กรุงเทพ ฯ 7 มิถุนายน 2548 : ทรู พร้อมเปิดตัวบริการใหม่ ขยายการเรียนรู้สู่วงกว้างแบบ E-Learning ผ่าน Home Education Solution by True ล่าสุดร่วมกับบริษัทไอทีระดับแนวหน้า จับมือเปิดนวัตกรรมแห่งการเรียนรู้แบบ E-Learning จัดกิจกรรม IT TO GO ทัวร์มหาวิทยาลัย เปิดให้กลุ่มนักศึกษา สัมผัสการเรียนรู้ผ่านโลกไอทีที่เต็มรูปแบบ
นายไพบูลย์ ต. ศิริวานิช ผู้อำนวยการและผู้จัดการทั่วไป ด้านกลุ่มลูกค้าบุคคล บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ ทรู มุ่งมั่นที่จะสรรหาบริการด้านไอทีใหม่ๆ เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่อยู่เสมอ โดยเฉพาะการให้บริการ “ Home Solution ” ที่จะช่วยให้ทุกการดำเนินชีวิตที่บ้านได้รับความสะดวกสบายในทุกๆ ด้าน โดยมองความต้องการของผู้บริโภคภายใต้แนวคิดที่เรียกว่า Home Solution ไม่ว่าจะเป็นการเรียน การทำงาน การพักผ่อน หรือการแสวงหาข้อมูลความเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ซึ่งล่าสุด ทรู พร้อมเปิดให้บริการ Home Education Solution ซึ่งจะเพื่อความสะดวก และรวดเร็วในการเข้าถึงแหล่งข้อมูลความรู้ที่กว้างไกลได้อย่างง่ายๆ และยังเป็นการช่วยทำให้การเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ นอกห้องเรียน ได้สะดวกต่อทุกเพศวัยและอาชีพ เพื่อการเปิดโลกทัศน์ให้กว้างไกลผ่านเทคโนโลยีที่ทันสมัยของทรู ประกอบกับแนวโน้มและทิศทางการเรียนรู้ของสังคมยุคใหม่ที่ก้าวสู่การเรียนรู้แบบ E-Learning ทรู จึงพัฒนาเทคโนโลยีสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ และสนองตอบความต้องการของผู้บริโภคด้วยบริการนี้
ทั้งนี้ สำหรับกิจกรรมในช่วงแรกของการเปิดตัวบริการ Home Education Solution ทรู ร่วมกับ บริษัท สยามรวมน้ำใจ จำกัด และ พันธมิตรทางธุรกิจคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คชั้นนำ ได้จัดแคมเปญ IT TO GO ร่วมกับสถาบันการศึกษา และผู้จำหน่ายคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คระดับชั้นนำ เพื่อที่จะตระเวนเพื่อเผยแพร่บริการ Home Education Solution by True ที่จะช่วยขยายการเรียนรู้แบบ E Learning ให้ขยายไปสู่กลุ่มเยาวชนในสังคมมากยิ่งขึ้น โดยกลุ่มบริษัทคอมพิวเตอร์ชั้นนำต่างๆ อาทิ ฟูจิสึ, โตชิบา, ไอบีเอ็ม, ซัมซุง, เอ็นอีซี และเอซุส จะนำคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค ที่มีประสิทธิภาพสูง มานำเสนอข้อมูล ผ่านเทคโนโลยีการสื่อสารของทรู รวมทั้งจัดโปรโมชั่นพิเศษ สำหรับผู้สนใจสมัครใช้บริการ hi-speed internet จะได้รับฟรีค่าแรกเข้า ฟรีโมเด็ม ฟรี Umax Web Cam และฟรีการใช้งาน 2 เดือน
กิจกรรม IT to Go จะเป็นการโรดโชว์ตามมหาวิทยาลัยต่างๆ ดังนี้
สำหรับแคมเปญ IT TO GO นั้น ทรู จับมือกับพันธมิตร ได้แก่ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ, มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์, มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย, มหาวิทยาลัยกรุงเทพ, มหาวิทยาลัยเซนต์จอห์น และเทคโนโลยีมหานคร ที่จะมาแนะนำองค์ความรู้สำคัญๆ มากมาย ที่สามารถเรียนรู้เสริมเพิ่มเติมนอกเหนือจากการเรียนรู้ในห้องเรียน นอกจากนี้ ยังได้ร่วมมือกับ บริษัทผู้จำหน่ายคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คชั้นนำ ประกอบด้วย ฟูจิสึ, โตชิบา, ไอบีเอ็ม, ซัมซุง, ASUS และ NEC ซึ่งจัดเตรียมระบบและเทคโนโลยีต่างๆ เพื่อให้สอดคล้องและสามารถรองรับนวัตกรรมยุคใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ โครงการ IT TO GO จะตระเวนไปแนะนำระบบการเรียนรู้แบบ E Learning ระหว่างวันที่ 8 – 15 มิถุนายน 2548 นี้ ในสถาบันการศึกษาต่างๆ กล่าวคือ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ วันที่ 8-10 มิ.ย. , มหาวิทยาลัยกรุงเทพ วันที่ 15-17 มิ.ย. , มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย วันที่ 22-24 มิ.ย., มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร วันที่ 29 มิ.ย. – 1 ก.ค. , มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ วันที่ 6-8 ก.ค. และมหาวิทยาลัยเซนต์จอห์น วันที่ 13-15 ก.ค. 48 โดยมี บริษัท สยามรวมน้ำใจ จำกัด เป็นผู้รับผิดชอบการดำเนินงานครั้งนี้
ทั้งนี้ สาระสำคัญของกำลังสำคัญในการจัดแคมเปญ IT TO GO ทรู ได้รับความร่วมมือด้านจัดกิจกรรมโรดโชว์ ในมหาวิทยาลัย ทั้ง 6 แห่ง จาก บริษัท สยามรวมน้ำใจ จำกัด โดยสาระสำคัญที่จะอยู่ในแคมเปญ IT TO GO นั้น จะประกอบด้วยครั้งนี้จะแสดงให้เห็นถึง ระบบการการเรียนรู้ในรูปแบบ E-Learning ผ่านทางโน้ตบุ๊ค และซึ่งมีเทคโนโลยีการสื่อสารและอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ที่เป็นสื่อกลางในการเชื่อมโยงให้เกิดโลกแห่งการเรียนรู้นอกห้องเรียนที่สะดวกสบาย และสามารถสื่อสารความรู้ได้ในทุกหนทุกแห่งนั่นเอง และโดยภายหลังจากการเปิดตัวแคมเปญ IT TO GO แล้ว ทรู ยังคงมีแผนอย่างต่อเนื่อง อาทิ การที่จะจัดแคมเปญเรียนรู้ภาษาอังกฤษ หรือ English anytime และจัดให้มีกิจกรรมเพื่อการสอนทำอาหาร เป็นต้นเพิ่มขึ้น เพื่อจะช่วยตอบสนองความต้องการเรียนรู้ในด้านเชิงวิชาชีพให้กับผู้คนในสังคม ให้และสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ต่อชีวิตประจำวันและการประกอบอาชีพของตนเอง นายไพบูลย์ กล่าวเพิ่มเติม
“ทรู มั่นใจว่า Home Education จะเป็นอีกโซลูชั่นหนึ่ง ที่สามารถให้บริการและตอบสนองไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ได้อย่างชัดเจน ทั้งนี้ ทรู ยังมีโครงการที่จะสรรหานวัตกรรมและ Solution ใหม่ๆ มาให้บริการแก่ลูกค้า และผู้คนในสังคม เพื่อให้ทุกชีวิตสอดรับและก้าวทันต่อเทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างรวดเร็วในอนาคต ” นายไพบูลย์กล่าวสรุปในที่สุด