30 มิถุนายน 2548 – ดีแทครายงานจำนวนผู้ใช้บริการ ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2548 อยู่ที่ 8,179,760 ราย จำนวนผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นสุทธิ 111,848 ราย แบ่งเป็นลูกค้าระบบจดทะเบียนและระบบเติมเงิน จำนวน 21,096 และ 90,752 ราย ตามลำดับ
จำนวนผู้ใช้บริการในระบบจดทะเบียนยังคงเติบโตในอัตราที่สูงอย่างต่อเนื่อง สาเหตุหลักเป็นเพราะแพ็คเก็จ ZAD ได้รับการตอบรับจากกลุ่มลูกค้าที่มีปริมาณการใช้งานค่อนข้างมาก รวมทั้งกลุ่มลูกค้าวัยรุ่น
ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2548 จำนวนผู้ใช้บริการในระบบจดทะเบียนเติบโตประมาณ 11% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
สำหรับลูกค้าในระบบเติมเงิน ตั้งแต่ต้นเดือน พฤษภาคม 2548 ที่ผ่านมา ผู้ให้บริการรายอื่น ๆ ได้ปรับลดอัตราค่าโทรในนาทีแรก (อัตราค่าโทร 1 บาท และ 2 บาทต่อนาทีสำหรับนาทีแรกในกรณีที่โทรในเครือข่าย และนอกเครือข่ายตามลำดับ หลังจากนั้นคิดค่าโทรในอัตรา 0.25 บาทต่อนาที) บริษัทได้ตัดสินใจใช้กลยุทธ์ปรับราคาให้เท่ากับคู่แข่ง โดยนำเสนอรายการส่งเสริมการขายดังกล่าวให้เป็นทางเลือกกับลูกค้าเช่นกัน เป็นการตอกย้ำในจุดยืนเรื่องความคุ้มค่าของเงิน และเป็นการป้องกันการไหลออกของลูกค้าที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
ยอดขายในระบบเติมเงินในเดือนพฤษภาคมได้ชะลอตัวลงจากเดือนก่อน สาเหตุหลักเนื่องจากผู้ให้บริการรายอื่นได้ออกรายการส่งเสริมการขายที่รุนแรงในตลาด อย่างไรก็ตาม อัตราการไหลออกของลูกค้าในระบบเติมเงินได้ปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อน จำนวนฐานลูกค้ายังคงเติบโตอยู่ที่ประมาณ 13% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
ในช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมา ฐานลูกค้าในตลาดมีอัตราการเติบโตขึ้นมาก สาเหตุหลักมาจากรายการส่งเสริมการขายด้านราคาที่รุนแรง สำหรับแนวโน้มใน 2-3 เดือนข้างหน้าคาดว่าตลาดอาจมีการเติบโตในอัตราที่ชะลอตัวลง มีการไหลออกของลูกค้าเพิ่มขึ้นอีกครั้ง เนื่องจากลูกค้าที่มีซิมการ์ดอยู่แล้ว 2 หรือ 3 เลขหมาย อาจจะยกเลิกการใช้บริการภายหลังรายการส่งเสริมการขายได้หมดลง
สำหรับการขยายสถานีฐาน ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2548 ดีแทคมีสถานีเครือข่ายเพิ่มขึ้น 74 สถานี รวมเป็นจำนวนทั้งสิ้น 5,519 สถานี ความสามารถในการรองรับของชุมสาย (Switching Capacity) 9,200,000 เลขหมาย.