Rabbit Care รุกธุรกิจเปรียบเทียบสินเชื่อ มองรายได้รวมโต 50% แม้ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจสูง

แรบบิท แคร์ (Rabbit Care) มองตลาดสินเชื่อของไทยยังเติบโตได้สูง แม้ว่าจะมีความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ซึ่งกระทบต่อการอนุมัติสินเชื่อก็ตาม ล่าสุดบริษัทรุกธุรกิจเปรียบเทียบสินเชื่อ ขณะเดียวกันก็คาดว่ารายได้บริษัทในปี 2023 นี้จะโตมากถึง 50%

ไมเคิล มันเฟรด สไตลเบิล ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แรบบิท แคร์ จำกัด เปิดเผยถึงตลาดประกันภัยนั้นมียอดเติบโตแบบทบต้นตั้งแต่ปี 2019-2021 เฉลี่ยที่ 3.8% ขณะที่ปี 2022 ที่ผ่านมานั้นเติบโต 4.3%

ขณะที่ช่องทางจำหน่ายกรมธรรม์นั้นมาจาก Broker ประกันภัยสัดส่วนมากถึง 70% แล้ว จากเดิมในปี 2018 ที่มีสัดส่วนเพียงแค่ 59% เท่านั้น โดยภาพรวมระยะยาว ไมเคิลมองว่าจะมีการควบรวมกิจการของ Broker เข้าด้วยกัน เนื่องจากต้นทุนในการทำธุรกิจที่มากขึ้น

ในปี 2022 ผู้บริหารสูงสุดของ Rabbit Care ได้กล่าวว่า ผลประกอบการในปี พ.ศ. 2565 ที่ผ่านมา แรบบิท แคร์บรรลุเป้าหมายเบี้ยประกันกว่า 3,000 ล้านบาท ขณะที่รายได้คอมมิชชั่นจากผลิตภัณฑ์ทางการเงินเติบโตขึ้น 144% ทะลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ หลังจากการเปิดตัว CareOS ซึ่งเป็นการพัฒนาเครื่องมือเปรียบเทียบ ผลิตภัณฑ์บัตรเครดิต เมื่อปีที่ผ่านมา

สำหรับกลยุทธ์ของ Rabbit Care ในปีนี้ ไมเคิล ได้กล่าวถึง ตลาดสินเชื่อในประเทศไทยมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นสูงขึ้น แม้ว่าความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจจะส่งผลกระทบต่อการอนุมัติสินเชื่อ ซึ่งในช่วงที่ผ่านมามีความเข้มงวดมากยิ่งขึ้น ส่งผลทำให้ในปีที่ผ่านมายอดสินเชื่อเติบโตแค่ 3% เท่านั้น ลดลงจากปี 2021 ที่เติบโตถึง 4.6%

ขณะเดียวกันเขายังชี้ว่าความต้องการของบริโภคต้องการจะหาสินเชื่อที่เหมาะสมกับตัวเอง จึงทำให้บริษัทมองเห็นช่องทางดังกล่าว

ปัจจัยดังกล่าว ทำให้ในปีนี้ทาง Rabbit Care ได้ขยายบริการสู่ตลาดสินเชื่อส่วนบุคคล โดยมีการเปรียบเทียบสินเชื่อระหว่างสถาบันการเงินต่างๆ นอกจากนี้ยังรวมถึงการจับมือกับพาร์ตเนอร์รายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นทั้ง KTC หรือแม้แต่ KBJ Capital ซึ่งเป็นกิจการร่วมทุนระหว่าง Jaymart และ KB Kookmin Card จากประเทศเกาหลีใต้ เพื่อที่จะเจาะตลาดสินเชื่อส่วนบุคคลมากขึ้น

ไมเคิลยังกล่าวว่าคนไทย 15 ถึง 20 ล้านคนยังไม่สามารถเข้าถึงบริการทางการเงินได้ ซึ่งเป็นโอกาสของบริษัท

นฝั่งของประกันภัยนั้น บริษัทจับมือกับพาร์ตเนอร์เตรียมที่จะออกประกันภัยรถยนต์แบบรายครั้ง (Pay Per Use) ซึ่งเหมาะกับผู้ที่ไม่ได้ใช้รถยนต์บ่อยๆ แต่ต้องการประกันภัยที่ครอบคลุม

ปัจจุบัน Rabbit Care มีผลิตภัณฑ์ทางการเงิน เช่น ประกัน ฯลฯ รวมถึงผลิตภัณฑ์สินเชื่อ 16 ผลิตภัณฑ์ โดยในกลุ่มผลิตภัณฑ์สินเชื่อส่วนบุคคลและสินเชื่อเพื่อธุรกิจรายย่อย จาก 10 พาร์ตเนอร์ชั้นนำ ทั้งที่เป็นสถาบันการเงิน (Bank) และผู้ประกอบธุรกิจที่เป็นสถาบันการเงินที่มิใช่ธนาคาร (Non-bank)

เป้าหมายสำหรับปีนี้นั้น Rabbit Care มีการตั้งเป้าเบี้ยประกันรวมของทุกผลิตภัณฑ์ไว้ที่ 4,500 ล้านบาท ซึ่งจะส่งผลให้รายได้โดยรวมเติบโตจากปี 2022 มากถึง 50% ขณะที่ฝั่งของสินเชื่อคาดว่าจะปล่อยสินเชื่อ 1,500 ล้านบาทผ่านแพลตฟอร์มของบริษัท