไปอีกเล็กน้อย

Yen/USD
เงินดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนค่าลงไปเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเงินเยน โดยได้มีการขายเงินดอลลาร์ฯออกมาเพื่อทำกำไรจากการที่ค่าเงินดังกล่าวได้แข็งค่าขึ้น หลังจากที่ได้มีการประกาศตัวเลขการจ้างงานเดือน ส.ค.ที่อยู่ในระดับที่น่าพอใจเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม คาดว่าค่าเงินจะยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในช่วงแคบๆ โดยนักลงทุนจะรอฟังแถลงการณ์ของนายอลัน กรีนสแปนต่อคณะกรรมาธิการงบประมาณประจำสภาผู้แทนของสหรัฐฯ ซึ่งจะมีขึ้นในคืนนี้ เพื่อดูแนวโน้มของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ

USD/Euro
เงินดอลลาร์สหรัฐฯ ปรับตัวอยู่ในช่วงแคบๆเมื่อเทียบกับเงินยูโร ทั้งนี้การประกาศข้อมูลการจ้างงานเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ไม่สามารถหนุนค่าเงินดอลลาร์ฯให้แข็งค่าขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง จากการที่มีแรงขายเงินดอลลาร์ฯเพื่อทำกำไรในเวลาต่อมา นักลงทุนส่วนใหญ่ชะลอการลงทุนก่อนแถลงการณ์ของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯในคืนนี้ ซึ่งคาดว่าจะมีการกล่าวย้ำถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม การที่นักลงทุนได้ปรับการคาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯจะถูกปรับขึ้นอีกร้อยละ 0.25 ในเดือนนี้ไปเรียบร้อยแล้ว ทำให้คาดว่าเงินดอลลาร์ฯจะปรับตัวขึ้นไปอีกไม่มากนัก

สรุปการเคลื่อนไหวของอัตราผลตอบแทนในตลาดตราสารหนี้

Thai Gov. Bond
มูลค่าการซื้อขายในวันนี้อยู่ที่ 10,536.68 ล้านบาท ลดลงจากวันอังคารที่ผ่านมาถึงร้อยละ 35 มูลค่าการซื้อขายส่วนใหญ่กว่าร้อยละ 57 อยู่ในกลุ่มของพันธบัตรรัฐบาล อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรระยะสั้นแทบไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อน ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะกลาง และ ระยะยาวได้ปรับตัวอยู่ในช่วงตั้งแต่ -2 ถึง 2 bps.

US Treasury Bond 10 Years
ราคาพันธบัตรของสหรัฐฯ ในวันอังคารที่ 7 กันยายน ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น อีกครั้ง จากการกลับเข้าซื้อของนักลงทุนหลังจากช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเป็นการปรับพอร์ตการลงทุนก่อนแถลงการณ์ของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯในคืนนี้ โดยราคาพันธบัตรได้ลดลงไปอย่างมากหลังการประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือน ส.ค.ที่อยู่ในระดับที่น่าพอใจเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่คาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯจะปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยขึ้นอีกร้อยละ 0.25 ในการประชุมวันที่ 21 กันยายน