รายงานภาวะตลาดหุ้นและการเงินประจำวันที่ 28 ตุลาคม 2547

ดัชนีตลาดหุ้นวันนี้

ตลาดหุ้นไทยในวันที่ 28 ตุลาคม ปิดตลาดลดลง 5.28 จุด หรือร้อยละ 0.84 ไปอยู่ที่ 621.57 จุด มูลค่าการซื้อขายหนาแน่นที่ 2.49 หมื่นล้านบาท ตลาดปรับตัวสวนทางกับตลาดหุ้นต่างประเทศส่วนใหญ่ในวันนี้ โดยปัจจัยลบที่สำคัญได้แก่ ความวิตกกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับสถานการณ์ทางภาคใต้ ซึ่งได้ส่งผลให้มีแรงขายหุ้นในกลุ่มต่างๆออกมา

– ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดตลาดปรับตัวสูงขึ้นอย่างมากในวันนี้ โดยได้รับปัจจัยบวกจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐฯ และจากการที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวลดลง โดยปิดที่ 13,113.15 จุด เพิ่มขึ้นไปถึง 274.44 จุด หรือร้อยละ 2.14

– ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้นไปอีก 161.17 จุด หรือร้อยละ 1.51 ไปปิดที่ 10,853.12 จุด ทั้งนี้ตลาดได้รับแรงบวกจากการที่ราคาน้ำมันได้ปรับตัวลดลงไปอยู่ต่ำกว่า 53 ดอลลาร์ฯ/บาร์เรล และการประกาศผลประกอบการที่ดีขึ้นของบริษัท ชาร์ป คอร์ป และโซนี่ คอร์ป ซึ่งช่วยหนุนให้ราคาหุ่นดังกล่าวเพิ่มขึ้นไปอย่างมาก

– ตลาดหุ้น Dow Jones ในวันพุธที่ 27 ตุลาคม ปิดตลาดเพิ่มขึ้นไปอยู่เหนือ 10,000 จุด โดยปิดที่ 10,002.03 จุด เพิ่มขึ้นอย่างมากถึง 113.55 จุดหรือร้อยละ 1.15 โดยได้รับปัจจัยบวกจากการเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯช่วงสุดสัปดาห์ที่เพิ่มขึ้นเกินคาด ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบลดลงไปอยู่ต่ำกว่า 53 ดอลลาร์ฯ/บาร์เรล

– เงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลงไปเมื่อเทียบกับค่าเงินเยน, บาท และยูโรในวันนี้ โดยอยู่ที่ 106.14 เยน/ดอลลาร์ฯ, 40.95 บาท/ดอลลาร์ และที่ 1.2723 ดอลลาร์/ยูโร ตามลำดับ

ภาวะตลาดหุ้น

Thailand’s SET
ตลาดหุ้นไทยยังคงปิดตลาดที่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 2 เดือน โดยปิดที่ 621.57 จุด ลดลง 5.28 จุด หรือร้อยละ 0.84 มูลค่าการซื้อขายหนาแน่นที่ 24,950.6 ล้านบาท ตลาดปรับตัวสวนทางกับตลาดหุ้นต่างประเทศส่วนใหญ่ในวันนี้ซึ่งปรับตัวขึ้นไปหลังจากที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกลดลง โดยปัจจัยสำคัญที่กดดันการซื้อขาย ได้แก่ ความวิตกกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับสถานการณ์ทางภาคใต้ซึ่งส่งผลให้มีแรงขายหุ้นในกลุ่มต่างๆ ยกเว้นกลุ่มขนส่งออกมาในวันนี้

Japan Nikkei-225
ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยปิดที่ 10,853.12 จุด เพิ่มขึ้นถึง 161.17 จุดหรือร้อยละ 1.51 โดยตลาดได้รับปัจจัยบวกจากการที่ราคาน้ำมันดิบในตลาด NYMEX ปรับตัวลดลงไปอยู่ต่ำกว่า 53 ดอลลาร์ฯ/บาร์เรล ซึ่งได้ช่วยผ่อนคลายความกังวลเกี่ยวกับการขยายตัวของเศรษฐกิจ ส่งผลให้มีการกลับเข้าซื้อคืนหุ้นต่างๆที่ราคาปรับตัวลดลงไปในช่วงที่ผ่านมา นอกจากนั้น ตลาดยังได้รับแรงบวกจากการปรับตัวขึ้นไปของราคาหุ้นชาร์ป คอร์ป และหุ้นโซนี่ คอร์ป หลังจากที่มีการรายงานผลประกอบการรายไตรมาสที่เพิ่มขึ้น

Hang Seng
ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดตลาดเพิ่มขึ้นไปอย่างมากเช่นกัน โดยเพิ่มไปอีก 274.44 จุด หรือร้อยละ 2.14 ไปอยู่ที่ 13,113.15 จุด โดยได้รับแรงหนุนจากการที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อวานนี้ ประกอบกับการที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวลดลง ส่งผลให้มีแรงซื้อกลับเข้ามาในหุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่มต่างๆ

US ‘s Dow Jones
ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อวันพุธที่ผ่านมาปิดตลาดเพิ่มขึ้นเป็นวันที่สองติดต่อกัน โดยปิดที่ 10,002.03 จุด เพิ่มขึ้นอย่างมากถึง 113.55 จุด หรือ ร้อยละ 1.15 ปริมาณการซื้อขายหนาแน่นที่ 1.7 พันล้านหุ้น โดยตลาดได้รับแรงบวกจากการที่ราคาน้ำมันในตลาด NYMEX ปรับตัวลดลงไปปิดที่ 52.46 ดอลลาร์/บาร์เรลหลังจากที่มีการประกาศตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาซึ่งเพิ่มขึ้นเกินคาด ส่งผลให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับการลดลงของผลกำไรภาคธุรกิจ ทำให้มีแรงซื้อหุ้นกลุ่มต่างๆเข้ามามากขึ้น โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มเวชภัณฑ์

US’s NASDAQ
ดัชนี NASDAQ ปิดที่1,969.99 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ เพิ่มขึ้นไป 41.2 จุด หรือ ร้อยละ 2.14 โดยได้รับปัจจัยบวกจากการที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวลดลงไป

สรุปการเคลื่อนไหวของค่าเงิน

Baht/USD
เงินบาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้นไปในวันนี้ โดยเป็นการปรับตัวไปตามทิศทางเดียวกันกับค่าเงินเยน และค่าเงินส่วนใหญ่ในภูมิภาค ซึ่งได้รับปัจจัยบวกจากการที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวลดลง และความวิตกกังวลเกี่ยวกับการเลือกตั้งในสหรัฐฯ ซึ่งได้ช่วยลดผลกระทบของปัจจัยลบในเรื่องสถานการณ์ความไม่สงบทางภาคใต้

Yen/USD
เงินดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนค่าลงไปอยู่ต่ำกว่า 106 เยน/ดอลลาร์ฯเป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือนในวันนี้ โดยเงินดอลลาร์ฯได้รับแรงกดดันจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการเลือกตั้งในสหรัฐฯ และการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจที่อ่อนแอหลายตัวในช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม เงินดอลลาร์ฯได้รับแรงหนุนในช่วงสั้นๆอยู่บ้าง หลังจากที่มีการประกาศตัวเลขผลผลิตทางอุตสาหกรรมเดือน ก.ย.ของญี่ปุ่นที่ลดลงไปร้อยละ 0.7 จากที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นไปร้อยละ 0.5 และการที่นักลงทุนเริ่มคาดการณ์ว่าธนาคารกลางญี่ปุ่นอาจจะเข้ามาแทรกแซงค่าเงินในไม่ช้า

USD/Euro
เงินดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินยูโร โดยเงินดอลลาร์ฯได้แข็งค่าขึ้นในช่วงสั้นๆหลังจากที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวลดลงในวันนี้ ซึ่งส่งผลให้มีแรงขายเงินยูโรเพื่อทำกำไรออกมาในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม การที่เงินดอลลาร์ฯยังคงได้รับแรงกดดันจากการความไม่มั่นใจในผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ และแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้อ่อนค่าลงไปในเวลาต่อมา

สรุปการเคลื่อนไหวของอัตราผลตอบแทนในตลาดตราสารหนี้

Thai Gov. Bond
มูลค่าการซื้อขายในวันนี้อยู่ที่ 6,537.9 ล้านบาท ลดจากวันก่อนร้อยละ 49.7 อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรระยะสั้นแทบไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อน ส่วนอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรระยะกลางและระยะยาวส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้นไปตั้งแต่ 1 ถึง 4 bps.

US Treasury Bond 10 Years
ราคาพันธบัตรสหรัฐฯในวันพุธที่ 27 ต.ค. ปรับตัวลดลงไป โดยตลาดพันธบัตรได้รับแรงกดดันจากการที่ราคาน้ำมันดิบในตลาด NYMEX ปรับตัวลดลง, การปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมากของตลาดหุ้นสหรัฐฯ และการประมูลตั๋วเงินคลังอายุ 2 ปีซึ่งเป็นไปอย่างซบเซา ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรปรับตัวเพิ่มขึ้น นอกจากนั้น นักลงทุนส่วนใหญ่จะรอดูตัวเลขจีดีพีสหรัฐฯไตรมาส 3 ที่จะประกาศในวันศุกร์ ซึ่งคาดกันว่าจะอยู่ที่ร้อยละ 4.2