ดัชนีตลาดหุ้นวันนี้
ตลาดหุ้นไทยในวันจันทร์ที่ 20 กันยายน ปิดตลาดลดลงจากวันก่อนเล็กน้อย โดยปิดที่ 668.29 จุด ลดลง 0.44 จุด หรือร้อยละ 0.07 มูลค่าการซื้อขายที่ 2.96 หมื่นล้านบาท โดยตลาดได้รับปัจจัยลบจากการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันในตลาดโลก และขายทำกำไรในหุ้นกลุ่มสื่อสารและไฟแนนซ์ ก่อนการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯในวันพรุ่งนี้
– ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดตลาดลดลงไปเล็กน้อยจากระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือนเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยลดลงไป 3.6 จุด หรือร้อยละ 0.03 ไปปิดที่ 13,221.33 จุด จากการปรับตัวลงของราคาหุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ส่วนใหญ่ โดยนักลงทุนได้ขายหุ้นดังกล่าวออกมาเพื่อทำกำไรจากการที่ราคาได้ปรับขึ้นไปอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา
– ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันหยุดประจำชาติ
– ตลาดหุ้น Dow Jones ในวันศุกร์ที่ 17 กันยายน ปิดตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ 10,284.46 จุด เพิ่มขึ้นไป 39.97 จุดหรือร้อยละ 0.39 โดยได้รับปัจจัยบวกจากการปรับเพิ่มตัวเลขการคาดการณ์ผลประกอบการของบริษัทฟอร์ด มอเตอร์ อย่างไรก็ตาม การเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับพายุเฮอริเคน ได้ทำให้นักลงทุนเกิดความกังวลเกี่ยวกับผลกำไรของภาคธุรกิจที่อาจลดลงไป
– เงินดอลลาร์สหรัฐฯ ทรงตัวเมื่อเทียบกับค่าเงินบาท โดยอยู่ที่ระดับ 41.263 บาท/ดอลลาร์ฯ ,อ่อนค่าลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 109.79 เยน/ดอลลาร์ฯ แต่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินยูโรที่ 1.2156 ดอลลาร์ฯ/ยูโร
ภาวะตลาดหุ้น
Thailand’s SET
ตลาดหุ้นไทยปิดตลาดลดลงในวันนี้ โดยอยู่ที่ 668.29 จุด ลดลงไป 0.44 จุด หรือร้อยละ 0.07 มูลค่าการซื้อขายหนาแน่นกว่า 29,675.81 ล้านบาท ตลาดได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเช้าจากแรงซื้อในกลุ่มของหุ้นขนาดใหญ่ อย่างไรก็ตาม ตลาดได้ปรับตัวลดลงในช่วงบ่าย โดยได้รับแรงกดดันจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันในตลาดโลก และการขายทำกำไรในหุ้นกลุ่มสื่อสาร และไฟแนนซ์ ก่อนการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯในวันพรุ่งนี้
Japan Nikkei-225
ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดทำการในวันนี้ เนื่องในวันหยุดประจำชาติ
Hang Seng
ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดตลาดลดลงไปเล็กน้อยจากที่ระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือนเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยได้ปิดตลาดที่13,221.33 จุด ลดลงไป 3.6 จุด หรือ ร้อยละ 0.03 จากการปรับตัวลดลงของราคาหุ้นในกลุ่ม อสังหาริมทรัพย์ โดยนักลงทุนได้ขายหุ้นในกลุ่มดังกล่าวออกมาเพื่อทำกำไรหลังจากที่ราคาได้ปรับขึ้นไปอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา
US ‘s Dow Jones
ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยได้เพิ่มขึ้นไป 39.97 จุด หรือ ร้อยละ 0.39 ไปปิดที่ 10,284.46 จุด โดยมีปริมาณการซื้อขายหนาแน่นถึง 1.4 พันล้านหุ้น โดยตลาดได้รับปัจจัยบวกจากการประกาศเพิ่มตัวเลขการคาดการณ์ผลประกอบการของบริษัทฟอร์ด มอเตอร์ นอกจากนั้น ยังได้แรงหนุนจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาหุ้นในกลุ่มผู้ผลิตน้ำมัน เช่น เอ็กซอน โมบิล และ เชฟรอน เท็กซาโก อย่างไรก็ตาม การที่ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับพายุเฮอริเคน ได้ทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่เกิดความกังวลว่าผลประกอบการของธุรกิจอื่นๆที่ไม่ได้อยู่ในภาคพลังงานอาจจะลดลงไป และได้เป็นปัจจัยที่กดดันบรรยากาศในการซื้อขาย
US’s NASDAQ
ดัชนี NASDAQ ปิดตลาดเพิ่มขึ้นไปเล็กน้อย โดยอยู่ที่ 1,910.09 จุด เพิ่มขึ้นไป 6.01 จุด หรือ ร้อยละ 0.32 การซื้อขายเป็นไปอย่างคึกคัก โดยมีปริมาณการซื้อขายที่ 1.6 พันล้านหุ้น ปัจจัยบวกที่สำคัญได้แก่ ข่าวการปรับเพิ่มตัวเลขผลประกอบการของบริษัทฟอร์ด มอเตอร์ อย่างไรก็ตาม ดัชนีปรับขึ้นไปไม่มากนัก เนื่องจากได้ปัจจัยลบจากข่าวการปรับลดรายได้ก่อนหักภาษีของบริษัทคอลคอมม์ อิงค์
สรุปการเคลื่อนไหวของค่าเงิน
Baht/USD
เงินบาทยังคงทรงตัวอยู่ในช่วงแคบๆเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เช่นเดียวกับค่าเงินส่วนใหญ่ในภูมิภาค โดยนักลงทุนส่วนใหญ่ต้องการจะรอดูผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯในวันพรุ่งนี้ และได้คาดการณ์ว่าน่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯไปอีกร้อยละ 0.25 ไปสู่ร้อยละ 1.75
Yen/USD
เงินดอลลาร์สหรัฐฯได้อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน โดยในช่วงเช้าของการซื้อขายในวันนี้ เงินเยนได้อ่อนค่าลงไปถึง 110.15 เยน/ดอลลาร์ฯ ก่อนที่จะปรับตัวแข็งค่าขึ้นมา การซื้อขายในวันนี้เป็นไปอย่างเบาบางเนื่องจากเป็นวันหยุดประจำชาติของญี่ปุ่น ประกอบกับนักลงทุนต้องการรอดูผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯในวันพรุ่งนี้ ซึ่งเป็นที่คาดกันว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯไปอีกร้อยละ 0.25 โดยนักลงทุนต้องการที่จะหาสัญญาณเพื่อพิจารณาถึงแนวโน้มของอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯในอนาคต
USD/Euro
เงินดอลลาร์สหรัฐฯได้แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินยูโร โดยได้มีแรงซื้อดอลลาร์ฯเข้ามามากขึ้น หลังจากที่ได้มีการประกาศตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคประจำเดือน ก.ย.ของมหาวิทยาลัยมิชิแกนเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาซึ่งไม่ได้ลดลงอย่างมากตามที่นักลงทุนได้คาดไว้ โดยตัวเลขดังกล่าวอยู่ที่ 95.8 ลดลงไปเล็กน้อยจาก 95.9 ในเดือน ส.ค.
สรุปการเคลื่อนไหวของอัตราผลตอบแทนในตลาดตราสารหนี้
Thai Gov. Bond
มูลค่าการซื้อขายในวันนี้อยู่ที่ 16,591.82 ล้านบาท เพิ่มจากวันก่อนถึงร้อยละ 195 อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรส่วนใหญ่ได้ปรับตัวตั้งแต่ –1.5 ถึง 2.5 bps.โดยอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรระยะสั้น และ ระยะกลางได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นไปจากวันก่อน ในขณะที่อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรระยะยาวปรับตัวลดลงไป
US Treasury Bond 10 Years
ราคาพันธบัตรของสหรัฐฯ ในวันศุกร์ที่ 17 กันยายน ปรับตัวลดลงไปโดยอัตราผลตอบแทนของ 10 Years US Treasury Bond ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังจากที่ได้ลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือน ที่ร้อยละ 4.05 ในการซื้อขายในช่วงเช้าของวันศุกร์ โดยนักลงทุนส่วนใหญ่ได้ขายพันธบัตรออกมาเพื่อทำกำไรจากการที่ราคาได้เพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา หลังจากที่มีการเปิดเผยตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคประจำเดือน ก.ย.ซึ่งไม่ได้ลดลงอย่างมากตามที่นักลงทุนส่วนใหญ่ได้คาดการณ์ไว้