ค่าดอลลาร์หล่นทะลุ 1.26 ต่อยูโร : แรงขายท่วมตลาด

เงินดอลลาร์สหรัฐฯ ทำสถิติมีค่าต่ำสุดในรอบ 8 เดือน เมื่อเทียบกับเงินยูโร โดยมีค่าร่วงลงผ่านแนวต้าน 1.2550 ดอลลาร์/ยูโร และมีค่าลดลงในรอบ 4 เดือน เมื่อเทียบกับเงินเยน ณ อัตรา 107 เยน/ดอลลาร์ ปัจจัยสำคัญที่กดดันค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ได้แก่ ความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ ท่ามกลางราคาน้ำมันแพงและยอดขาดดุลบัญชีเดินสะพัดสหรัฐฯ ขณะเดียวกัน เงินเยนญี่ปุ่น ได้รับแรงสนุนจากรายงานข่าวที่ว่าทางการจีนอาจปรับค่าเงินหยวนให้ยืดหยุ่นในไม่ช้านี้ ซึ่งจะส่งผลให้สกุลเงินเอเชียมีค่าเข้มแข็งขึ้น สำหรับเงินปอนด์สเตอร์ลิงอังกฤษ มีค่ากระเตื้องดีขึ้นเป็นลำดับ เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ แต่มีค่าอ่อนตัวลง เมื่อเทียบกับเงินยูโร ทั้งนี้ เป็นผลจากการที่เงินดอลลาร์อเมริกันหวั่นไหวตลอดสัปดาห์ ทางด้านราคาทองคำในตลาดต่างประเทศ พุ่งสูงสุดในรอบเกือบ 6 เดือน แตะที่ระดับเฉลี่ย 425 ดอลลาร์/ออนซ์ ก่อนที่จะมีการเทขายเพื่อเอากำไรในเวลาถัดมา

เงินดอลลาร์สหรัฐฯ มีค่าลดลงอย่างต่อเนื่อง เมื่อนักลงทุนยังไม่มั่นใจในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งผลการหยั่งเสียงต่างมีคะแนนใกล้เคียงกันมากระหว่างประธานาธิบดี George W. Bush ของพรรครีพับลิกัน และผู้สมัครท้าชิง นาย John Kerry แห่งพรรคเดโมแครต ซึ่งทั้งสองฝ่ายมีนโยบายด้านความมั่นคง ในกรณีอิรักแตกต่างกันอย่างชัดเจน ทำให้ตลาดจับตาผลการเลือกตั้งครั้งนี้อย่างใกล้ชิด เพราะย่อมมีผลในเชิงจิตวิทยาแก่ตลาดการเงินและค่าเงินดอลลาร์

สาเหตุอื่นๆที่ฉุดให้ค่าเงินดอลลาร์หวั่นไหว ได้แก่ รายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ทยอยประกาศออกมาไม่น่าพอใจเท่าใดนัก ส่งผลให้นักลงทุนลังเลว่าสหรัฐฯจะเพิ่มอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้อีกหนหรือไม่ ยกตัวอย่าง เช่น ดัชนีวัดความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเดือนตุลาคมลดลงอยู่ที่ระดับ 87.5 จากเดือนกันยายนที่ระดับ 94.2 เป็นต้น ยิ่งไปกว่านั้น รายงานเกี่ยวกับเงินทุนไหลเข้าสหรัฐฯเดือนสิงหาคมชะลอลง ก็ยิ่งกดดันให้ค่าเงินดอลลาร์ระส่ำระสายอย่างหนัก เพราะนักเศรษฐศาสตร์วิตกกังวลเกี่ยวกับยอดขาดดุลการค้าและดุลบัญชีเดินสะพัดของสหรัฐฯเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว และเกรงว่าหากเงินทุนจากต่างประเทศไม่เพียงพอที่จะชดเชยยอดขาดดุลดังกล่าว ก็อาจส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์ตกต่ำลงอย่างแน่นอน ดังนั้น เมื่อเงินทุนไหลเข้าจากต่างประเทศเดือนสิงหาคมมีมูลค่า 59 พันล้านดอลลาร์ เทียบกับเดือนกรกฎาคมมีมูลค่า 63.1 พันล้านดอลลาร์ ถือว่าเป็นสัญญาณสำคัญที่กระตุ้นให้ตลาดเงินพากันเทขายเงินดอลลาร์สหรัฐฯ

เป็นที่น่าสังเกตว่า ในขณะที่เงินดอลลาร์ได้รับแรงกดดันจากปัจจัยลบ ปรากฏว่าเงินยูโรและเงินเยนกลับได้รับแรงหนุนในด้านบวก เช่น รายงานผลผลิตกลุ่มยูโรเดือนสิงหาคมไม่เลวร้ายดังที่คาดการณ์กันไว้ แถมมีการปรับอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจเยอรมันในปี 2548 ทำให้นักลงทุนเริ่มมองว่าเศรษฐกิจยูโรอาจฟื้นตัวมากขึ้นในปีหน้า ส่วนปัจจัยที่เสริมค่าเงินเยน ก็คือ ข่าวจากหนังสือพิมพ์ Nikon Keizai ที่รายงานว่าธนาคารกลางญี่ปุ่นเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภคเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปี ชี้ว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นอาจหลุดพ้นภาวะฝืดเคืองแล้ว นอกจากนี้ กระแสข่าวที่เกี่ยวกับการปรับค่าเงินหยวนก็ยังมีอิทธิพลที่ช่วยให้ค่าเงินเยนเพิ่มขึ้นด้วย

เงินดอลลาร์สหรัฐฯ มีค่าร่วงลงอย่างหนักในช่วงปลายสัปดาห์ เมื่อมีแรงเทขายโหมเข้าตลาด หลังจากที่ค่าดอลลาร์หล่นผ่านแนวต้าน 1.25 ดอลลาร์/ยูโร เนื่องจากมีการคาดการณ์กันว่าสหรัฐฯจะเผชิญปัญหาการขาดดุลการค้าเพิ่มขึ้นอีก ตราบเท่าที่ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกยังคงถีบตัวสูงขึ้นเป็นระยะๆ

เงินปอนด์อังกฤษ มีค่าโน้มสูงขึ้นเป็นลำดับ จากซื้อขายที่อัตราเฉลี่ย 1.79 ดอลลาร์/ปอนด์ เพิ่มขึ้นเป็น 1.82 ดอลลาร์/ปอนด์ ทั้งนี้ เป็นผลมาจากค่าเงินดอลลาร์ที่ซบเซาอย่างมาก ทำให้มีแรงซื้อเงินปอนด์เพิ่มขึ้น ทั้งๆที่ตลาดเงินเก็งว่าอังกฤษคงไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในปีนี้ เนื่องจากผลการสำรวจราคาบ้านที่อยู่อาศัยลดลงต่ำสุดในรอบ 9 ปี ในช่วงปลายสัปดาห์ เงินปอนด์ได้รับข่าวดีจากยอดค้าปลีกเดือนกันยายนเพิ่มขึ้น 1.0% นับเป็นอัตราสูงสุดตั้งแต่ต้นปี 2547 ช่วยดึงดูดเงินทุนเข้าสู่สกุลเงินปอนด์

ราคาทองคำในตลาดต่างประเทศสดใส เมื่อค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯลดต่ำลงอย่างต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับเงินยูโรและเงินเยน ทำให้ชาวยุโรปและญี่ปุ่นหันมาซื้อทองคำกันมากขึ้น ด้วยราคาต่ำลงในรูปสกุลเงินท้องถิ่น ยิ่งไปกว่านั้น ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯต้นเดือนพฤศจิกายน ศกนี้ และทิศทางราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ผันผวน ล้วนพยุงให้ราคาทองคำขยับสูงขึ้น

อัตราแลกเปลี่ยนเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เทียบกับเงินตราสำคัญสกุลต่างๆ ณ วันที่ 18 ตุลาคม 2547 เทียบกับวันที่ 21 ตุลาคม 2547 (ตัวเลขในวงเล็บ) มีดังนี้

เงินดอลลาร์สหรัฐฯ มีค่าเท่ากับ 1.2502 ดอลลาร์/ยูโร (1.2618 ดอลลาร์/ยูโร) 109.27 เยน (107.52 เยน) และ 1.7992 ดอลลาร์/ปอนด์ (1.8283 ดอลลาร์/ปอนด์)

ราคาทองคำในตลาดลอนดอน เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2547 เท่ากับ 419.60 ดอลลาร์/ออนซ์ เทียบกับราคา 423.40 ดอลลาร์/ออนซ์ เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2547