รายงานภาวะตลาดหุ้นและการเงิน ประจำวันที่ 27 ตุลาคม 2547

ดัชนีตลาดหุ้นวันนี้

ตลาดหุ้นไทยในวันพุธที่ 27 ตุลาคม ปิดตลาดที่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 2 เดือน โดยลดลง 21.53 จุด หรือร้อยละ 3.32 ไปอยู่ที่ 626.85 จุด มูลค่าการซื้อขายหนาแน่นที่ 2.5 หมื่นล้านบาท ตลาดปรับตัวลดลงตลอดวัน โดยได้มีแรงขายหุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่มต่างๆออกมา จากปัจจัยลบในเรื่องของสถานการณ์ความไม่สงบทางภาคใต้, การที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวเพิ่มขึ้น ประกอบกับการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยจะปรับลดตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจในวันพรุ่งนี้

– ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดตลาดปรับตัวลดลงไปปิดที่ 12,838.71 จุด ลดลง 13.64 จุด หรือร้อยละ 0.11 ทั้งนี้นักลงทุนส่วนใหญ่ต้องการชะลอการซื้อขายก่อนการเลือกตั้งในสหรัฐฯ

– ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในวันนี้ โดยเพิ่มขึ้น 19.49 จุด หรือร้อยละ 0.18 ไปปิดที่ 10,691.95 จุด จากการปรับตัวขึ้นของราคาหุ้นในกลุ่มส่งออก โดยนักลงทุนได้เข้าซื้อเก็งกำไรหุ้นดังกล่าวหลังจากราคาลดลงไปในช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันที่ยังคงอยู่ในระดับสูง และความไม่แน่นอนเกี่ยวกับผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ ตลอดจนเหตุการณ์แผ่นดินไหวในญี่ปุ่นได้กดดันตลาดให้ปรับตัวขึ้นไปเพียงเล็กน้อย

– ตลาดหุ้น Dow Jones ในวันอังคารที่ 26 ตุลาคม ปิดตลาดเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยปิดที่ 9,888.48 จุด เพิ่มไป 138.49 จุดหรือร้อยละ 1.42 จากการฟื้นตัวของราคาหุ้นในกลุ่มประกัน และการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาหุ้นกลุ่มก่อสร้างบ้านหลังจากที่มีการเปิดเผยการคาดการณ์ผลกำไรในปีหน้าของธุรกิจดังกล่าวที่สูงเกินคาด

– เงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้นไปเมื่อเทียบกับค่าเงินเยน, บาท และยูโรในวันนี้ โดยอยู่ที่ 106.74 เยน/ดอลลาร์ฯ, 41.06 บาท/ดอลลาร์ และที่ 1.2761 ดอลลาร์/ยูโร ตามลำดับ

ภาวะตลาดหุ้น

Thailand’s SET
ตลาดหุ้นไทยปิดตลาดลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 2 เดือนในวันนี้ โดยปิดที่ 626.85 จุด ลดลง 21.53 จุด หรือร้อยละ 3.32 มูลค่าการซื้อขายหนาแน่นที่ 25,529.47 ล้านบาท ตลาดปรับตัวลดลงตลอดทั้งวัน โดยราคาหุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่มต่างๆได้ปรับตัวลดลงไป จากปัจจัยลบในเรื่องของสถานการณ์ภาคใต้ที่เป็นปัจจัยหลักในการกดดันการซื้อขาย รองลงมาได้แก่ การที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นไปเหนือ 55 ดอลลาร์ฯ/บาร์เรล และการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยจะปรับลดการขยายตัวทางเศรษฐกิจในวันพรุ่งนี้

Japan Nikkei-225
ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้นในวันนี้ โดยปิดที่ 10,691.95 จุด เพิ่มขึ้น 19.49 จุดหรือร้อยละ 0.18 ทั้งนี้ตลาดได้รับปัจจัยบวกจากแรงซื้อเก็งกำไรที่กลับเข้ามาในหุ้นกลุ่มส่งออกหลังจากที่ราคาได้ลดลงไปอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย เนื่องจากปัจจัยลบต่างๆยังคงไม่คลี่คลาย ไม่ว่าจะเป็นราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ยังคงทรงตัวอยู่ในระดับสูงและความไม่แน่นอนเกี่ยวกับผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ นอกจากนั้นเหตุการณ์แผ่นดินไหวรุนแรงครั้งใหม่ในญี่ปุ่นวันนี้ได้ส่งผลให้เกิดความวิตกกังวลถึงความต้องการลงทุนที่ลดลงของนักลงทุนต่างชาติในหุ้นญี่ปุ่น

Hang Seng
ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดตลาดลดลงไปเล็กน้อย โดยอยู่ที่ 12,838.71 จุด ลดลง 13.64 จุด หรือร้อยละ 0.11 จากการที่นักลงทุนเพิ่มความระมัดระวังในการลงทุนก่อนการเลือกตั้งในสหรัฐฯ และการที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวอยู่ในระดับสูงเหนือ 55 ดอลลาร์/บาร์เรลได้ส่งผลให้เกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกำไรของภาคเอกชน

US ‘s Dow Jones
ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดตลาดเพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โดยอยู่ที่ 9,888.48 จุด เพิ่มไป 138.49 จุด หรือ ร้อยละ 1.42 ปริมาณการซื้อขายหนาแน่นที่ 1.8 พันล้านหุ้น โดยได้รับแรงหนุนจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาหุ้นในกลุ่มประกันจากความเชื่อมั่นที่ว่าการสอบสวนในอุตสาหกรรมประกันที่ดำเนินมาระยะหนึ่งนั้นจะสิ้นสุดลงอย่างรวดเร็ว นอกจากนั้น ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากการที่ราคาหุ้นในกลุ่มก่อสร้างบ้านฟื้นตัวขึ้นอย่างมาก หลังจากที่มีการประกาศการคาดการณ์ผลกำไรในปีหน้าของบริษัท Pulte Homes ที่สูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงได้รับแรงกดดันอยู่บ้างจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นไปอยู่เหนือ 55 ดอลลาร์/บาร์เรลอีกครั้ง

US’s NASDAQ
ดัชนี NASDAQ ปิดที่1,928.79 จุด เพิ่มขึ้นไปอีก 14.75 จุด หรือ ร้อยละ 0.77 โดยได้รับปัจจัยบวกจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาหุ้นในกลุ่มประกัน ซึ่งได้ส่งผลให้หุ้นบลูชิพอื่นๆปรับตัวขึ้น

สรุปการเคลื่อนไหวของค่าเงิน

Baht/USD
เงินบาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลงเล็กน้อยตามทิศทางของค่าเงินเยน และข่าวสถานการณ์ความรุนแรงในภาคใต้ ทั้งนี้คาดว่าเงินบาทอาจจะอ่อนค่าลงได้อีก หลังจากที่มีการคาดการณ์เศรษฐกิจในยูโรโซนที่อาจเข้าสู่ช่วงขาลง และการที่คาดว่าธนาคารกลางญี่ปุ่นอาจเข้าเเทรกแซงค่าเงินเพื่อป้องกันไม่ให้เงินเยนแข็งค่าขึ้นเกินไป

Yen/USD
เงินดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่าขึ้นไปเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเงินเยนในวันนี้ โดยเงินดอลลาร์ฯได้รับแรงบวกจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในญี่ปุ่นในวันนี้ซึ่งส่งผลให้เงินเยนอ่อนค่าลงไปถึง 107.16 เยน/ดอลลาร์ฯและข่าวการจับตัวประกันชาวญี่ปุ่นในอิรัก อย่างไรก็ตาม เงินดอลลาร์ฯได้อ่อนค่าลงในเวลาต่อมา เนื่องจากนักลงทุนยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับปัจจัยลบต่างๆ ที่กดดันค่าเงินดอลลาร์ฯไม่ว่าจะเป็นความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการเลือกตั้งในสหรัฐฯ และการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจที่อ่อนแอ ได้แก่ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ต.ค.ที่ลดลงไปสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือนที่ 92.8 จาก 94.0 ในเดือนก่อน

USD/Euro
เงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินยูโร หลังจากที่คณะกรรมาธิการยุโรปเปิดเผยว่าดุลความเสี่ยงทางเศรษฐกิจสำหรับช่วง 2 ปีหน้าไปเปลี่ยนไปอยู่ในช่วงขาลง และการเเข็งค่าขึ้นอย่างมากของเงินยูโรจะเป็นปัจจัยลบต่อเศรษฐกิจ ทั้งนี้นักลงทุนจะรอฟังแถลงการณ์ของประธานธนาคารกลางยุโรปในคืนนี้เพื่อคาดคะเนถึงทิศทางของเงินยูโรต่อไป

สรุปการเคลื่อนไหวของอัตราผลตอบแทนในตลาดตราสารหนี้

Thai Gov. Bond
มูลค่าการซื้อขายในวันนี้อยู่ที่ 13,009.24 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากวันก่อนร้อยละ 30.76 ทั้งนี้อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรส่วนใหญ่ได้ลดลงไป โดยอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรระยะกลางและระยะยาวลดลงไปตั้งแต่ –1 ถึง –5 bps.

US Treasury Bond 10 Years
ราคาพันธบัตรสหรัฐฯในวันอังคารที่ 26 ต.ค. ปรับตัวลดลงไปเล็กน้อย ทั้งนี้การปรับตัวเพิ่มขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐฯได้ส่งผลให้มีการขายพันธบัตรออกมาเพื่อกลับเข้าลงทุนในตลาดหุ้น อย่างไรก็ตาม การที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวขึ้นไปอยู่เหนือ 55 ดอลลาร์ฯ/บาร์เรล และการประกาศตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของ Conference Board ที่ลดลงเกินคาดได้ส่งผลให้เกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจ ซึ่งอาจจะนำไปสู่การชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ และเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนให้ราคาพันธบัตรปรับตัวลดลงไปเล็กน้อย