ดัชนีตลาดหุ้นวันนี้
ตลาดหุ้นไทยในวันพฤหัสบดีที่ 7 ตุลาคม ปิดที่ 670.06 จุด เพิ่มขึ้น 1.55 จุด หรือร้อยละ 0.23 มูลค่าการซื้อขายที่ 2.3 หมื่นล้านบาท ตลาดปรับตัวผันผวนตลอดทั้งวัน โดยได้ปัจจัยลบจากการที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกเพิ่มสูงขึ้น แต่นักลงทุนได้เริ่มให้ความสนใจเรื่องดังกล่าวน้อยลง โดยปัจจัยบวกในวันนี้ยังคงได้แก่การเข้าซื้ออย่างต่อเนื่องของนักลงทุนต่างชาติในหุ้นกลุ่มสื่อสาร และวัสดุก่อสร้าง
– ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้นในวันนี้โดยปิดที่ 13,321.73 จุด เพิ่มขึ้นไป 50.16 จุด หรือร้อยละ 0.38 โดยได้รับแรงหนุนจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาหุ้นในกลุ่มน้ำมันของจีน หลังจากที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวขึ้นไปอยู่เหนือ 52 ดอลลาร์/บาร์เรล
– ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดตลาดที่ระดับลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 6 วัน โดยอยู่ที่ 11,354.59 จุด เพิ่มขึ้นจากวันก่อน 30.79 จุด หรือร้อยละ 0.27 จากแรงขายทำกำไรของนักลงทุนหลังจากที่ตลาดได้ปรับตัวขึ้นไปเกือบ 600 จุดในช่วง 5 วันที่ผ่านมา นอกจากนั้นตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลของนักลงทุนหลังจากที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่
– ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อวันพุธที่ 6 ตุลาคม ปิดตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้น 62.24 จุด หรือร้อยละ 0.61 ไปอยู่ที่ 10,239.92 จุด ถึงแม้ว่าราคาน้ำมันในตลาด NYMEX จะปรับตัวขึ้นไปปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่เหนือ 52 ดอลลาร์/บาร์เรลก็ตาม โดยตลาดได้รับแรงหนุนจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมากของราคาหุ้นในกลุ่มพลังงาน ซึ่งต่างก็ได้ปรับตัวขึ้นไปสู่ระดับสูงสุดในรอบ 52 สัปดาห์
– เงินดอลลาร์สหรัฐฯ ได้แข็งค่าขึ้นไปเมื่อเทียบกับเงินเยน , บาท และยูโร โดยอยู่ที่ระดับ 111.22 เยน/ดอลลาร์ฯ , 41.39 บาท/ดอลลาร์ฯ และที่ 1.2284 ดอลลาร์/ยูโร ตามลำดับ
ภาวะตลาดหุ้น
Thailand’s SET
ตลาดหุ้นไทยปิดตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้นไปเล็กน้อย โดยปิดที่ 670.06 จุด เพิ่มขึ้นไป 1.55 จุด หรือร้อยละ 0.23 มูลค่าการซื้อขายหนาแน่นที่ 23,491 ล้านบาท ตลาดยังคงปรับตัวผันผวนจากปัจจัยลบในเรื่องของราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้น แต่การที่ตลาดหุ้นต่างประเทศหลายแห่งยังสามารถปิดอยู่ในแดนบวกได้ ทำให้นักลงทุนให้ความสนใจในเรื่องดังกล่าวน้อยลง โดยปัจจัยบวกที่ช่วยหนุนตลาดในวันนี้ ได้แก่ แรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติที่มีมาอย่างต่อเนื่องในหุ้นกลุ่มสื่อสาร และวัสดุก่อสร้าง และท่าทีที่ชัดเจนมากขึ้นของผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยที่สนับสนุนให้มีการเปลี่ยนผู้บริหารของธนาคารกรุงไทย ซึ่งได้ส่งผลให้ราคาหุ้นดังกล่าวปรับตัวสูงขึ้นในวันนี้
Japan Nikkei-225
ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดตลาดปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 6 วัน โดยลดลงไปปิดที่ 11,354.59 จุด ลดลงไป 30.79 จุด หรือร้อยละ 0.27 จากการขายทำกำไรของนักลงทุนหลังจากที่ตลาดได้ปรับตัวขึ้นไปเกือบ 600 จุดในช่วง 5 วันที่ผ่านมา นอกจากนั้นแล้ว ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของราคาน้ำมันที่ได้ขึ้นไปทำสถิติสูงสุดครั้งใหม่เหนือ 52 ดอลลาร์/บาร์เรล ต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจญี่ปุ่น อย่างไรก็ตาม การปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาหุ้นในกลุ่มพลังงาน ได้ช่วยหนุนตลาดให้ปรับตัวลงไปเพียงเล็กน้อย
Hang Seng
ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดตลาดเพิ่มขึ้นหลังจากที่ได้ลดลงไปเป็นเวลาสองวันติดต่อกัน โดยปิดที่ 13,321.73 จุด เพิ่มขึ้น 50.16 จุด หรือร้อยละ 0.38 โดยได้รับแรงบวกจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาหุ้นกลุ่มน้ำมันของจีนอย่างมากในวันนี้ หลังจากที่ราคาน้ำมันได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์
US ‘s Dow Jones
ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อวันพุธที่ผ่านมา โดยเพิ่มขึ้น 62.24 จุด หรือ ร้อยละ 0.61 ไปปิดที่ 10,239.92 จุด ปริมาณการซื้อขายหนาแน่นที่ 1.4 พันล้านหุ้น ถึงแม้ว่าราคาน้ำมันดิบในตลาด NYMEX จะปรับตัวเพิ่มขึ้นไปปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ที่ 52.02 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากที่สหรัฐฯได้รายงานสต็อกน้ำมันดิบในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาซึ่งน้อยกว่าที่คาดไว้ อันเป็นผลมาจากพายุเฮอริเคน อย่างไรก็ตาม การเพิ่มขึ้นอย่างมากของราคาหุ้นบริษัทน้ำมันขนาดใหญ่ เช่นเอ็กซอน โมบิล และ เชฟรอน เท็กซาโก ซึ่งได้เพิ่มขึ้นไปแตะระดับสูงสุดในรอบปี ได้ช่วยหนุนให้ตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้น
US’s NASDAQ
ดัชนี NASDAQ ปรับตัวเพิ่มขึ้นไปสู่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 3 เดือน โดยปิดที่1,971.03 จุด เพิ่มขึ้นไป 15.53 จุด หรือ ร้อยละ 0.79 โดยได้รับปัจจัยบวกจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาหุ้นในกลุ่มพลังงานขนาดใหญ่
สรุปการเคลื่อนไหวของค่าเงิน
Baht/USD
เงินบาททรงตัวอยู่ในช่วงแคบๆเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เช่นเดียวกันกับค่าเงินส่วนใหญ่ในภูมิภาค โดยราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับตัวขึ้นไปสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ยังคงเป็นปัจจัยลบต่อค่าเงินบาท แต่การที่ตลาดได้ปรับตัวรับเรื่องดังกล่าวไปก่อนหน้านั้นแล้ว ทำให้ข่าวดังกล่าวมีผลกระทบไม่มากนักในวันนี้ นอกจากนั้นแล้วนักลงทุนยังคงชะลอการเข้าซื้อดอลลาร์ฯก่อนการประกาศตัวเลขการจ้างงานเดือน ก.ย.ในวันศุกร์นี้
Yen/USD
เงินเยนได้อ่อนค่าลงไปเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯ โดยเงินดอลลาร์ฯได้รับแรงบวกจากความคิดเห็นในเชิงบวกเกี่ยวกับการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯจากประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ สาขาแคนซัส ซิตี้ที่ว่าราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯเพียงเล็กน้อย และ จากประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ สาขาเซนต์หลุยส์ที่ว่าระดับอัตราดอกเบี้ยที่เป็นกลางควรจะอยู่ที่ร้อยละ 3 – 5 อย่างไรก็ตาม นักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงคาดว่าเงินดอลลาร์ฯจะไม่เคลื่อนไหวมากนักก่อนการรายงานตัวเลขการจ้างงานเดือน ก.ย.ซึ่งคาดกันว่าจะมีการสร้างงานใหม่ถึง 148,000 ตำเเหน่ง
USD/Euro
เงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้นไปเมื่อเทียบกับเงินยูโรเช่นเดียวกัน หลังจากที่ได้มีการแสดงความคิดเห็นเชิงบวกเกี่ยวกับการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯจากประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ สาขาแคนซัส ซิตี้ และ เซนต์หลุยส์ ซึ่งได้ช่วยหนุนการคาดการณ์ที่ว่าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯจะยังคงถูกปรับขึ้นต่อไป
สรุปการเคลื่อนไหวของอัตราผลตอบแทนในตลาดตราสารหนี้
Thai Gov. Bon
มูลค่าการซื้อขายในวันนี้อยู่ที่ 4,380.4 ล้านบาท ลดลงจากวันก่อนอย่างมากถึงร้อยละ 72.4 อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรระยะกลางและระยะยาวปรับตัวขึ้นไปอย่างมากตั้งแต่ 2 ถึง 9 bps. โดยอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรอายุ 9 ปีได้ปรับขึ้นไปมากที่สุดถึง 9 bps.
US Treasury Bond 10 Years
ราคาพันธบัตรของสหรัฐฯ เมื่อวันพุธที่ 6 ตุลาคม ปรับตัวลดลงไป โดยได้รับแรงกดดันจากความคิดเห็นของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ สาขาเซนต์หลุยส์ ที่ดูเหมือนจะบ่งชี้ว่าอัตราดอกเบี้ยที่เป็นกลางควรจะอยู่ที่ระดับร้อยละ 3 – 5 ได้ทำให้นักลงทุนคาดว่ามีความเป็นไปได้มากขึ้น ที่อัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯอาจจะถูกปรับขึ้นไปมากกว่าระดับที่ตลาดได้คาดการณ์ไว้ นอกจากนั้นแล้ว ราคาพันธบัตรยังได้รับแรงกดดันจากการประมูลพันธบัตรอายุ 5 ปีที่เป็นไปอย่างซบเซา เนื่องจากนักลงทุนชะลอที่จะซื้อขายก่อนการรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน ก.ย.ในวันศุกร์นี้