ดัชนีตลาดหุ้นวันนี้
ตลาดหุ้นไทยในวันศุกร์ที่ 1 ตุลาคม ปิดตลาดเพิ่มขึ้นจากวันก่อน โดยปิดที่ 661.23 จุด เพิ่มขึ้น 16.56 จุด หรือร้อยละ 2.57 มูลค่าการซื้อขายที่ 2.38 หมื่นล้านบาท ตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้นตลอดวัน โดยได้รับปัจจัยบวกจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของตลาดหุ้นส่วนใหญ่ในภูมิภาค และการเข้าซื้อของนักลงทุนต่างชาติ ส่งผลให้มีแรงซื้อหุ้นในกลุ่มพลังงาน และ หุ้นขนาดใหญ่หลายตัวเข้ามาอย่างมากในวันนี้
– ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดทำการเนื่องในวันหยุดประจำชาติในวันนี้
– ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมากในวันนี้ โดยอยู่ที่ 10,985.17 จุด เพิ่มขึ้นไป 161.6 จุด หรือร้อยละ 1.49 หลังจากที่ได้มีการประกาศตัวเลขในการสำรวจความเชื่อมั่นภาคเอกชน หรือ ทังกัน ซึ่งได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นไปอย่างมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ ส่งผลให้นักลงทุนทั้งใน และนอกประเทศ เข้ามาลงทุนในหุ้นกลุ่มต่างๆมากขึ้น
– ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 30 กันยายน ปิดตลาดปรับตัวลดลง 55.97 จุด หรือร้อยละ 0.55 ไปอยู่ที่ 10,080.27 จุด โดยตลาดได้รับแรงกดดันจากการปรับตัวลดลงอย่างมากของหุ้นบริษัทเมิร์ค หลังจากที่สำนักงานอาหารและยาของสหรัฐฯได้ประกาศเรียกคืนยาตัวหนึ่งของทางบริษัท นอกจากนั้นแล้ว การที่ราคาน้ำมันยังคงทรงตัวอยู่ในระดับสูงก็ได้เป็นอีกปัจจัยที่กดดันการลงทุนวันนี้
– เงินดอลลาร์สหรัฐฯ ได้อ่อนค่าลงไปเมื่อเทียบกับค่าเงินบาท , เยน และยูโร โดยอยู่ที่ระดับ 41.385 บาท/ดอลลาร์ฯ , 110.27 เยน/ดอลลาร์ฯ และที่ 1.2409 ดอลลาร์ฯ/ยูโร
ภาวะตลาดหุ้น
Thailand’s SET
ตลาดหุ้นไทยปิดตลาดเพิ่มขึ้นไปสู่ระดับสูงสุดในรอบสัปดาห์ โดยอยู่ที่ 661.23 จุด เพิ่มขึ้น 16.56 จุด หรือร้อยละ 2.57 มูลค่าการซื้อขายที่ 23,890 ล้านบาท ตลาดปรับตัวอยู่ในแดนบวกตลอดทั้งวัน โดยยังคงได้รับปัจจัยหนุนจากการที่ตลาดหุ้นต่างประเทศส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้นไปในวันนี้ และการเข้าซื้ออย่างต่อเนื่องของนักลงทุนต่างชาติ ส่งผลให้มีแรงซื้อเข้ามาอย่างมากในหุ้นกลุ่มพลังงาน เคมีภัณฑ์ และสื่อสารในวันนี้
Japan Nikkei-225
ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดตลาดเพิ่มขึ้นเป็นวันที่สองติดต่อกัน โดยปิดที่ระดับ 10,985.17 จุด เพิ่มขึ้นไปอย่างมากถึง 161.6 จุด หรือร้อยละ 1.49 โดย ได้รับปัจจัยบวกจากการประกาศตัวเลขที่แข็งแกร่งในการสำรวจความเชื่อมั่นภาคเอกชน หรือ ทังกัน ทั้งนี้ดัชนี diffusion index (DI) ซึ่งเป็นการวัดความเชื่อมั่นของผู้ผลิตรายใหญ่ได้เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ +26 ในเดือน ก.ย.จาก +22 ในเดือน มิ.ย.ซึ่งเป็นระดับที่สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ และ ได้กระตุ้นให้นักลงทุนทั้งในและ ต่างประเทศเข้ามาลงทุนมากขึ้น โดยหุ้นที่ปรับตัวขึ้นไปอย่างมากในวันนี้ ได้แก่ หุ้นในกลุ่มพลังงาน ทรัพยากร และหุ้นในกลุ่มเทรดดิ้งทั่วไป
Hang Seng
ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดทำการเนื่องในวันหยุดประจำชาติในวันนี้
US ‘s Dow Jones
ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดตลาดปรับตัวลดลงเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา โดยลดลงไป 55.97 จุด หรือ ร้อยละ 0.55 ไปปิดที่ 10,080.27 จุด ปริมาณการซื้อขายหนาแน่นที่ 1.8 พันล้านหุ้น โดยตลาดได้รับปัจจัยลบจากการปรับตัวลดลงอย่างมากของราคาหุ้นบริษัทเมิร์ค หลังจากที่สำนักงานอาหารและยาของสหรัฐฯได้ประกาศเรียกคืนยา Vioxx ซึ่งเป็นยารักษาโรคข้อต่ออักเสบของบริษัท นอกจากนั้นแล้วการที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกยังคงทรงตัวอยู่ในระดับสูงก็ได้เป็นอีกปัจจัยที่กดดันการลงทุน ทั้งนี้นักลงทุนส่วนใหญ่เกิดความไม่แน่ใจว่า การหยุดยิงระหว่างกลุ่มกบฎ และรัฐบาลไนจีเรีย ซึ่งได้ส่งผลทางจิตวิทยาให้ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงในช่วงที่ผ่านมา จะดำเนินต่อไปได้นาน
US’s NASDAQ
ดัชนี NASDAQ ปรับตัวเพิ่มขึ้นไปเล็กน้อย โดยอยู่ที่ 1,896.84 จุด เพิ่มขึ้นไป 2.9 จุด หรือ ร้อยละ 0.15 โดยได้รับปัจจัยบวกจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยี และ คำสั่งซื้อในช่วงสิ้นไตรมาส
สรุปการเคลื่อนไหวของค่าเงิน
Baht/USD
เงินบาทได้แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯในวันนี้ ตามทิศทางของค่าเงินเยน และค่าเงินอื่นๆในภูมิภาค ซึ่งได้รับปัจจัยบวกจากการรายงานตัวเลขผลสำรวจความเชื่อมั่นภาคธุรกิจประจำไตรมาสของญี่ปุ่นที่ออกมาสูงเกินความคาดหมายในวันนี้
Yen/USD
เงินเยนได้แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯ โดยค่าเงินเยนได้รับแรงหนุนจากการประกาศตัวเลขผลสำรวจความเชื่อมั่นภาคธุรกิจรายไตรมาสของญี่ปุ่นซึ่งเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ +26 สูงกว่าที่ตลาดได้คาดการณ์ไว้ที่ +23 และเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดนับตั้งแต่เดือน พ.ค.1991 เป็นต้นมา นอกจากนั้นแล้ว เงินเยนยังได้รับแรงบวกจากการที่ตลาดหุ้นญี่ปุ่นได้ปรับตัวขึ้นไปอย่างมากในวันนี้ อย่างไรก็ตาม การที่ค่าดัชนีในช่วง 3 เดือนข้างหน้าลดลงไปอยู่ที่ +21 ได้ทำให้นักลงทุนเกิดความวิตกกังวลเพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจญี่ปุ่นในอนาคต
USD/Euro
เงินดอลลาร์สหรัฐฯ ได้อ่อนค่าลงไปสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือนเมื่อเทียบกับเงินยูโรที่ 1.2436 ในการซื้อขายที่ตลาดสหรัฐฯเมื่อคืนนี้ ก่อนที่จะกลับแข็งค่าขึ้นมาในวันนี้ โดยราคาน้ำมันที่ยังคงทรงตัวอยู่ในระดับสูงยังคงปัจจัยบวกที่ทำให้นักลงทุนยังคงมีความต้องการถือครองเงินยูโร เนื่องจากเชื่อว่าเป็นเงินสกุลที่ปลอดภัย ประกอบกับการที่นักลงทุนบางส่วน ได้ขายเงินดอลลาร์ออกมาจากแรงผลักดันทางด้านเทคนิค หลังจากที่ค่าเงินได้อ่อนลงไปอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา
สรุปการเคลื่อนไหวของอัตราผลตอบแทนในตลาดตราสารหนี้
Thai Gov. Bond
มูลค่าการซื้อขายในวันนี้อยู่ที่ 13,672.09 ล้านบาท เพิ่มจากวันก่อนร้อยละ 77 โดยอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรระยะสั้นแทบไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อน ในขณะที่อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรระยะกลางและระยะยาวปรับตัวอยู่ในช่วงแคบๆระหว่าง 1 ถึง 2 bps.
US Treasury Bond 10 Years
ราคาพันธบัตรของสหรัฐฯ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 30 กันยายน ได้ปรับตัวลดลงไปอย่างมาก หลังจากที่ได้มีการประกาศตัวเลขผลสำรวจกิจกรรมทางธุรกิจของชิคาโกที่เพิ่มขึ้นเกินคาดสู่ 61.3 ในเดือน ก.ย.ซึ่งสูงกว่าที่นักลงทุนส่วนใหญ่คาดไว้ที่ 57.5 โดยเฉพาะดัชนีในส่วนที่เกี่ยวกับการจ้างงานที่ได้เพิ่มขึ้นไปอย่างมากสู่ 53.9 จาก 51.1 และได้ทำให้นักลงทุนบางส่วนคาดว่าดัชนี ISM ที่จะประกาศในคืนนี้อาจจะสูงกว่าที่ประมาณการไว้ อันจะช่วยลดการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯอาจจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงที่ยังเหลือของปี