อีซี่ บาย เผยกลยุทธ์ปรับระบบไอทีรับเกณฑ์ใหม่ ธปท. ใน 10 วัน

กรุงเทพฯ (26 กรกฎาคม พ.ศ. 2548) – บริษัท อีซี่ บาย จำกัด (มหาชน) ประกาศความสำเร็จในการปรับระบบเพื่อขานรับกฎเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทยได้ภายใน 10 วัน ก่อนที่จะมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา เผยทุ่ม 300 ล้านบาท นำไอบีเอ็ม ออนดีมานด์ เสริมศักยภาพงานด้านไอที เพิ่มประสิทธิภาพด้านการบริการลูกค้า เสถียรภาพในการจัดเก็บข้อมูล และความรวดเร็วในการทำงานร่วมกันระหว่างเครือข่ายต่างสำนักงาน

นายคัทซูฮิโกะ มาโดโนะ ซีอีโอ บริษัท อีซี่ บาย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าในฐานะที่ อีซี่ บาย เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการธุรกิจสินเชื่อรายย่อยชั้นนำในประเทศไทย มีนโยบายในการลงทุนทางด้านไอทีที่ล้ำหน้ากว่าผู้ประกอบการอื่นๆ ในอุตสาหกรรมทางการเงิน อีซี่ บาย เป็นองค์กรดิจิตอล (Digital Firm) ชั้นนำที่มีการวางรากฐานการบริหารจัดการโครงสร้างด้านไอทีเป็นอย่างดีโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างเต็มรูปแบบไม่เพียงแต่เพื่อการปฏิบัติงานรายวันซึ่งต้องมีการเชื่อมโยงข้อมูลจำนวนมหาศาลทั่วประเทศแบบเรียลไทม์ 24 ชั่วโมง 7 วัน ต่อสัปดาห์ เท่านั้นแต่ยังใช้เพื่อการตัดสินใจในการบริหารธุรกิจอีกด้วย

“เกือบทศวรรษที่ อีซี่ บาย ได้ดำเนินธุรกิจในประเทศไทย เราได้คิดค้น และมอบบริการทางการเงินรูปแบบใหม่ๆ เพื่อความพึงพอใจสูงสุดแก่ลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ อาทิ “อนุมัติปั๊บ รับเงินปุ๊บ” ซึ่งเป็นบริการสินเชื่อเงินสดที่ อีซี่ บาย ได้มอบความสะดวกสบายโดยการจัดเตรียมเงินสดให้ทันทีที่สาขา โดยไม่จำเป็นต้องรอเงินโอนผ่านบัญชีการสัมภาษณ์ลูกค้าข้ามสาขาแบบออนไลน์มาที่สำนักงานใหญ่ เพื่อการอนุมัติสินเชื่อที่สะดวกรวดเร็วขึ้น การคิดค้นโปรแกรมจ่ายชำระค่าสินเชื่อเพียงขั้นต่ำ เป็นต้น นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท อีซี่ บาย ได้ลงทุนด้านไอทีไปแล้วถึง 1,500 ล้านบาท โดยในปีนี้ตั้งเป้าที่จะลงทุนเพิ่มเติมอีกประมาณ 300 ล้านบาท ในการปรับปรุงระบบ เพื่อรองรับมาตรฐานสากลลดความเสี่ยง และรับประกันความถูกต้องผลลัพธ์ที่ผ่านการประมวลผลให้มีประสิทธิภาพ มากที่สุดอยู่เสมอ” นายมาโดโนะกล่าว

นายมาโดโนะ ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า สิ่งที่ อีซี่ บาย ได้รับกลับมาคือ 1) ความต่อเนื่องเชื่อถือได้ในการดำเนินธุรกิจสำหรับบริษัท 2) การลดต้นทุนและค่าใช้จ่ายติดต่อสื่อสารผ่านเครือข่ายได้แก่สาขา 56 แห่ง และจุดให้บริการ

มากกว่า 5,000 ร้านค้าทั่วประเทศ และ 3) การเพิ่มประสิทธิภาพก่อให้เกิดบริการรวดเร็วทันใจสะดวกสำหรับลูกค้าซึ่งเป็นหัวใจในธุรกิจสินเชื่อรายย่อยทั่วโลก ไม่เพียงเท่านั้น ไอทียังสนับสนุนธุรกรรมรายวันที่เกิดขึ้นประมาณ 1 ล้านรายการ เพื่อให้บริการต่อฐานลูกค้าในปัจจุบันกว่า 1.2 ล้านคน ยังไม่รวมถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่สนใจในบริการอีกมหาศาล ดังนั้นบริษัทฯ จึงมั่นใจในความร่วมมือกับพันธมิตรคือ ไอบีเอ็ม และ เมโทรซิสเต็มส์

นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า “ไอบีเอ็มเป็นผู้นำในการเสริมศักยภาพองค์กรธุรกิจแบบรอบด้านเพื่อก้าวสู่การเป็นออนดีมานด์บิสิเนสโดยได้รับความไว้วางใจจากสถาบันการเงินชั้นนำ อีซี่ บายเป็นอีกหนึ่งสถาบันการเงินที่ไอบีเอ็มและบริษัทคู่ค้าสำคัญคือ เมโทรซิสเต็มส์ฯ ได้ร่วมกันนำเสนอโซลูชั่นครบวงจรเพื่อมุ่งเสริมสร้างศักยภาพโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยีสารสนเทศให้อยู่ในสภาพแวดล้อมแบบออนดีมานด์”

นางศุภจี ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ความสามารถของโซลูชั่น ออนดีมานด์ จากไอบีเอ็ม ช่วยให้ อีซี่ บาย สามารถดำเนินธุรกิจแบบออนดีมานด์คือ สามารถตอบสนองความต้องการและความเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจอย่างทันท่วงที (Responsive) ตามสโลแกน “อนุมัติเงินปั๊บ รับเงินปุ๊บ” และช่วยอำนวยความสะดวกให้กับอีซี่บายในการบริหารจัดการ การบำรุงรักษา และการปรับขยายระบบได้ตามความต้องการ (Focused) ระบบไอทีใหม่นี้มีศักยภาพ ในการขยายตัวรองรับงานที่เพิ่มขึ้นโดยอัตโนมัติ (Variable) จึงช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย โดยช่วยให้องค์กรจัดซื้อ หน่วยสำรองข้อมูลเท่าที่จำเป็นต้องใช้ และไม่ต้องเผื่อไว้เกินความจำเป็น ระบบดังกล่าวยังมีเสถียรภาพสูง เพราะใช้เทคโนโลยีและฟีเจอร์แบบ self-healing โดยจัดสร้างระบบสำรองข้อมูลแบบ real-time ไว้ดูแลข้อมูล ในกรณีที่เกิดเหตุที่ไม่คาดคิดขึ้น นั่นหมายถึงอีซีบายจะสามารถดำเนินธุรกิจต่อเนื่องได้อย่างมั่นใจ (Resilient) โดยไม่ต้องกังวลว่าระบบจะสะดุดหยุดนิ่ง ทำให้การดำเนินงานต้องหยุดชะงัก”

นายธวิช จารุวจนะ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เมโทรซิสเต็มส์คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เผยว่า “โซลูชั่นที่เมโทรซิสเต็มส์นำเสนอให้นั้นมีจุดเด่นทางเทคโนโลยีแบบเวอร์ชวล (Virtual) ในเรื่อง Logical Partitioning เพื่อให้ลูกค้าสามารถจัดสรรทรัพยากรไอทีได้เสมือนมีคอมพิวเตอร์หลายๆ เครื่องอยู่ในเครื่องเดียวกัน รวมทั้งสามารถสำรองข้อมูลฉุกเฉินในกรณีเกิดวิกฤตการณ์อีกด้วย นอกจากนี้ ลูกค้าสามารถปรับเปลี่ยนหรือโยกย้ายทรัพยากรไอทีของเครื่องต่างๆ ให้เหมาะสมกับความต้องการของยูสเซอร์ หรือปริมาณงานที่เกิดขึ้นได้ตลอดเวลาโดยไม่ต้องหยุดการทำงานของระบบ”

“สำหรับครึ่งหลังของปีนี้ การเพิ่มประสิทธิภาพด้านไอทีคือหนึ่งในกลยุทธ์ในการสร้างความแตกต่างของ อีซี่ บาย ให้โดดเด่นกว่าคู่แข่ง และมีบทบาทสำคัญในการขยายโอกาสทางธุรกิจอีกด้วย ไอทีไม่ได้ช่วยเราเฉพาะในด้านการดำเนินงานรายวัน แต่ยังสร้างฐานข้อมูลที่ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งสำหรับการบริหารพอร์ตสินเชื่อ ที่มีมูลค่ากว่า 14,000 ล้านบาท พร้อมรองรับการขยายสาขาอย่างต่อเนื่องให้ถึงเป้าหมาย 80 สาขา จากความทุ่มเทของเราทั้งในด้านเทคโนโลยีและการให้บริการ บริษัทฯ เชื่อมั่นว่าจะสามารถเพิ่มอัตราการเติบโตทางธุรกิจในปีนี้ได้ 10-15%” นายมาโดโนะ กล่าวปิดท้าย

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ บริษัท อีซี่ บาย จำกัด (มหาชน)
บริษัท อีซี่ บาย (มหาชน) เป็นผู้ให้บริการธุรกิจสินเชื่อรายย่อยชั้นนำในประเทศไทย หรือที่รู้จักกันในนาม “EASY BUY”
จดทะเบียนก่อตั้งเป็นบริษัทจำกัด เมื่อวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2539 ภายใต้ชื่อ บริษัท สยาม เอ แอนด์ ซี จำกัด โดยการร่วมลงทุนระหว่างบริษัทในประเทศญี่ปุ่นคือ บริษัท เอคอม จำกัด ซึ่งเป็นผู้ให้บริการทางการเงินชั้นนำในประเทศญี่ปุ่น กับบริษัทและกลุ่มบุคคล ในประเทศ ด้วยทุนจดทะเบียนเริ่มต้นซึ่งเรียกชำระเต็มมูลค่าแล้วจำนวน 120 ล้านบาท ปัจจุบันมีทุนจดทะเบียนชำระเต็มรวม 200 ล้านบาท บริษัทฯ เป็นผู้ประกอบการให้บริการสินเชื่อรายย่อย ด้วยการให้บริการสินเชื่อผ่อนชำระ (Installment Sales Business) สินเชื่อ เงินสด (Personal Loan) สินเชื่อเพื่อการบริการ (Purpose Loan) และสินเชื่อรถจักรยานยนต์ (Motorcycle Hire Purchase) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถเยี่ยมชมได้ที่เว็บไซต์ www.easybuy.co.th

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด
บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ.2495 โดยในปี พ.ศ. 2491 ไอบีเอ็ม คอร์ปอเรชั่น ได้เริ่มเข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศไทยเป็นครั้งแรกด้วยการให้บริการด้านเครื่องประมวลผลข้อมูล และถ่ายทอดความรู้ในการสำรวจสำมะโนประชากร และการเกษตร และต่อมาได้ก่อตั้งเป็นบริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด ขึ้นเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม พ.ศ.2495 ปัจจุบันนี้ ไอบีเอ็ม นำเสนอโซลูชัน ผลิตภัณฑ์ และการให้บริการเทคโนโลยีสารสนเทศครบวงจร ครอบคลุมฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ ระบบเครือข่าย และธุรกิจบริการ เพื่อช่วยให้องค์กรและธุรกิจต่างๆ เช่น ภาครัฐบาล องค์กรขนาดใหญ่ วิสาหกิจขนาดกลาง และเล็ก รวมถึงผู้ใช้งานทั่วไป เข้าสู่ธุรกิจออนดีมานด์ยุคใหม่

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ บริษัท เมโทรซิสเต็มส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด
บริษัท เมโทรซิสเต็มส์คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ก่อตั้งเมื่อวันที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2529 ในฐานะคู่ค้ารายแรกของไอบีเอ็มในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นับแต่นั้นมา เมโทรซิสเต็มส์ฯ ได้ขยายขอบข่ายการดำเนินธุรกิจสู่การนำเสนอโซลูชั่นและบริการ ด้านไอทีแบบครบวงจร ครอบคลุมผลิตภัณฑ์ไอทีชั้นนำของโลก อาทิ ไอบีเอ็ม, ฮิวเลตต์-แพคการ์ด, แคนนอน, ไมโครซอฟท์, โลตัส,ออราเคิล และอีกมากมาย จากบันทึกความสำเร็จขององค์กรที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง อาทิ การจดทะเบียนเป็นบริษัทมหาชน การจัดตั้งสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ “เมโทรแคมปัส” เมโทรซิสเต็มส์ฯ ยังคงก้าวไปข้างหน้าด้วยการลงทุนในโครงการสำคัญ ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ รวมถึงศูนย์สาธิตอีกหลายแห่งซึ่งจัดตั้งขึ้นภายใต้แนวคิดของการทดสอบเทคโนโลยีหรือโซลูชั่นใหม่ ๆ ก่อนตัดสินใจซื้อเพื่อการแนะนำที่ถูกต้องและแสดงถึงความจริงใจต่อลูกค้า