รายงานภาวะตลาดหุ้นและการเงิน ประจำวันที่ 21 กันยายน 2547

ดัชนีตลาดหุ้นวันนี้

ตลาดหุ้นไทยในวันอังคารที่ 21 กันยายน ปิดตลาดลดลงเป็นวันที่สองติดต่อกัน โดยปิดที่ 660.92 จุด ลดลง 7.37 จุด หรือร้อยละ 1.1 มูลค่าการซื้อขายที่ 2.21 หมื่นล้านบาท โดยตลาดได้รับปัจจัยลบจากการการทำกำไรในหุ้นขนาดใหญ่หลายตัว เช่น หุ้นปตท. ปูนซิเมนต์ และ ธนาคารขนาดใหญ่ หลังจากที่ได้ปรับตัวขึ้นไปอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา

– ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดตลาดเพิ่มขึ้นไปจากวันก่อน 83.15 จุด หรือร้อยละ 0.63 ไปปิดที่ 13,304.48 จุด โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของหุ้นในกลุ่มค้าปลีกเช่น เอสปรี โฮลดิงส์ อย่างไรก็ตาม การที่ราคาหุ้นบริษัทจีนหลายตัวปรับตัวลดลงไป หลังจากที่ได้เพิ่มขึ้นเป็นเวลาหลายวันติดต่อกันได้เป็นปัจจัยที่กดดันตลาดไม่ให้ปรับตัวขึ้นไปมากนัก

– ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดตลาดลดลงไปเป็นวันที่สี่ติดต่อกัน โดยปิดที่ระดับ 11,080.87 จุด ลดลงไป 1.62 จุด หรือร้อยละ 0.01 จากการลดลงของราคาหุ้นในกลุ่มโบรกเกอร์ และ ธนาคาร นอกจากนั้นนักลงทุนส่วนมากได้ชะลอการซื้อขายก่อนการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯในคืนนี้ เพื่อรอดูแถลงการณ์ที่เกี่ยวกับภาวะของเศรษฐกิจสหรัฐฯ

– ตลาดหุ้น Dow Jones ในวันจันทร์ที่ 21 กันยายน ปิดตลาดปรับตัวลดลงไปอยู่ที่ 10,204.89 จุด โดยลดลงไป 79.57 จุดหรือร้อยละ 0.77 โดยได้รับแรงกดดันจากการประกาศเตือนเกี่ยวกับผลประกอบการที่ลดลงของบริษัทคอลเกต-ปาล์มโอลีฟ และ บริษัทยูนิลีเวอร์ ราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นอีกครั้ง และ การที่นักลงทุนชะลอการลงทุนก่อนการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯในคืนนี้

– เงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับค่าเงินบาทและเยน โดยอยู่ที่ระดับ 41.335 บาท/ดอลลาร์ฯ และที่ 110
เยน/ดอลลาร์ฯ แต่ทรงตัวเมื่อเทียบกับเงินยูโรที่ 1.217 ดอลลาร์ฯ/ยูโร

ภาวะตลาดหุ้น

Thailand’s SET
ตลาดหุ้นไทยปิดตลาดลดลงเป็นวันที่สองติดต่อกันในวันนี้ โดยอยู่ที่ 660.92 จุด ลดลงไป 7.37 จุด หรือร้อยละ 1.1 มูลค่าการซื้อขายหนาแน่นกว่า 22,192 ล้านบาท โดยได้มีแรงขายทำกำไรหุ้นขนาดใหญ่หลายตัวออกมาตั้งแต่ในช่วงเช้า เช่น หุ้นปตท., หุ้นปูนซิเมนต์ไทย และ หุ้นธนาคารขนาดใหญ่หลายตัว หลังจากที่ได้มีแรงเข้าซื้ออย่างมาก ก่อนงานไทยแลนด์ โฟกัส นอกจากนั้น นักลงทุนส่วนใหญ่ยังต้องการที่จะชะลอการซื้อขายก่อนการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯในคืนนี้

Japan Nikkei-225
ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดตลาดปรับตัวลดลงไปเป็นวันที่สี่ติดต่อกัน โดยปิดที่ระดับ 11,080.87 จุด ลดลงไป 1.62 หรือร้อยละ 0.01 ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 3 ก.ย. โดยได้รับแรงกดดันจากการปรับตัวลดลงของราคาหุ้นกลุ่มโบรกเกอร์ และ หุ้นในกลุ่มธนาคาร ประกอบกับนักลงทุนส่วนใหญ่ต้องการที่จะชะลอการลงทุนก่อนการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯในคืนนี้ และ ก่อนการประกาศผลสำรวจความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจรายไตรมาส (ทังกัน)ในวันที่ 1 ต.ค.

Hang Seng
ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดตลาดเพิ่มขึ้นไปจากวันก่อน โดยได้ปิดตลาดที่13,304.48 จุด เพิ่มขึ้น 83.15 จุด หรือ ร้อยละ 0.63 โดยได้รับปัจจัยบวกจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาหุ้นกลุ่มค้าปลีก เช่น เอสปรี โฮลดิงส์ อย่างไรก็ตาม การปรับตัวลดลงของราคาหุ้นบริษัทจีนหลายตัว ได้เป็นปัจจัยที่กดดันตลาดไม่ให้ปรับตัวขึ้นไปอย่างมากในวันนี้

US ‘s Dow Jones
ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดตลาดลดลงไปที่เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยได้ลดลงไปอีก 79.57 จุด หรือ ร้อยละ 0.77 ไปปิดที่ 10,204.89 จุด โดยมีปริมาณการซื้อขายที่ 1.2 พันล้านหุ้น ทั้งนี้ตลาดได้รับปัจจัยลบจากการประกาศเตือนเกี่ยวกับผลกำไรที่ลดลงของบริษัทคอลเกต-ปาล์มโอลีฟ และ บริษัทยูนิลีเวอร์ และ ราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้น ทั้งนี้ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน ต.ค.ที่ตลาด NYMEX ได้เพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ 46.35 ดอลลาร์ฯ/บาร์เรล จากความกังวลเกี่ยวกับผลของพายุเฮอริเคน นอกจากนั้นแล้ว นักลงทุนยังต้องการที่จะชะลอการซื้อขายก่อนการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯในคืนนี้

US’s NASDAQ
ดัชนี NASDAQ ปิดตลาดลดลงไปเล็กน้อย โดยอยู่ที่ 1,908.07 จุด ลดลงไป 2.02 จุด หรือ ร้อยละ 0.11 โดยได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้นอีกครั้ง ประกอบกับการที่นักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯในคืนนี้

สรุปการเคลื่อนไหวของค่าเงิน

Baht/USD
เงินบาทได้อ่อนค่าลงไปเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เช่นเดียวกับค่าเงินส่วนใหญ่ในภูมิภาค โดยได้อ่อนค่าลงไปสู่ระดับที่ 41.34 บาท/ดอลลาร์ฯ ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำสุดในรอบสัปดาห์ จากการที่นักลงทุนส่วนใหญ่ได้คาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปอีกร้อยละ 0.25 ในการประชุมวันนี้

Yen/USD
เงินดอลลาร์สหรัฐฯได้แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยน จากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปอีกร้อยละ 0.25 สู่ร้อยละ 1.75 ในคืนนี้ นักลงทุนจะรอดูแถลงการณ์ของนาย อลัน กรีนสแปน เกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐฯ เพื่อคาดการณ์ถึงแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯในเดือน พ.ย. และ ธ.ค. นอกจากนั้นแล้ว เงินเยนยังได้รับแรงกดดันจากการปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมันในตลาดโลก ซึ่งได้ขึ้นไปอยู่เหนือ 46 ดอลลาร์ฯ/บาร์เรล หลังจากข่าวที่ว่าบริษัทยูคอส ของรัสเซียต้องระงับการส่งออกน้ำมันบางส่วนไปยังจีน

USD/Euro
เงินดอลลาร์สหรัฐฯปรับตัวอยู่ในกรอบแคบๆเมื่อเทียบกับเงินยูโร โดยนักลงทุนส่วนใหญ่จะรอดูผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯในคืนนี้ ซึ่งคาดกันว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปอีก เพื่อรอดูสิ่งที่จะบ่งบอกถึงแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยในอนาคต นอกจากนั้นแล้วนักลงทุนจะรอดูข้อมูลยอดขายบ้าน และ ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทนในเดือน ส.ค.ที่จะประกาศในสัปดาห์นี้ เพื่อพิจารณาถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ

สรุปการเคลื่อนไหวของอัตราผลตอบแทนในตลาดตราสารหนี้

Thai Gov. Bond
มูลค่าการซื้อขายในวันนี้อยู่ที่ 9,198.8 ล้านบาท ลดลงจากวันก่อนร้อยละ 44.5 โดยอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรระยะสั้น และ ระยะกลางแทบไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อน ในขณะที่อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรระยะยาวปรับตัวอยู่ในช่วงตั้งแต่ –2 ถึง 2 bps.

US Treasury Bond 10 Years
ราคาพันธบัตรของสหรัฐฯ ในวันจันทร์ที่ 20 กันยายน ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นโดยอัตราผลตอบแทนของ 10 Years US Treasury Bond ได้ปรับตัวลดลงอยู่ใกล้กับระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือน ที่ร้อยละ 4.05 ในการซื้อขายในช่วงเช้าของวันศุกร์ที่ผ่านมา จากการที่นักลงทุนส่วนใหญ่ได้ปรับการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปอีกร้อยละ 0.25 ในการประชุมครั้งนี้ไปเรียบร้อยแล้ว และได้คาดว่าในแถลงการณ์ของนายอลัน กรีนสแปนในคืนนี้นั้นจะลดการคาดการณ์เชิงบวกที่มีต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯลงไป พร้อมกับที่จะมีการกล่าวถึงแรงกดดันด้านอัตราเงินเฟ้อที่ลดลง