1 ตุลาคม 2547 – อะไรทำให้เกิดกระแสเฟื่องฟูของงานดีไซน์ในฝรั่งเศสขณะนี้ บรรดาร้านอาหารและร้านค้าต่างพร้อม ใจตกแต่งร้านใหม่ คอลัมน์ตกแต่งมีให้อ่านในหนังสือพิมพ์ทุกเล่ม บริษัทที่มีชื่อเสียงพากันรับนักออกแบบ รุ่นใหม่ ห้างร้านใหญ่ๆ จ้างนักออกแบบมืออาชีพในวงการอุตสาหกรรมมาตกแต่งกระจกหน้าร้าน รถไฟ ตกแต่งด้วยผลงานออกแบบของ Christian Lacroix และผู้บริโภคซื้อสินค้าที่มีดีไซน์ เพราะดีไซน์คือแฟชั่นนั่นเอง
ดีไซเนอร์ที่มีชื่อเสียงของโลกอย่าง Raymond Loewy, Le Corbusier, Jean Prouv?, Roger Tallon, Andr?e Putman และ Philippe Starck ล้วนแล้วแต่เป็นคนฝรั่งเศส แต่น่าแปลกที่กว่ากระแสงานดีไซน์ร่วมสมัย ในฝรั่งเศสจะเกิดการตื่นตัวในประเทศกลับใช้เวลานานมาก เป็นที่น่าสงสัยว่าเหตุใดผู้ประกอบการทั่วไปใน ฝรั่งเศสจึงปฏิเสธโอกาสในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ในมุมมองใหม่ๆ อยู่เสียนาน จนถึงวันนี้ ฝรั่งเศสหลีกเลี่ยง ความเปลี่ยนแปลงไปไม่พ้น ทั้งประเทศกำลังต้องมนต์สะกดจากนักออกแบบรุ่นใหม่ที่เต็มไปด้วยพลัง สร้างสรรค์ หลายสิ่งรอบตัวในชีวิตประจำวันกำลังเปลี่ยนแปลงไป
เมื่อต้นศตวรรษที่ 20 ประเทศฝรั่งเศสได้รับการยกย่องกล่าวขานในด้านศิลปะการตกแต่งอันสวยงามและหรูหรา (อาทิศิลปะการทำเฟอร์นิเจอร์ การทำโต๊ะ โคมไฟ ขวด และสิ่งทอ เป็นต้น) ในราวทศวรรษ 1920 ศิลปะแนว “อาร์ต เดโค” เป็นแรงสนับสนุนให้มีการผลิตเฟอร์นิเจอร์ที่ค่อนข้างออกไปในแนวพื้นบ้านและงานศิลปะอันงดงามมากมาย
นอกจากภูมิปัญญาหัตถกรรมอันน่าทึ่งแล้ว ฝรั่งเศสยังฝึกอบรมวิศวกรรุ่นใหม่ๆ ในสถาบันการศึกษาชั้นนำ ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคเหล่านี้ก็คือ นักออกแบบรุ่นใหม่แห่งศตวรรษที่ 20 อย่างไรก็ตาม นักออกแบบเหล่านี้ไม่ได้ให้ ความสนใจกับกระแสความต้องการในตลาดผู้บริโภคที่ผลักดันให้ผู้ผลิตหันมาเพิ่มคุณภาพของสินค้าและจินตนาการสินค้าให้มีความงดงามเพื่อจะได้ “ขายดี” อย่างที่เป็นอยู่ในอเมริกา แต่กลับยังคงยึดติดกับแนวความคิดประโยชน์ใช้สอยของ เฟอร์นิเจอร์เป็นหลัก ถึงกระนั้น ดีไซเนอร์หัวก้าวหน้า เช่น Le Corbusier, Charlotte Perriand, Eileen Gray, Rober Mallet-Stevens จนมาถึง R?n? Herbst หรือกระทั่ง Pierre Chareau ได้พยายามนำเสนอรูปแบบที่ผสานประโยชน์ ใช้สอยเข้ากับความเป็นไปได้ทางอุตสาหกรรม ความทันสมัยของผลิตภัณฑ์เป็นที่ต้องตาต้องใจชนชั้นสูงในระดับโลก แต่กลับไม่ค่อยเป็นที่สนใจในหมู่คนเมือง และยิ่งน้อยลงไปอีกในเขตนอกเมือง
จนกระทั่งมาในสมัยหลังสงครามโลกครั้งที่สอง เมื่อเกิดกระแสการผลิตสินค้าแบบ Mass Production ขึ้น ก็เกิด บริษัทออกแบบระดับอุตสาหกรรมขึ้นในฝรั่งเศสอย่างเป็นทางการครั้งแรก
ในช่วงทศวรรษ 1960 เป็นช่วงที่มีดีไซเนอร์ผู้เปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์หลายคน เช่น Pierre Paulin และ Olivier Mourgue ทั้งสองสะท้อนสไตล์ในยุคนั้นด้วยการออกแบบเฟอร์นิเจอร์ที่มีรูปทรงพลิ้วไหว และด้วยรูปทรงอันทันสมัย ดังกล่าว ทำให้เฟอร์นิเจอร์เหล่านี้กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้งในปัจจุบัน Roger Tallon ถือเป็นดีไซเนอร์เชิงอุตสาหกรรม ตัวจริง เขาเป็นที่รู้จักในวงกว้างในราวทศวรรษ 1970 จากผลงานโทรทัศน์กระเป๋าหิ้ว P111 ของ T?l?avia ในช่วง สามสิบปีจากนั้น เขาได้ฝากผลงานการออกแบบไว้มากมาย ตั้งแต่นาฬิกาข้อมือ LIP ไปจนถึงอุปกรณ์ตกแต่ง รถไฟ ความเร็วสูง TGV รวมไปถึงบันไดเวียนและรถไฟใต้ดินสาย M?t?or ในกรุงปารีส…
ในช่วงทศวรรษที่ 70 นี้ เป็นเรื่องยากมากที่จะได้ทำงานในตำแหน่งดีไซเนอร์อุตสาหกรรม เพราะมีบริษัท จำนวนน้อยมากที่จะจ้างงานในตำแหน่งดังกล่าว ยกเว้นก็แต่เพียงบริษัทอุตสาหกรรมยานยนต์ เท่านั้น
เป็นเวลานานกว่าที่บริษัทขนาดเล็กต่างๆ ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่ออุตสาหกรรมฝรั่งเศสเริ่มเห็นประโยชน์ของการ ออกแบบ นั่นอาจเป็นเพราะบริษัทเหล่านี้เห็นว่า เมื่อเปรียบเทียบงานของดีไซเนอร์กับงานของวิศวกรแล้ว งานของดีไซเนอร์ ไม่ค่อยมีประโยชน์ ใช้ค่าใช้จ่ายสูงและไม่คุ้มทุน
นโยบายส่งเสริมการออกแบบ
ประเทศฝรั่งเศสพยายามผลักดันการออกแบบเชิงอุตสาหกรรมอย่างเต็มที่ รัฐบาลต้องการส่งเสริมการทำงาน ของดีไซเนอร์ถึงขนาดเคยให้ Pierre Paulin มาตกแต่งภายในทำเนียบประธานาธิบดีหรืออาคาร l’Elys?e ใหม่หมดสำหรับ ประธานาธิบดีจอร์จ ปอมปิดู ส่วนในสมัยประธานาธิบดีฟรองซัวส์ มิตแตรองด์ ก็ได้มอบหมายงานให้ Philippe Starck และ Jean-Michel Wilmotte
Via หรือคณะกรรมการส่งเสริมนวัตกรรมเครื่องเรือนก่อตั้งขึ้นในปี 1979 เพื่อส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาและ กระตุ้นความสัมพันธ์ระหว่างนักสร้างสรรค์ผลงานกับผู้ผลิตเครื่องเรือน
ในปี 1982 Jack Long ซึ่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมในสมัยนั้น ได้มีดำริให้ตั้งสถาบันออกแบบ อุตสาหกรรมชั้นสูงแห่งชาติขึ้น (Ensci-Les Ateliers) มีหลักสูตร 5 ปี เพื่อผลิตดีไซเนอร์รุ่นใหม่
APCI หรือสำนักงานส่งเสริมการออกแบบอุตสาหกรรม ก่อตั้งเมื่อปี 1983 ได้จัดให้มีการประกวดออกแบบ โดย ได้รับการสนับสนุนจากรัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรมเช่นเดิม เพื่อกระตุ้นให้บริษัทต่าง ๆ สร้างสรรค์ผลงานออกแบบใหม่ ๆ ศูนย์สร้างสรรค์ทางอุตสาหกรรมที่ตั้งอยู่ภายในพิพิธภัณฑ์แห่งใหม่ของศูนย์ศิลปวัฒนธรรมจอร์จ ปอมปิดู เป็นหน่วยงาน ส่งเสริมนิทรรศการผลงานการออกแบบ และวัฒนธรรมการออกแบบเชิงอุตสาหกรรมซึ่งครั้งหนึ่งเคยจำกัดอยู่ในวง ดีไซเนอร์ผู้มีคอนเซ็ปต์ล้ำยุคเพียงกลุ่มเดียว
หน่วยงานใหม่ด้านการสนับสนุนการออกแบบเหล่านี้ช่วยส่งเสริมการทำงานของหน่วยงานหรือองค์กรด้านการออกแบบที่มีอยู่แล้วและผลักดันให้เกิดความเคลื่อนไหวในวงการออกแบบระดับประเทศ ENSAD (สถาบันศิลปะ การตกแต่ง แห่งชาติ) และสถาบันศิลปะประยุกต์ต่างๆ เช่น สถาบัน Boulle, Duperr? และ Olivier de Serres ล้วนพยายามพัฒนาปรับปรุงหลักสูตรการสอน หลังจากมีการก่อตั้งสถาบัน ESDI หรือสถาบัน การออกแบบ อุตสาหกรรม ชั้นสูง ในปี 1981 สถาบันเอกชน หลายแห่งก็ได้พัฒนาหลักสูตรการสอน ของตนเพื่อผลิตดีไซเนอร์อุตสาหกรรมโดยเฉพาะ
โครงการใหม่
กิจกรรมส่งเสริมต่างๆ ที่ผุดขึ้นอย่างมากมาย ความมุ่งมั่นของดีไซเนอร์มืออาชีพในสถาบันชั้นสูงต่างๆ ความ โดดเด่นในผลงานของดีไซเนอร์อย่าง Tallon, Wilmotte หรือ Starck และคนอื่นๆ รวมถึงการพัฒนาเครือข่ายในระดับ สากลส่งผลทำให้มีดีไซเนอร์ผู้มีพรสวรรค์แจ้งเกิดมากมาย
ผลพวงจากการถดถอยในวงการอุตสาหกรรมในช่วงทศวรรษที่ 80 ตลาดโลกเริ่มเรียกร้องงานออกแบบที่มี ความซับซ้อน บวกกับความจำเป็นในการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ใส่ใจในรายละเอียดมากขึ้นเรื่อยๆ บริษัท ต่าง ๆ จึงเริ่มมองเห็นถึงคุณค่าของดีไซเนอร์
“ข้างนอกสุกใส ข้างในต๊ะติ๊งโหน่ง ” เป็นลักษณะผลงานของดีไซเนอร์ยุคแรกซึ่งบทบาทจำกัดอยู่แค่การตกแต่ง ชิ้นส่วนเทคนิคที่น่าเกลียดให้ดูสวยงาม แต่ปัจจุบัน ดีไซเนอร์เริ่มกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบเพื่อการใช้งาน มีบทบาทในการออกแบบชิ้นส่วนเทคนิคและประสิทธิภาพในการใช้งานของชิ้นส่วนนั้นๆ ทำให้รูปลักษณ์ที่เหมาะสมกับ การใช้งานได้ง่าย สะดวกสบาย ยืดหยุ่น แข็งแรง ปลอดภัยและรักษาสิ่งแวดล้อมกลายเป็นเงื่อนไขสำคัญในการเปิดตัว สินค้าบนตลาดในราวปลายศตวรรษที่ 20 ไปในที่สุด
เพื่อตอบสนองความต้องการใหม่ๆ ของลูกค้า บริษัทต่างๆ ไม่ได้เพียงแค่จ้างดีไซเนอร์มาทำงาน (ประมาณว่า มีดีไซเนอร์ราว 10,000 คนในบริษัทรับออกแบบ และ อีก 5,000 ทำงานประจำในบริษัทอุตสาหกรรม ตัวเลขเหล่านี้ ไม่ นับรวมนักออกแบบแฟชั่น) แต่บริษัทเหล่านี้ยังให้ความสำคัญกับแผนกออกแบบของตนในการสร้างยุทธศาสตร์การ ออกแบบใหม่ ๆ อีกด้วย
พัฒนาการของงานออกแบบในปัจจุบัน
บริษัทเรอโนลต์มีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนกระแสงานดีไซน์ ปัจจุบันแผนกออกแบบของบริษัท มีบุคลากร อยู่เกือบ 350 คน ทั้ง ๆ ที่เมื่อ 15 ปีที่แล้วมีอยู่เพียง 125 คนเท่านั้น Patrick Le Qu?ment ผู้อำนวยการฝ่ายออกแบบ อุตสาหกรรมเรอโนลต์ กล่าวว่า “บทบาทของนักออกแบบที่เรอโนลต์เปลี่ยนไปอย่างมากในช่วงปี 1993 ถึง 2003 ปัจจุบันนี้ นักออกแบบที่เรอโนลต์มีบทบาทเป็นผู้นำและมีส่วนร่วมในการกำหนดยุทธศาสตร์ของบริษัท” การออกแบบมีส่วนทำให้ บริษัทก้าวเข้าสู่การตลาดแบบใหม่ที่ใส่ใจกับความต้องการและสร้างสรรค์มากขึ้น ซึ่งหมายความว่านอกจากจะใส่ใจ กับการเปลี่ยนแปลงในตลาดแล้ว ยังให้ความสำคัญกับความต้องการของผู้ใช้อีกด้วย เรอโนลต์มุ่งมั่นที่จะสร้าง “French touch” สัมผัสแห่งสไตล์ฝรั่งเศสกับรถรุ่นต่าง ๆ โดยการเพิ่มความสะดวกสบาย ภายในตัวรถโดยดูได้จากผลงานรถรุ่น Twingo จนถึง M?gane นักออกแบบกลายเป็น “ผู้กำหนดเทรนด์” ของสินค้าบริษัท รวมไปถึงเป็นผู้เสนอแนวทาง การพัฒนา และนี่เองที่เป็นที่มาของ “คอนเซ็ปต์คาร์ ” หรือรถต้นแบบของเรอโนลต์ และ “ดรีมโพรดักส์” ของทอมสัน (Thomson)
นอกจากนักออกแบบประจำบริษัทแล้ว บ่อยครั้งยังมีการเชิญนักออกแบบจากองค์กรอื่นเข้าร่วมงานสัมมนาเชิง ปฏิบัติการ หรือเชิญเข้ามารับงานโครงการที่มีความพิเศษ ตัวอย่างเช่น Jean Nouvel ที่ได้เข้ามาทำงานให้กับเฟี๊ยต หรือ นักออกแบบเฟอร์นิเจอร์รุ่นใหม่อย่าง Patrick Jouin หรือ Aye Birsel ที่เข้ามาร่วมงานกับเรอโนลต์ Patrick Le Qu?ment กล่าวไว้ในนิตยสาร Journal of Arts (ฉบับเดือนตุลาคม 2002) ว่า “หลายครั้งนักออกแบบจากนอกบริษัททำให้ เราเห็นแนวทางที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน”
ในส่วนของบริษัทเปอโยต์ หลังจากมอบหมายให้บริษัทออกแบบตัวถังรถจากอิตาลีดูแลเรื่องการออกแบบมา เป็น เวลานาน เมื่อไม่กี่ปีมานี้ ฝ่ายออกแบบของเปอโยต์เองก็เริ่มประสบความสำเร็จในงานออกแบบ ทีมนักออกแบบจาก เปอโยต์ได้โชว์ผลงานตนเองอย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็นเปอโยต์ 307 คูเป้กาบริโอเลต์ที่มีเส้นสายพลิ้วไหว และหลังคา แบบพับได้ หรือสุดยอดวิศวกรรมอย่างซีตรอง Pluriel ที่ถือเป็นที่สุดแห่งซีตรองและความลงตัวระหว่างจินตนาการและ ความเรียบง่าย
หลังจากได้เห็นบริษัทยานยนต์ให้ความสำคัญกับการออกแบบ ประกอบกับนโยบายส่งเสริมการออกแบบที่มี ความเข้มข้น บริษัทฝรั่งเศสทุกขนาดไม่ว่าเล็กหรือใหญ่จึงเริ่มดำเนินรอยตาม ดังจะเห็นได้จากบริษัทผลิตของเล่นอย่าง Smoby และ Berchet บริษัทเครื่องใช้ไฟฟ้า Seb บริษัทเครื่องกีฬา และบริษัทเครื่องสำอางอย่าง L’Oreal เป็นต้น ซึ่งคุณภาพและการออกแบบผลิตภัณฑ์ฝรั่งเศสเป็นที่ยอมรับเป็นอย่างดีในตลาดอุตสาหกรรมเหล่านี้
ในภาคอุตสาหกรรมกีฬา บริษัทต่าง ๆ เช่น Salomon, Rossignol, Lafuma และ Aigle ต่างปรับรูปลักษณ์ ผลิตภัณฑ์ใหม่ ประดิษฐ์เครื่องเล่นติดล้อ เครื่องเล่นเพื่อความหรรษา อุปกรณ์กีฬาเอ็กซ์ตรีมใหม่ๆ ที่ใช้วัสดุน้ำหนักเบา และยืดหยุ่นสูง ใช้สิ่งทอที่ระบายอากาศได้ดี ระบบต่อเชื่อมและรักษาความปลอดภัยที่ใช้งานง่าย ทั้งหมดนี้ทำให้บริษัท เหล่านี้ได้รับการกล่าวขานในระดับสากล นอกจากนี้ ยังมีบริษัทอุปกรณ์กีฬาน้องใหม่อื่นๆ ที่ก่อตั้งโดยผู้ที่ชื่นชอบการกีฬา กำลังเร่งพัฒนาตามมาอีกหลายราย (เช่น Corima, Bic Sport, Zodiac เป็นต้น)
ส่วนที่บริษัท D?cathlon ฝ่ายออกแบบของบริษัทเป็นฝ่ายที่มีบทบาทสำคัญในการสร้างสินค้า Philippe Picaud ผู้อำนวยการฝ่ายออกแบบกล่าวว่า ในช่วง 15 ปีก่อน ดีไซเนอร์เป็นเพียง “นักสร้างสรรค์” แต่ปัจจุบัน ดีไซเนอร์คือ “ผู้นำการเปลี่ยนแปลง” ฝ่ายออกแบบของ D?cathlon มีบุคลากรอยู่เกือบร้อยคนทั้งที่ก่อตั้งขึ้นมาได้เพียงสี่ปีเท่านั้น
บริษัท SEB ใช้การออกแบบและดีไซเนอร์ในการพัฒนาภาพลักษณ์ที่มีความสอดคล้องลงตัวกับการเปลี่ยนแปลง วิถีการดำเนินชีวิต ห้องครัวกลายเป็นสถานที่ที่ต้องมีความสวยงามและจะต้องมีสไตล์ บริษัท Seb หลังจากซื้อ กิจการของบริษัท Moulinex ได้กลายเป็นบริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านที่ใหญ่ที่สุดในฝรั่งเศส บริษัท ต้องการให้สินค้าภายใต้เครื่องหมายการค้า Tefal เป็นสินค้าในตลาดบนมากกว่าตลาดทั่วไป จึงมอบหมายงานออกแบบ สินค้าเครื่องครัวรุ่นใหม่ให้กับ Marc Newson ดีไซเนอร์ชาวออสเตรเลียชื่อดังวัย 38 ปีที่พำนักอยู่ในกรุงปารีส สินค้า สำหรับ ตลาดบนชุดนี้จะเป็นการผสมผสานวัสดุโคลามิเนตเคลือบ 3 ชั้นและด้ามจับพลาสติกแบบดั้งเดิม
ภาคการขนส่งนั้นได้ตระหนักถึงความสำคัญในการผสมผสานกันระหว่างเทคนิค การเคลื่อนไหวและความ สะดวกสบายอย่างทันสมัยมาเป็นเวลานานแล้ว การรถไฟฝรั่งเศส (SNCF) และแอร์ฟรานซ์จึงได้มอบโครงการให้นัก ดีไซเนอร์สำคัญๆ ศึกษา เช่น โครงการรถไฟความเร็วสูงทีจีวี แอตแลนติก ซึ่งออกแบบโดย Roger Tallon ในปี 1991 เป็นรถไฟทีจีวีสองชั้น ที่ผสมผสานวิศวกรรมชั้นสูงเข้ากับงานออกแบบอันวิจิตรบรรจง ส่วน Andr?e Putman ก็เคย รับหน้าที่ปรับโฉมภายในเครื่องบินคองคอร์ด และในปี 2003 Christian Lacroix ก็ร่วมกับบริษัท MBD Design ออกแบบ ที่นั่งผู้โดยสารให้กับรถไฟทีจีวีสายใหม่
แม้กระทั่งทีม “การจัดการออกแบบ” ของขนส่งมวลชนปารีส (RATP) นำโดย โย กามินากาอิ (Yo Kaminagai) ก็ยัง ตั้งใจที่จะทำให้เรารู้สึกรักรถไฟใต้ดินมากขึ้น โครงการ “รถไฟใต้ดินโฉมใหม่” ครอบคลุมการบูรณะสถานีรถไฟใต้ดิน 170 สถานีจาก 300 สถานีที่มีอยู่ โดยจะมีการปรับปรุงป้ายสัญญาณ แสง ทางเดินและพื้นที่จัดกิจกรรม เพื่อให้ผู้โดยสารสัมผัส ได้ถึงความสะดวกสบายภายในระบบรถไฟใต้ดินที่มีอายุเป็นร้อยปี ส่วนรถไฟใต้ดินสายใหม่ชื่อ เมเตออร์ (M?t?or) วิ่งเร็ว เงียบ และกว้างขวาง ช่วยประหยัดเวลาเดินทางในใจกลางมหานครปารีสได้เป็นอย่างมาก
ขณะเดียวกันนี้ สถาบันรถรางฝรั่งเศสก็กำลังได้รับการพัฒนาส่งเสริม ฝรั่งเศสจะมีรถรางที่สะดวกสบายและ เงียบวิ่ง ในเมือง ที่ปารีส หลังจากการก่อสร้างรถรางขึ้นมงมาร์ท (โดย Roger Tallon ในปี 1993) และในปี 2005 รถรางรอบมหานครจะเปิดให้บริการ โดยมี Wilmotte เป็นผู้ออกแบบสถานี
คงพูดถึงสไตล์ฝรั่งเศสได้ไม่เต็มปากถ้าไม่ได้กล่าวถึง Michel และ Pierre Roset เจ้าของบริษัทออกแบบ และผลิตเฟอร์นิเจอร์ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นสุดยอดดีไซเนอร์ฝรั่งเศสของโลก และก็คงต้องกล่าวถึงเก้าอี้นวมนั่งสบาย ของ Pascal Mourgue เดย์เบดขนาดมโหฬารของ Fran?ois Bauchet โซฟาของ Arik Levy และอื่นๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ยังมี Roche et Bobois ที่เปิดรับผลงานจากดีไซเนอร์ใหม่ ๆ เสมอ หรือ De Fermob จ้าวแห่งเก้าอี้สวนที่มี Chafik หรือ Patrick Jouin เป็นผู้ดูแลการออกแบบผลิตภัณฑ์สีสันสวยงามเหล่านี้
สุดท้าย การทำงานที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังของบริษัทออกแบบของฝรั่งเศสอย่าง Kreo, Sentou, Soca, Xo, Domeau&Peres ที่ได้ร่วมทำงานกับดีไซเนอร์รุ่นใหม่ ๆ รวมไปถึงการที่มีบริษัทออกแบบจากอิตาลีอย่าง Capelinni หรือ Kartell มาเปิดในปารีส ล้วนมีส่วนอย่างมากในการทำให้ปารีสกลายเป็นเมืองหลวงแห่งการสร้างสรรค์ของยุโรป
ศิลปินนักออกแบบ จ้าวแห่งศิลปะรูปทรง
เราสามารถแบ่งดีไซเนอร์ออกเป็นสองกลุ่ม โดยทั้งสองกลุ่มนี้ต่างทำงานเสริมซึ่งกันและกัน กลุ่มแรกคือดีไซเนอร์ ที่ทำงานประจำอยู่ในทีมออกแบบในบริษัท ดีไซเนอร์กลุ่มนี้มีบทบาทสำคัญในการช่วยให้บริษัทสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่มี ความเหมาะสม ดีไซเนอร์อีกกลุ่มหนึ่งคือ “ศิลปินนักออกแบบ” ดีไซเนอร์กลุ่มนี้จะทำงานในบริษัทรับออกแบบหรือทำงาน อิสระ ศิลปินกลุ่มนี้มีอิสระมากกว่า มีแนวความคิดสร้างสรรค์มากกว่า ทำงานหลากหลาย (ตั้งแต่เฟอร์นิเจอร์ไปจนถึง บรรจุภัณฑ์หรือออกแบบตกแต่งภายใน) และมักจะสร้างสรรค์ผลงานเป็นที่สนใจของสื่อมวลชนมากกว่า
ดาวเด่นด้านการตกแต่งภายในของทุกวันนี้ ก็ได้แก่ Philippe Starck, Andr?e Putman, Christian Liaigre, Jean-Michel Wilmotte และ Garouste et Bonetti ศิลปินนักออกแบบเหล่านี้เดินทางทำงานไปทั่วโลก มีนักออกแบบ หลายคนเช่น Loewy เริ่มต้นมีชื่อเสียงจากต่างประเทศ โดยแต่ละคนมีเอกลักษณ์ของตนเองในการนำเสนอการออกแบบ ตกแต่งสไตล์ฝรั่งเศส และนี่อาจจะเป็นลักษณะเฉพาะตัวของสไตล์ฝรั่งเศสที่ไม่มีสำนักหรือกระแสที่ชัดเจน แต่มีเอกลักษณ์ โดดเด่นของศิลปินแต่ละคนที่ชัดเจนเพียงพอที่จะเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งยุคแห่งการออกแบบ ดีไซเนอร์รุ่นใหม่ที่เต็มเปี่ยมไป ด้วยพลังกำลังดำเนินรอยตามรุ่นพี่พร้อมๆ กับสร้างผลงานการออกแบบเพื่อขอมีส่วนบ้าง แม้จะเพียงเล็กน้อยในการ เปลี่ยนโฉมหน้าโลกแห่งการดีไซน์ ดีไซเนอร์รุ่นใหม่นี้ต่างทำงานและเชื่อมั่นในแนวความคิดสำคัญของ Philippe Starck เกี่ยวกับความ “สวย” และ “ดี”
วัฒนธรรมทางความคิดและการทำงานของ Philippe Starck มีอิทธิพลต่อนักออกแบบรุ่นใหม่เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอิสระทางความคิดในการทำงานออกแบบทุกแขนงและการทดลองใช้วัสดุต่างๆ โดยมีพลาสติกเป็นหลัก นอกจากนี้ ยังรวมไปถึงวิธีในการสื่อสารสาระของงานสร้างสรรค์ของเขา ดีไซเนอร์ที่มีพรสวรรค์รุ่นใหม่ ๆ หลายคนในยุค 2000 เคยทำงานในบริษัทออกแบบของ Philippe Starck มาแล้วทั้งนั้น
Matali Crasset อดีตสมาชิกทีมออกแบบของทอมสัน ได้สร้างความตื่นตะลึงมาแล้วจากคอนเซ็ปต์เตียงเฉพาะกิจ ซึ่งเป็นเตียงขนาดกำลังพอดีที่ม้วนได้ชื่อ ?Quand Jim monte ? Paris ? (เมื่อจิมขึ้นมาปารีส) ปัจจุบันได้รับการปรับแบบ และผลิตโดยบริษัท Domeau&Peres ดีไซเนอร์ Jean-Marie Massau ใช้โฟมที่เก็บความร้อนและมีคุณสมบัติ “ซ่อมแซมตัวเองได้” หรือ Self-healing ในการทำ “Horizontal chair” (1997) Elsa Franc?s และ Jean Michel Policard เสนอ “D?-Light” ซึ่งเป็นโต๊ะที่ส่องสว่างจาก “ลูกเต๋า” เรืองแสงโดยแสงจะดับเมื่อพลิกลูกเต๋า จะเห็นได้ว่าศิลปิน นักออกแบบต่างตั้งโจทก์เรื่องฟังก์ชั่นการใช้สอยของเฟอร์นิเจอร ์และต่างคนต่างมีแนวทางของตนในการนำเทคโนโลยีเข้า
มาใช้
ในบรรดาดีไซเนอร์ผู้มีพรสวรรค์รุ่นใหม่ที่ใช้คุณสมบัติใหม่ๆ ของวัสดุมาสร้างผลิตภัณฑ์รูปแบบใหม่ ก็จะมี Olivier Peyricol ที่ออกแบบที่นั่ง “Human blocks” ซึ่งรองรับสรีระคนนั่ง เพื่อส่งเข้าแข่งขันในงานประกวดเฟอร์นิเจอร์ บ้านพักตากอากาศศตวรรษที่ 21 ปัจจุบันบริษัท EDRA นำความคิดสร้างสรรค์ของเขาไปปรับปรุงและผลิตจำหน่าย
พี่น้อง Bouroullec ประสบความสำเร็จในวงการออกแบบและเป็นดาวเด่นระดับโลกทั้ง ๆ เพิ่งย่างเข้าวัยสามสิบ เท่านั้น ผลงานที่มีรูปทรงเรียบลื่นของ Ronan และ Erwan ได้รับอิทธิพลมาจากกระแสมินิมัลลิซึ่ม ใกล้เคียงกับ คอนเซ็ปต์เอเลเมนทารี ผลงานของพวกเขาถูกนำไปจัดแสดงทุกหนทุกแห่งและเป็นส่วนหนึ่งของการแสดงประวัติการ พัฒนาการออกแบบเฟอร์นิเจอร์ที่พิพิธภัณฑ์การออกแบบลอนดอน คณะกรรมการส่งเสริมนวัตกรรม การออกแบบ เฟอร์นิเจอร์ หรือ VIA เป็นผู้ให้ทุนในการทำโครงการแรก ๆ (เฟอร์นิเจอร์ห้องครัวของ Ronan Bouroullec ได้ Capellini เป็นผู้ผลิต) รวมทั้งได้รับความช่วยเหลือจากกองทุนวิจัยแห่งกระทรวงวัฒนธรรม โดยเฟอร์นิเจอร์ที่ออกแบบได้ Roset เป็นผู้ผลิตและหลังจากนั้นเปลี่ยนมาเป็น Vitra ซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ที่ดีที่สุดรายหนึ่งในปัจจุบัน
การสร้างสรรค์กับงานอนุรักษ์
เพื่อส่งเสริมงานสร้างสรรค์ในวงการอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์หรู Colbert Committee ได้จัดให้มีการประกวด ผลงาน เพื่อให้นักสร้างสรรค์และผู้ผลิตที่เป็นสมาชิกสมาคมจำนวน 64 ราย ได้พบปะกันอย่างใกล้ชิด ทุกปีนับตั้งแต่ปี 1987 บริษัท Baccarat บริษัทผู้ผลิตคริสตัลในแคว้นเบรอตาญและ บริษัท Daum ต่างจ้างผู้จบการศึกษาจากสถาบัน ออกแบบต่าง ๆ มาทำหน้าที่ผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์
ในส่วนการผลิตขวดน้ำหอมก็อาศัยการพัฒนาทางเทคโนโลยีมาสร้างสรรค์ผลงาน ตัวอย่างเช่น สำนักงาน ออกแบบ Cent Degr?s ได้รังสรรค์ขวดน้ำหอม Jean-Paul Gaultier, Paco Rabanne และ Po?sie นอกจากนี้ ยังสร้างผลงานที่เกิดจากการผสมผสานกันอย่างลงตัวระหว่างความงามและเทคโนโลยีอย่างเช่นหัวฉีดที่ทำจากซิลิโคนสำหรับน้ำหอม Ultravilolet สำนักงานออกแบบ Cent Degr?s ได้ร่วมงานกับ Remy Martin จินตนาการสร้าง ขวดบรรจุคอนยัคสำหรับดื่มในยานอวกาศ ผลงานอันน่าทึ่งนี้จะช่วยให้บริษัทคอนยัคได้ทดลองใช้วัสดุใหม่ ๆ รวมทั้ง ศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภครูปแบบใหม่ และเสริมสร้างแนวความคิดใหม่ ๆ สำหรับปีต่อ ๆ ไปในอนาคต
กองทุนส่งเสริมการสร้างสรรค์ของกระทรวงวัฒนธรรม (หรือทุน FIACRE) สนับสนุนนักสร้างสรรค์ให้สร้างต้นแบบ โดยการให้ใช้สถานที่ทำงานเช่นที่เวิร์คชอปเฟอร์นิเจอร์แห่งชาติ (National Furniture workshop) สำหรับสร้างผลงาน ต้นแบบ ผลงานที่กำเนิดจากที่นี่ตัวอย่างเช่น ผลงานชุด “Furniture in line” ซึ่งเป็นเฟอร์นิเจอร ์ซีรีส์เดียวกันที่สามารถ แยกและประกอบเข้ากันอย่างลงตัวผลงานของ Fr?d?ric Ruyant ในปี 2000 เป็นต้น
บางครั้ง งานดีไซน์ก็คือการเสนอผลงานชิ้นเล็ก ๆ ที่เรียบง่ายและใช้งานสะดวกให้กับผู้ซื้อ เพื่อเพิ่มความ สุนทรีย์เล็ก ๆ น้อย ๆ ให้กับข้าวของที่เราใช้ในชีวิตประจำวัน อย่างเช่นแจกัน Ts?-Ts? สุดสวย แจกัน “เมษายน” (le vase d’Avril )หรือแจกัน “เจ็ดวัน” ผลงานสร้างสรรค์จาก Lexon ที่มีประสบการณ์นานนับสิบปีใน การผลิตผลงานโดยฝีมือ ทีมงาน นักออกแบบ ผู้มีพรสวรรค์ เช่น Marc Berthier และลูกศิษย์ เป็นต้น บริษัทใหม่ที่ชื่อ ‘Industrielle’ นำโดย J?r?me Lart ก็ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในการขายสินค้าที่ออกแบบมาอย่างชาญฉลาดและงดงาม อย่างเช่น เกลือ อัดแท่งที่มีรูปทรงเหมือนชอล์คสำหรับพกไว้ในกระเป๋า หรือที่หิ้วขวดจากลวดฝีมือ Godefroy de Virieu ไดโอดเรืองแสง สำหรับติดตรงไหนก็ได้เหมือนกับ “Post-it” ของ Reno และ แน่นอน อุปกรณ์สำหรับยึดหรือ แขวนทำจากอลูมิเนียม หรือคาร์บอนฝีมือ J?r?me Lart นั่นเอง
เราจะพบงานออกแบบที่ใด
สถาปนิกและดีไซเนอร์ร่วมมือกันปรับโฉมภายในและภายนอกอาคารสถานที่ต่างๆ โดยให้ความสำคัญกับ ลักษณะเฉพาะตัวที่มีอยู่แล้วของสิ่งก่อสร้างนั้น ๆ จึงมักจะได้เห็นการแปลงโฉมอย่างต่อเนื่องของร้านอาหาร ร้านค้า โรงแรม ร้านกาแฟ เพื่อก่อให้เกิดบรรยากาศอบอุ่นในอาคารเก่าพร้อมกับความสะดวกสบายด้วยเฟอร์นิเจอร์ใหม่ ดังที่เรา จะเห็นได้จากร้าน Caf? Coste โรงแรม La P?rouse เรื่อยไปจนถึงพิพิธภัณฑ์ลูฟร์ งานออกแบบไม่ได้หยุดเพียงแค่ เรื่องสินค้าและบรรจุภัณฑ์ แต่ยังรวมไปถึงสถานที่จัดแสดงนิทรรศการและ สถานที่ประกอบ ธุรกิจค้าขาย R?mond Loewy กล่าวไว้ว่า “ความน่าเกลียดขายไม่ออก ” ห้างร้านขนาดใหญ่ ๆ ต่าง ๆ ก็ปรับรูปโฉม ในลักษณะร้านค้าแบบ “ไลฟ์สไตล์” อย่างเช่น Sephora, Truffaut และ R?sonance โดยอาศัยคำแนะนำจากสำนักงานออกแบบใหญ่ ๆ แล้วนำมาปรับ ใช้โดยแผนกตกแต่งภายในของบริษัทเองเพื่อจัดการ พื้นที่ แผนกต้อนรับ และการโชว์สินค้า เป็นต้น
และเพื่อเป็นการส่งเสริมกระแสการตกแต่งและความคิดสร้างสรรค์ ทางปารีสจึงจัดนิทรรศการภายใต้คำขวัญ “ปารีส เมืองหลวงแห่งการสร้างสรรค์” โดยรวบรวมผลงานใหม่ ๆ มาจัดแสดงรวมกันเป็นเวลาหลายวันระหว่างงาน แสดง สินค้าและแฟชั่นโชว์ ไม่ว่าจะเป็น ห้องแสดงผลงาน นิตยสาร สถานที่จัดแสดงนิทรรศการ ร้านค้า เวิร์คชอป และอื่น ๆ
ผู้จัดงานแสดงนิทรรศการสินค้า “Maison et objets” (บ้านและสินค้าตกแต่ง) และ Salon international du
meuble de Paris” (งานแสดงเฟอร์นิเจอร์นานาชาติปารีส) ต่างพยายามแข่งขัน จัดแสดง ผลงานสร้างสรรค์ใหม่ ๆ ในปี 2001 ผู้จัดแสดงรายหนึ่งได้เปิดห้องแสดงผลงานชื่อ “Now, Design to live” เพื่อตอบสนองความต้องการในการจัด แสดงผลงานทันสมัยของนักสร้างสรรค์ผลงานรุ่นใหม่และผู้ผลิตโดยไม่มีการแบ่งแยกว่าจะเป็นสินค้าจากใคร เราจึงได้เห็น ผลงานของผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์อิตาลีของศิลปินที่เป็นทั้งผู้ผลิตและผู้ขาย หรือกระทั่งของผู้ผลิตระดับอุตสาหกรรมที่นำ สินค้า ตัวสำคัญ ๆ มาจัดแสดงเช่นกระทะชุดใหม่ของ Tefal ออกแบบโดย Marc Newson เป็นต้น
งานนิทรรศการสินค้าตกแต่งบ้าน “Habiter” ได้ นำสินค้าสุดยอดแห่งการออกแบบเฟอร์นิเจอร์มาจัดแสดงอย่าง ต่อเนื่องทุกปีตั้งแต่ปี 2002 มีการจัดตั้งเครือข่ายดีไซเนอร์ ขึ้น ตัวอย่างเช่นการมารวมตัวกันใน “วันนักออกแบบ ” ซึ่งเป็นงานสำคัญงานหนึ่งในกรุงปารีสที่ประสบความสำเร็จมากขึ้นเรื่อยๆ โดยในวันดังกล่าว จะเป็นวันพบปะกัน ระหว่างผู้ที่อยู่ในวงการออกแบบ และประชาชนผู้สนใจในห้องจัดแสดงผลงาน ร้านขายเฟอร์นิเจอร์และสินค้าดีไซน์ต่าง ๆ
ห้างสรรพสินค้าใหญ่ ๆ ก็พยายามสนับสนุนผลงานดีไซเนอร์สายเลือดใหม่ ๆ ดังจะเห็นได้จากการจัดให้มีพื้นที่ แสดงผลงานที่ดูแลโดยห้างสรรพสินค้า Le Printemps (เลอ แพรงตอง) ที่ ศูนย์ศิลปวัฒนรรมจอร์จ ปอมปิดู ห้องแสดง ผลงาน Trends Space ของห้าง Galerie Lafayette และนิทรรศการของห้าง Samaritaine เป็นต้น
นอกจากนี้ ในท้องที่ต่าง ๆ ยังมีการริเริ่มสร้างเสริมงานออกแบบใหม่ ๆ อย่างเช่นที่เมืองมาร์เซย์ เมืองนองต์ และเมืองลีลล์ ผู้สนใจไม่ควรพลาดงานแสดงผลงานออกแบบที่จัดขึ้นทุกๆ สองปีที่เมืองแซ็งต์-เอเตียน ในเดือน พฤศจิกายน ปีนี้ ที่จัดขึ้นโดยสถาบันวิจิตรศิลป์ (L’?cole des Beaux-Arts) โดยจะเป็นที่รวมของผลงานการออกแบบทั้ง จากในฝรั่งเศสและจากอีกร้อยกว่าประเทศทั่วโลกบนพื้นที่กว่า 30,000 ตารางเมตร
APCI หรือสำนักงานส่งเสริมการออกแบบอุตสาหกรรม
APCI เป็นสมาคมตามกฎหมายปี 1901 มีบทบาทสำคัญในการจัดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมการออกแบบ ตัวอย่างเช่น จัดทำหนังสือคู่มือฉบับสองภาษาชื่อ “Panorama Design France” (ตีพิมพ์โดย APCI และจัดจำหน่ายโดย Alternatives, 300 หน้า) และตราสัญลักษณ์ “Design Observer” ซึ่งเป็นการคัดเลือกผลิตภัณฑ์และบริการที่โดดเด่น ในด้านการ ออกแบบ
APCI ตั้งอยู่ที่ 24 ถนน Charolais, 75012 ปารีส, www.apci.asso.fr, [email protected]
ศูนย์ออกแบบประจำภูมิภาค
ตั้งขึ้นตามดำริของกระทรวงอุตสาหกรรม หน้าที่สำคัญของศูนย์ออกแบบภูมิภาคคือการส่งเสริมการออกแบบ ในบริษัทขนาดกลางและขนาดย่อม www.designfrance.tm.fr
The Colbert Committee
ส่งเสริมงานออกแบบภายในกลุ่มสมาชิก 64 บริษัทที่อยู่ในธุรกิจสินค้าหรู www.comite-colbert.com
Via หรือคณะกรรมการส่งเสริมนวัตกรรมการออกแบบเฟอร์นิเจอร์
ส่งเสริมการออกแบบในธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ให้ทุนสนับสนุนการสร้างต้นแบบโดยการให้เข้ามา “ประมูล” และการให้ทุนวิจัย “บัตรขาว” คณะกรรมการจัดงานนิทรรศการแสดงผลงานออกแบบของฝรั่งเศส อย่างต่อเนื่อง ใน ห้องแสดง ผลงาน หรือในงานแสดงสินค้าทั้งในและต่างประเทศ
สำนักงานตั้งอยู่ที่ Viaduc des Arts 29 ถึง 35 ถนน Daumesnil, 75012 ปารีส, www.via.asso.fr
การส่งเสริมการออกแบบในประเทศฝรั่งเศสเป็นงานของกระทรวงวัฒนธรรมและกระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงเหล่านี้ให้ความสนับสนุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งโดยการให้ทุนศึกษาสร้างแรงจูงใจทางการเงินให้กับนักออกแบบ และ บริษัทต่าง ๆ พัฒนาการศึกษาและการวิจัย (ที่มา หนังสือ Panorama Design France”)
ห้องแสดงผลงานที่กล่าวถึงในบทความ
Sentou ปรับแบบและจัดจำหน่าย
Soca
XO ปรับแบบและจัดจำหน่าย
บริษัทดีไซน์จากอิตาลีที่เพิ่งตั้งสำนักงานที่ปารีสเมื่อเร็ว ๆ นี้
Cappellini 4 ถนน Rosier 75004 ปารีส 0142 78 39 39
Cassina 165 ถนน Haussmann 75008 ปารีส 01 45 61 04 17
งานแสดงสินค้า
Maisons et Objets (บ้านและของตกแต่ง) www.maison-objet.com
งานแสดงเฟอร์นิเจอร์นานาชาติปารีส “Habiter” www.salondumeuble.com
“ปารีส เมืองหลวงแห่งการสร้างสรรค์” www.pariscapitaledelacreation.com
ปารีส เมืองหลวงแห่งการสร้างสรรค์หรือ “Paris Capital of Creation”
เป็นกิจกรรมที่เกิดจากความร่วมมือของบริษัทจัดแสดงสินค้าแฟชั่นและสินค้าตกแต่งบ้านระดับมืออาชีพ 17 บริษัท โดยได้รับการสนับสนุนจากเทศบาลนครปารีสและสำนักงานการท่องเที่ยวและการประชุมแห่งปารีส
งาน “เส้นทางแห่งการสร้างสรรค์” (Parcours de la Cr?ation) จัดขึ้นปีละสองครั้งในราว ปลายเดือนมกราคม และต้นเดือนกันยายน โดยจะเป็นที่รวมของผลงานการสร้างสรรค์รูปแบบใหม่ ๆ ในปารีสและพาผู้เข้าชมไปสัมผัสสถานที่ และกิจกรรมต่างๆ ทั้งในด้านอาหาร แฟชั่น ความงาม ของใช้ ตกแต่ง ออกแบบ สถาปัตยกรรม ศิลปะ พิพิธภัณฑ์ โรงเรียนและห้องจัดแสดงผลงานต่าง ๆ
“ปารีส เมืองหลวงแห่งการสร้างสรรค์” คือที่รวมของงานแสดงสินค้าจากบริษัทผู้จัดมืออาชีพ 17 บริษัทในปารีส
มีผู้เข้าชมที่อยู่ในวงการออกแบบ 500,000 คน โดย 150,000 คนมาจากต่างประเทศ นักข่าว 16,000 โดย 5,000 คนมาจากต่างประเทศ ดีไซเนอร์และผู้ผลิตกว่า 14,000 คน โดย 6,000 คนมาจากต่างประเทศ
วันนักออกแบบ
วันนักออกแบบเป็นวันที่มีการจัดกิจกรรมเยี่ยมชมผลงานออกแบบในปารีส ในปี 2003 มีห้องจัดแสดงผลงาน 37 แห่งเข้าร่วมงานนี้ สำหรับงานในปีนี้ ซึ่งจัดไปเมื่อเดือนมิถุนายน นอกจากเยี่ยมชมผลงานแล้ว ผู้จัดยังเตรียมให้มีการ ประชุมฟอรั่ม แนวทางการออกแบบ ในอนาคตไปพร้อม ๆ กันด้วย
งานแซ็งต์ เอเตียน (ทุกสองปี)
งาน 4th Design Biennial ในเมืองแซ็งต์ เอเตียน จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 6 ถึง 14 พฤศจิกายน ศกนี้ งานแสดงผลงานออกแบบระดับนานาชาตินี้จะเน้นไปที่การผลิตผลงานและประเด็นปรากฏการณ์ที่กำหนดความเป็นไปของสังคมและบทบาทของการออกแบบ (งานครั้งล่าสุดจัดขึ้นในเดือนพฤศจิกายน 2002)
เว็บไซต์ของบริษัทที่กล่าวถึงในบทความ
Aigle: www.aigle.com
Baccarat: www.baccarat.fr
Berchet: www.groupe-berchet.com
Bic Sport: www.bicsport.com
Corima: www.corima.com
Daum: www.daum.fr
Decathlon: www.decathlon.fr
Industrielle: www.industrielle.tm.fr
Lafuma: www.lafuma.fr
Lexon: www.lexon-design.com
L’Or?al: www.loreal.com.fr
Peugeot: www.peugeot.com
Ratp: www.ratp.fr
Remy Martin: www.remy.com
Roche et Bobois: www.roche-bobois.com
Renault: www.renault.fr
Roset: www.ligne-roset.tm.fr
Rossignol: www.skisrossignol.com
Salomon: www.salomon-sports.com
Seb: www.groupeseb.com
Sncf: www.sncf.fr
Smoby: www.smoby.fr
Thomson: www.thomson.fr
Zodiac: www.zodiac.com
ที่อยู่สำหรับติดต่อนักออกแบบที่กล่าวถึงในบทความสามารถค้นหาได้จากฐานข้อมูล AGORA ของเว็บไซต์ VIA (www.via.asso.fr) หรือเสิร์ชเอ็นจิ้นของ APCI (www.apci.asso.fr)
แปลจากบทความเรื่อง “French design” ของ Claire QUENTIN โดยสำนักงานข่าวเทคโนโลยีฝรั่งเศส