จากสถิติอย่างเป็นทางการ พบว่า ในปี 2547 นี้ สภาวะเศรษฐกิจของฝรั่งเศสเติบโตขึ้นที่อัตราร้อยละ 2.5 สำหรับในภาคการผลิตกระดาษทั่วไปและกระดาษแข็ง(ทุกเกรด)ในช่วง 7 เดือนแรกนั้น มีการเติบโตร้อยละ 2.5 เทียบเท่า กับตัวเลขการเติบโตของจีดีพี (GDP) เป็นที่น่าสังเกตว่า ในช่วงสองปีมานี้ รายได้จากภาคอุตสาหกรรมการผลิตกระดาษ ของฝรั่งเศสใกล้เคียงกับค่าจีดีพี
ทั้งนี้ ในส่วนของการผลิตกระดาษและกระดาษแข็งมีการเติบโตที่เกาะกลุ่มกัน ในขณะที่ด้านสินค้าบรรจุภัณฑ์ นั้น ปริมาณการผลิตกระดาษสำหรับทำบรรจุภัณฑ์ลดลงร้อยละ 1.5 โดยบรรจุภัณฑ์ประเภทแผ่นกระดาษแข็ง (carton board) นั้นลดลงร้อยละ 9.9 (เนื่องจากมีโรงเลื่อยปิดไปหนึ่งแห่ง)ในขณะที่การผลิตกระดาษลูกฟูก (corrugated paper) เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.8
แม้การเติบโตของอุตสาหกรรมกระดาษในฝรั่งเศสโดยทั่วไปจะไม่โดดเด่นนัก แต่ก็อยู่ในระดับที่ไม่น่าวิตก อย่างไรก็ตาม สำหรับยอดการจำหน่ายกระดาษลูกฟูกในฝรั่งเศสนั้น ค่อนข้างน่าวิตก ดังจะเห็นได้ว่าในช่วงไตรมาสแรก ยอดการขายเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 0.5 เทียบกับในปี 2546 ที่ผ่านมา ส่วนในไตรมาสที่สอง การเติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.9 ซึ่งความน่าพอใจของปี 2546 นั้นอยู่ในระดับปานกลาง นอกจากนี้ ในปี 2547 นั้น มีจำนวนวันทำงานที่มากกว่า แต่อัตรา การเติบโตในปีนี้เกือบจะเป็นศูนย์ ต่างจากสถานการณ์ในประเทศอื่นในยุโรปตะวันตกที่มียอดการจำหน่ายกระดาษ ลูกฟูกที่เพิ่มขึ้นระหว่างร้อยละ 2– 4 อันเป็นผลมาจากสภาวะการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศในแถบนี้ในช่วงครึ่งปีแรก
ทั้งนี้ ได้มีการจัดทำข้อมูลสำรวจในหมู่ผู้ประกอบการด้านการแปรรูปกระดาษ (ผู้ผลิตกระดาษลูกฟูกและแผ่น กระดาษแข็ง) ของฝรั่งเศส พบว่ามีปัจจัยบางอย่างที่มีผลต่อการเติบโตของกลุ่มอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ในฝรั่งเศส อัน ได้แก่
การย้ายฐานการผลิตของลูกค้าเก่าของผู้ประกอบการแปรรูปกระดาษไปยังประเทศที่มีต้นทุนการผลิตที่ต่ำกว่า ดูเหมือนจะเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้ปริมาณลูกค้าหรือจำนวนออเดอร์ในประเทศฝรั่งเศสลดลง ปัญหาการย้าย ฐานการผลิตเกิดขึ้นมานานหลายปีแล้ว ปัจจุบัน ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ต่างได้รับผลกระทบจากปัญหาดังกล่าวไม่มาก ก็น้อย การย้ายฐานการผลิตมีผลกระทบต่อภาคการผลิตกระดาษลูกฟูกและแผ่นกระดาษแข็ง โดยเฉพาะบริษัทขนาดใหญ่ สำหรับบริษัทขนาดเล็กได้รับผลกระทบน้อยกว่าเนื่องจากอิงกับตลาดในภูมิภาคเป็นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะบริษัทที่ผลิต บรรจุภัณฑ์สำหรับอาหารที่ทำการตลาดเฉพาะกลุ่มนั้นไม่ประสบปัญหาลูกค้าย้ายฐานการผลิตเท่าใด ในขณะที่ผลิตภัณฑ์ ประเภทอาหารสดมีความต้องการใช้บรรจุภัณฑ์ภายในประเทศ แต่ผลิตภัณฑ์อาหารประเภทที่ผ่านกระบวนการถนอม อาหาร หรือช็อคโกแลต มีการย้ายฐานการผลิตไปยังตะวันออก
คาดว่าการเคลื่อนย้ายฐานการผลิตทั่วไปที่เกิดขึ้นในขณะนี้ มีผลกระทบกับตัวเลขผลประกอบการของผู้ผลิต กระดาษแปรรูปราวร้อยละ 2 – 5 ของผลประกอบการ ตลาดที่ได้รับผลกระทบอย่างชัดเจน เห็นจะได้แก่ ตลาดสินค้า อิเลคทรอนิคส์ รถยนต์ ผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ พลาสติก เฟอร์นิเจอร์ เป็นต้น
อย่างไรก็ดี ในส่วนของบรรจุภัณฑ์ประเภทกล่องบรรจุภัณฑ์ (folding boxes) ผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์สำหรับ ผลิตภัณฑ์หรู หรือสินค้า luxury นั้น บางส่วนมีความเห็นว่าไม่มีปัญหาเรื่องการย้ายฐานการผลิตเนื่องจากบรรจุภัณฑ์ ประเภทนี้ต้องใช้เทคโนโลยีการผลิตคุณภาพสูง อย่างไรก็ตาม ผู้ผลิตกล่องบรรจุภัณฑ์บางส่วนให้ข้อมูลว่า มีการย้ายฐาน การผลิตไปยังประเทศจีน เนื่องจาก ราคาต้นทุนการผลิตกระดาษกล่อง บรรจุภัณฑ์ในฝรั่งเศสโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 10 ยูโร ในขณะที่จีน ราคาค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 2 ยูโร จะเห็นได้ว่า การผลิตกล่อง kit บรรจุโทรศัพท์เซลลูลาร์ และดิสเพลย์ POS มีการย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศจีน
นอกจากการย้ายฐานการผลิตไปยังต่างประเทศที่ส่งผลต่อส่วนแบ่งการตลาดของฝรั่งเศสแล้ว ผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์ ยังได้รับผลกระทบจากกฎหมายที่กำหนดให้มีการลดการใช้บรรจุภัณฑ์ลง ซึ่งมีผลทำให้ลูกค้าพยายามลดปริมาณหรืองด การใช้บรรจุภัณฑ์บางส่วน
ทั้งนี้ ฝรั่งเศสยังมีคู่แข่งรายใหม่ๆ ที่มาร่วมแชร์ส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มมากขึ้น อาทิ สเปน อิตาลี และเบลเยี่ยม โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์กระดาษลูกฟูก
นอกจากนี้ จากสภาพการแข่งขันที่สูง บางครั้งก็ก่อให้เกิดการตัดราคากันระหว่างกลุ่มบริษัทผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์ ค่ายใหญ่ๆ ซึ่งหากมากเกินไปบริษัทนั้นๆ ก็ไม่สามารถอยู่ได้
อย่างไรก็ดี หากเราพิจารณาเศรษฐกิจของฝรั่งเศสในระดับมหภาค ซึ่งเน้นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ภาคอสังหา- ริมทรัพย์ การบริการ และการธนาคารแล้ว ตัวเลขในภาคการผลิตบรรจุภัณฑ์ ไม่ได้มีผลกระทบที่สำคัญกับการเติบโตของ เศรษฐกิจในภาครวม ปริมาณการบริโภคสินค้าฝรั่งเศสของผู้บริโภคยังคงเติบโตสูง (+23% ตัวเลขปลายเดือน มิถุนายน 2547) แม้ว่าจะมีการแข่งขันด้านส่วนแบ่งการตลาดจากผู้ผลิตต่างชาติในส่วนของผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ในบ้าน และเครื่องเรือน
วิธีการแก้ปัญหาง่ายๆ ที่บริษัทขนาดใหญ่ของฝรั่งเศสใช้ ตัวอย่างเช่น ใช้วิธีตั้งศูนย์การผลิตและหาเจาะลูกค้า ในประเทศแถบยุโรปตะวันออก สำหรับบริษัทรายย่อยนั้น มักจะใช้วิธีย้ายฐานการผลิตตามลูกค้า อาทิ บริษัททอมป์สัน ย้ายไปผลิตที่โปแลนด์ ทางบริษัท Ondulys หนึ่งในผู้ผลิตกล่องกระดาษบรรจุภัณฑ์ก็ไปตั้งโรงงานแปรรูปกระดาษที่ โปแลนด์ตาม
อนึ่ง สำหรับสินค้าบริการบางประเภทของฝรั่งเศสก็มีความได้เปรียบทางด้านเทคนิคการผลิต บริษัทที่ผลิตสินค้า มีชื่อ หรือสินค้าระดับหรู บางบริษัทนั้นมีกฎไม่ให้ใช้บรรจุภัณฑ์ที่ผลิตในเอเชีย เพื่อป้องกันปัญหาการปลอมแปลงสินค้า
เช่นเดียวกับการประกอบธุรกิจอีกหลายๆ สาขา มาตรฐานของผลิตภัณฑ์ที่เชื่อถือได้ คุณภาพ ความเชี่ยวชาญ ทางเทคนิค กระบวนความรู้ (โนว์-ฮาว) ความรวดเร็วในการผลิต ความยืดหยุ่น และการประยุกต์ใช้อย่างชาญฉลาดถือ เป็นปัจจัยภายในสำคัญที่จะช่วยให้ธุรกิจภาคอุตสาหกรรมกระดาษประสบความสำเร็จ ฝรั่งเศสเองมีบริษัทที่มีความ เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมด้านนี้เป็นจำนวนมาก และมีการรวมตัวกันในรูปของสหพันธ์ต่างๆ
** บทความนี้เรียบเรียงจาก PAP’ARGUS จุลสารด้านอุตสาหกรรมกระดาษของฝรั่งเศส ฉบับที่ 47 , 28 กันยายน 2547
บทความจาก งานสัมมนาระดับภูมิภาคด้านอุตสาหกรรมกระดาษ เรื่อง “How to improve both quality and paper capacity with new technology”
เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา สถานทูตฝรั่งเศสแห่งประเทศไทยร่วมกับสำนักงานพัฒนาธุรกิจ ระหว่างประเทศแห่งประเทศฝรั่งเศส (“UBIFRANCE”) และสมาคมผู้ผลิตเครื่องจักรในอุตสาหกรรมเยื่อและ กระดาษแห่งประเทศฝรั่งเศส (“SCIPAG-EMBALCO”) จัดงานสัมมนาระดับภูมิภาคด้านอุตสาหกรรม กระดาษขึ้นที่โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ โดยได้รับความร่วมมือจากกระทรวงอุตสาหกรรมและ สมาคมอุตสาหกรรมเยื่อและกระดาษไทยงานสัมมนาครั้งนี้ได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการด้าน อุตสาหกรรมกระดาษอย่างดียิ่ง มีผู้เข้าร่วมประมาณ …….. คน จากประเทศไทยและประเทศอื่นๆ อันได้แก่ ประเทศเกาหลีใต้ ฟิลิปปินส์ เวียดนาม อินโดนีเซีย และมาเลเซีย
การจัดงานครั้งนี้ ได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้เชี่ยวชาญในภาคธุรกิจอุตสาหกรรมเยื่อและกระดาษ ของฝรั่งเศส 12 บริษัท ประกอบด้วยบริษัทผู้ผลิตเครื่องจักรและบริษัทที่ปรึกษาทางธุรกิจ ที่มาถ่ายทอด ประสบการณ์ความรู้ด้านวิธีการทางเทคนิคและการประยุกต์ใช้เครื่องมืออุตสาหกรรมที่จะช่วยเพิ่ม ประสิทธิภาพทางการแข่งขันให้แก่ผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมเยื่อและกระดาษ
นอกจากนี้ ภายในงานยังได้จัดให้มีการประชุมพบปะกลุ่มย่อยเพิ่มเติมเพื่อเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วม สัมมนาได้มีโอกาสสนทนากับผู้ประกอบการฝรั่งเศสอย่างใกล้ชิด