เรด แฮท ผู้ให้บริการโซลูชั่นโอเพ่นซอร์สชั้นนำ สำหรับเอ็นเตอร์ไพร์ซ ประกาศผลประกอบการในไตรมาสที่ 4 และผลประกอบการสิ้นปีงบประมาณวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2548
รายได้ทั้งหมดในไตรมาส 4 ของปี 2548 เท่ากับ 2,300 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 56%ต่อปี และสำหรับสิ้นปีงบประมาณ 2548 รายได้ทั้งหมดเท่ากับ 7,860 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 58% เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2547
รายได้จากการสมัครสมาชิกของเอ็นเตอร์ไพร์ซ ในไตรมาส 4 เท่ากับ 1,816 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 92 % จากปีที่แล้ว สำหรับสิ้นปีงบประมาณ 2548 นั้น รายได้จากการสมัครสมาชิกของเอ็นเตอร์ไพร์ซสูงถึง 5,896 ล้านบาท เทียบเป็นอัตราการเติบโตร้อยละ 120 จากปีที่แล้ว
“เรามีความยินดีเป็นอย่างมาก ที่สามารถรักษาสถานภาพในตลาดลีนุกซ์ และสำหรับธุรกิจของเราเองไว้ได้อย่างมั่นคง “ชารลี ปีเตอร์ รองประธานบริหาร และผู้บริหารสูงสุดฝ่ายการเงิน ของเรด แฮท กล่าว “จากข้อมูลที่เปิดเผยสู่สาธารณะ เราเชื่อว่ารายได้จากการสมัครสมาชิกของเอ็นเตอร์ไพร์ของเรานั้น มีจำนวนสูงกว่า ผู้ให้บริการลีนุกซ์ทั้งสองราย ถึง 6 เท่า และในปีที่ผ่านมา เราได้ขยายความเป็นผู้นำตลาดไปทั่วโลก นักวิเคราะห์อุตสาหกรรมชั้นนำเชื่อว่าลีนุกซ์จะเป็นระบบปฏิบัติการที่เติบโตอย่างรวดเร็วที่สุดในระยะ 3 – 5 ปีข้างหน้า และเรายังคงเชื่อมั่นในศักยภาพทางการแข่งขันของเรา”
ชาร์ลี ปีเตอร์ กล่าวเสริมว่า “เรามีความพอใจเป็นอย่างยิ่งกับรายได้และตัวเลขผลประกอบการระหว่างไตรมาสของบริษัทฯ และสำหรับปีงบประมาณ 2549 เราเล็งเห็นโอกาสทางธุรกิจที่สดใส เนื่องจากศักยภาพของตลาด รวมถึงสถานภาพของเราที่อยู่เหนือการแข่งขัน ตลอดจนรูปแบบที่มาของรายได้ที่มีความชัดเจนยิ่งขึ้น”
ไฮไลท์จากไตรมาสที่ 4
– เป็นครั้งแรกในประวัติการณ์ที่ เรด แฮท สามารถขายผลิตภัณฑ์แก่ลูกค้าได้สูงถึงกว่า 10,000 ราย ภายในระยะเวลาเพียงไตรมาสเดียว โดยมียอดสมัครสมาชิกจากลูกค้ารายใหม่และลูกค้าที่ต่อสัญญาสูงถึง 175,000 ราย
– ระหว่างไตรมาส เรด แฮท ได้รับการจัดอันดับเป็นเบอร์หนึ่ง ในแง่ผู้ให้บริการเทคโนโลยีที่น่าเชื่อถือที่สุดและมีคุณค่าสูงสุด เหนือบรรดาผู้ให้บริการเทคโนโลยีทั้งหมด จากการทำสำรวจซีไอโอและผู้บริหารด้านไอทีจำนวนกว่า 1,000 ราย จัดทำโดย ซิฟ เดวิส
– ธุรกิจส่วนพันธมิตรช่องทางจัดจำหน่ายมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยช่องทางจำหน่ายแบบ indirect หรือทางอ้อมมีอัตราเติบโตของยอดสั่งซื้อในไตรมาสที่ 4 ของปีงบประมาณ 2548 สูงถึงร้อยละ 56 เพิ่มจากยอดสั่งซื้อร้อยละ 51 ของไตรมาสก่อนหน้านั้น และร้อยละ 43 ในไตรมาสแรกของปีงบประมาณเดียวกัน
– มีการลงทุนสำคัญในส่วนปฏิบัติการระหว่างประเทศ ซึ่งจากที่มีการลงบันทึกทางบัญชีไว้ พบว่าการดำเนินงานส่วนดังกล่าวมีการเติบโตสูงถึง 60% จากปีที่แล้ว
– จำนวนของแอพพลิเคชั่นและแพลทฟอร์มด้านซอฟท์แวร์และฮาร์ดแวร์ที่สนับสนุนเรด แฮท เอ็นเตอร์ไพร์ซลีนุกซ์ มีอัตราการขยายตัวเพิ่มสูงถึงกว่า 1,800 ราย เรียกได้ว่าเป็นการเพิ่มขึ้นกว่า 80% จากปีก่อนหน้านี้
เกี่ยวกับ เรด แฮท
เรด แฮท คือ ผู้ให้บริการโอเพ่นซอร์ส และลีนุกซ์ชั้นนำ สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ราเลย์ NC และมีสำนักงานสาขาอยู่ทั่วโลก เรด แฮท ช่วยเสริมศักยภาพให้แก่โซลูชั่น ลีนุกซ์ และ โอเพ่น ซอร์ส ในแง่ของเทคโนโลยีคุณภาพระดับสูง ในค่าใช้จ่ายที่ต่ำ เรด แฮท นำเสนอซอฟท์แวร์ระบบปฏิบัติการควบคู่ไปกับโซลูชั่นมิดด้านเดิลแวร์ แอพพลิเคชั่น และการบริหารจัดการ เรด แฮท ให้การสนับสนุน การฝึกอบรม และให้บริการที่ปรึกษาสำหรับลูกค้าทั่วโลก ตลอดจนพันธมิตรระดับสูง สำหรับกลยุทธ์ทางด้านโอเพ่น ซอร์สของเรด แฮทคือการนำเสนอแผนงานระยะยาวให้แก่ลูกค้าในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่เหมาะกับเทคโนโลยีโอเพ่น ซอร์ส โดยมุ่งเน้นในเรื่องของระบบรักษาความปลอดภัย และการบริหารจัดการที่ง่าย หากต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถเข้าไปศึกษาได้ที่เว็บไซด์ http://www.redhat.com
ประวัติผู้บริหาร
นายสตีฟ แมคไวร์เตอร์ รองประธานกรรมการ ภาคพื้นเอเชีย แปซิฟิก เรด แฮท อินคอร์ปอเรท
นายสตีฟร่วมงานกับบริษัท เรด แฮท ในเดือนมิถุนายน 2547 โดยดำรงตำแหน่งรองประธานกรรมการ ภาคพื้นเอเชีย แปซิฟิก และประจำอยู่ที่สิงคโปร์ นายสตีฟเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญ โดยดูแลในเรื่องของการขาย การตลาด ตลอดจนส่วนงานปฏิบัติการทั้งหมด นายสตีฟเป็นผู้ดูแลทีมขายท้งหมดครอบคลุมตั้งแต่ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เอเชียเหนือ อินเดีย ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์
นายสตีฟเป็นผู้ที่มีประสบการณ์กว้างขวางด้านเทคโนโลยี โดยเริ่มสายงานในอุตสาหกรรมไอทีตั้งแต่ปี 2528 ในตำแหน่งที่ปรึกษาทางเทคนิค และเคยร่วมงานกับบริษัท ไอบีเอ็ม ซอฟท์แวร์ เอเชีย แปซิฟิก ตั้งแต่ปี 2540 ในตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายขายด้านระบบประมวลผล โดยประจำอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ ต่อมาได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นผู้จัดการฝ่ายขาย ประจำภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก และในปี 2543 นายสตีฟ ได้ก้าวสู่บทบาทของผู้จัดการทั่วไป บริษัทไอบีเอ็ม ซอฟท์แวร์ ในประเทศออสเตรเลีย และเป็นผู้ดูแลธุรกิจมูลค่าสูงถึง 8,000 ล้านบาท
ในปี 2545 นายสตีฟได้ย้ายร่วมงานกับไอบีเอ็ม เอเชีย แปซิฟิก ในตำแหน่ง ผู้จัดการทั่วไป ของโลตัส ดีเวลล็อปเมนท์ โดยดูแลรับผิดชอบในการรวมโลตัสเข้าเป็นส่วนหนึ่งในธุรกิจซอฟท์แวร์ของไอบีเอ็มได้ ต่อมาได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการฝ่ายขายของบริษัทไอบีเอ็ม เอเชีย แปซิฟิก ในเดือนมิถุนายน ปี 2547 โดยดูแลรับผิดชอบธุรกิจในมูลค่าสูงถึงกว่า 40 พันล้านบาท
นายสตีฟ ได้รับการยอมรับและเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในเรื่องการให้การสนับสนุนแก่พันธมิตร และชุมชนผู้พัฒนา โดยในอีกไม่กี่ปีถัดมา โลตัสก็เริ่มขยายไปสู่การสนับสนุนโอเพ่นซอร์ส และลีนุกซ์ ซึ่งการที่นายสตีฟได้ร่วมงานกับ เรด แฮท ในเดือน มิถุนายน ปี 2547 นับเป็นการช่วยให้ นายสตีพ ได้ผสมผสานงานที่ชื่นชอบทั้งหมดไว้ในงานเดียวกัน นาย สตีฟเป็นที่รู้จักในอุตสาหกรรมซอฟท์แวร์ ในเรื่องของการนำระบบงานเป็นทีมมาใช้ในธุรกิจ รวมถึงความมุ่งมั่นที่มีให้แก่ลูกค้า ด้วยการนำเสนอทางเลือก การบริการ และการสนับสนุนที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า
นายสตีฟสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาศึกษาศาสตร์ วิชาเอกวิทยาศาสตร์ คอมพิวเตอร์ จากมหาวิทยาลัยซิดนีย์ และได้รับอนุปริญญาสาขาคณิตศาสตร์จากมหาวิทยาลัยนิวอิงแลนด์
