Huawei เตรียมเข็นมือถือ 5G ออกสู่ตลาดในช่วงสิ้นปีนี้ ใช้ชิปผลิตในจีนเล็กกว่า 14 นาโนเมตร

ภาพจาก Shutterstock
หัวเว่ย ผู้ผลิตอุปกรณ์โทรคมนาคม รวมถึงผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือ เตรียมที่จะผลิตโทรศัพท์มือถือรุ่น 5G อีกครั้ง โดยคาดว่าจะมีการวางจำหน่ายในจีนช่วงปลายปีนี้ แต่ก็บริษัทก็พบกับอุปสรรคในการผลิตหลายเรื่องเช่นกันซึ่งคาดว่าจำนวนที่ผลิตออกมาได้อาจไม่ได้สูงมากนัก

สำนักข่าว Reuters รายงานข่าวอ้างอิงจากแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องว่า หัวเว่ย (Huawei) ผู้ผลิตอุปกรณ์โทรคมนาคมยักษ์ใหญ่จากประเทศจีน ได้เตรียมที่จะกลับเข้ามาในตลาดโทรศัพท์มือถืออีกครั้ง โดยคาดว่าจะมีการออกโทรศัพท์มือถือที่ใช้ชิป 5G ผลิตในประเทศจีนภายในช่วงสิ้นปี 2023 นี้

บริษัทวิจัยที่เป็นแหล่งข่าวให้กับ Reuters หลายแห่งได้กล่าวว่า Huawei ได้ขอให้ SMIC บริษัทผลิตชิปรายใหญ่ของจีนผลิตชิปที่ใช้ในโทรศัพท์มือถือของบริษัทให้ต่ำกว่า 14 นาโนเมตรให้ได้

อย่างไรก็ดีในการออกโทรศัพท์มือถือที่ใช้ชิป 5G นั้น Huawei พบอุปสรรคไม่น้อยเนื่องจาก SMIC มีผลลัพธ์ในการผลิตชิปที่ใช้งานได้จริงต่ำกว่า 50% ทำให้คาดว่าโทรศัพท์มือถือรุ่นดังกล่าวจะวางสู่ตลาดได้ในช่วงระหว่าง 2-10 ล้านเครื่องเท่านั้น

ในช่วงปี 2022 ที่ผ่านมา นักวิเคราะห์เชื่อว่า SMIC สามารถผลิตชิปขนาด 7 นาโนเมตรได้ โดยการปรับแต่งเครื่องผลิตชิปของ ASML ซึ่งเป็นเครื่องรุ่นเก่าที่สหรัฐอเมริกาและเนเธอร์แลนด์ยังไม่ได้แบนการส่งออก และกำลังจะมีการแบนเกิดขึ้นในช่วงหลังจากนี้ ซึ่งจีนได้ขอร้องให้เนเธอร์แลนด์ไม่แบนการส่งออกเครื่องผลิตชิปดังกล่าว

แหล่งข่าวของ Reuters ยังได้กล่าวเสริมว่าบริษัทยังเตรียมออกโทรศัพท์รุ่นเรือธงในรุ่น P ได้ในช่วงราวๆ ต้นปี 2024 อีกด้วย ซึ่งโทรศัพท์ในรุ่น P นั้นถือว่าเป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากสเปกของโทรศัพท์ถือว่ามีคุณภาพสูงในราคาที่ลูกค้าสามารถซื้อได้สะดวกใจกว่า iPhone

ในช่วงที่ผ่านมา Huawei ได้โดนมาตรการคว่ำบาตรจากสหรัฐอเมริกา ทำให้ยอดขายโทรศัพท์มือถือหรือแม้แต่อุปกรณ์โทรคมนาคมนั้นส่งผลต่อรายได้ที่ลดลง ทำให้บริษัทต้องหามาตรการใหม่ๆ เพื่อความอยู่รอดทางธุรกิจ ขณะเดียวกันบริษัทก็ได้พยายามหันมาใช้อุปกรณ์ที่ผลิตภายในประเทศจีนเพิ่มขึ้นด้วย

โดยสื่อธุรกิจของรัฐบาลจีนอย่าง China Securities Journal เคยคาดการณ์ว่า Huawei จะขายโทรศัพท์มือถือในปีนี้ได้ราวๆ 40 ล้านเครื่องในช่วงเดือนที่ผ่านมา ปรับเพิ่มขึ้นจากเดิมที่ 30 ล้านเครื่อง ซึ่งจะส่งผลทำให้รายได้ของยักษ์ใหญ่จากจีนรายนี้เพิ่มขึ้นไม่น้อย