กรุงเทพฯ – 10 สิงหาคม 2005 – บริษัท เทรนด์ ไมโคร อิงค์ ผู้นำด้านซอฟต์แวร์และการบริการด้านการป้องกันไวรัสบนเครือข่าย และการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสสองของปี 2548
เทรนด์ ไมโคร มียอดขายสุทธิอยู่ที่ระดับ 17.19 พันล้านเยน (หรือ 159.57 ล้านดอลลาร์) มีรายได้จากการดำเนินงาน 5.47 พันล้านเยน (หรือ 50.78 ดอลลาร์) และรายได้สุทธิ 3.93 พันล้านเยน (หรือ 36.52 ดอลลาร์) ตัวเลขดังกล่าวแสดงให้เห็นยอดขายสุทธิเพิ่มขึ้น 16% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน แต่รายได้จากการดำเนินงานลดลง 13% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้านี้ เนื่องจากเพิ่มทุนสนับสนุนธุรกิจในญี่ปุ่นเมื่อเดือนเมษายน
การเติบโตทั่วโลกของบริษัทฯ ยังเป็นไปอย่างสม่ำเสมอ ทั้งในสหรัฐ และภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ซึ่งมีรายได้เพิ่มขึ้นปีต่อปีถึง 29% ขณะที่ยอดขายในยุโรป, ตะวันออกกลาง และแอฟริกา เพิ่มขึ้น 19% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกัน สาเหตุก็เพราะบริษัทมียอดขายที่เติบโตอย่างมากในผลิตภัณฑ์ความปลอดภัยเครือข่าย ตัวอย่างเช่น ในไตรมาสที่สองนี้ บริษัทมีรายได้จากผลิตภัณฑ์เครือข่ายที่จำหน่ายทั่วโลก ได้แก่ Trend Micro Network VirusWall เพิ่มขึ้นถึง 232% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะในตลาดสหรัฐฯ, ตะวันออกกลาง, แอฟริกา และญี่ปุ่น ขณะที่ชุดผลิตภัณฑ์ Gateway Suite มียอดจำหน่ายสูงกว่าไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยในยุโรปเพิ่มขึ้นถึง 35% และภูมิภาคเอเชียเพิ่มขึ้น 63%
การเติบโตดังกล่าวส่งผลให้ เทรนด์ ไมโคร มีตำแหน่งที่ดีในตลาด เห็นได้จากการเข้าซื้อธุรกิจใหญ่ถึง 2 ครั้ง ซึ่งล้วนแล้วแต่เข้ามาเพิ่มขีดความสามารถให้กับบริษัทฯ ในการป้องกันภัยคุกคามบนเครือข่ายให้กับลูกค้า โดยเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2548 บริษัทฯ ได้เข้าซื้อบริษัท อินเตอร์มิวท์ (InterMute) ผู้พัฒนาผลิตภัณฑ์ต้านสปายแวร์ชั้นนำ และในเวลาใกล้เคียงกัน บริษัทก็ได้เปิดตัว Trend Micro Anti-Spyware 3.0 และ Trend Micro Anti-Spyware for Small and Medium Businesses 3.0 ต่อมาในวันที่ 14 มิถุนายน 2548 บริษัทฯตัดสินใจเข้าซื้อบริษัท เคลคี อิงค์ (Kelkea Inc.) ผู้พัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการด้านคัดกรองไอพี (IP Filtering)การเข้าซื้อครั้งนี้ ทำให้เทรนด์ ไมโคร สามารถพัฒนาโซลูชั่นเครือข่ายออกมารับมือกับสแปมและภัยคุกคามที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ได้เร็วขึ้น
นางอีวา เชน ซีอีโอของบริษัท เทรนด์ ไมโคร อิงค์ กล่าวว่า “ไตรมาสที่สองของปีนี้ เทรนด์ ไมโครประสบทั้งปัญหาและความสำเร็จ แต่เรายังคงเน้นปรับปรุงคุณภาพของบริการ และขยายธุรกิจให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง การเติบโตอย่างมั่นคงของโซลูชั่นเครือข่าย หุ้นส่วนและพันธมิตร รวมถึงเทคโนโลยีใหม่ และการเข้าซื้อธุรกิจบริการ เป็นเครื่องแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและความสำเร็จในธุรกิจนี้ เนื่องจากเราสามารถเพิ่มขีดความสามารถนการป้องกันภัยคุกคุามที่ซับซ้อนให้กับลูกค้าได้มากขึ้น”
จากข้อมูลที่มีอยู่ในปัจจุบัน คาดว่ายอดขายสุทธิในไตรมาสสามที่สิ้นสุดในวันที่ 30 กันยายน 2548 น่าจะอยู่ที่ 17.2 พันล้านเยน (หรือ 153.6 ล้านดอลลาร์) โดยรายได้จากการดำเนินงาน และรายได้สุทธิ คาดว่าจะอยู่ที่ 6.2 พันล้านเยน (หรือ 55.4 ล้านดอลลาร์) และ 3.75 พันล้านเยน (หรือ 33.5 ล้านดอลลาร์) ตามลำดับ
จุดเด่นของธุรกิจในไตรมาสที่สอง
•การเข้าซื้อครั้งใหม่
เทรนด์ ไมโคร เข้าซื้อบริษัท InterMute Inc. นักพัฒนาผลิตภัณฑ์ต้านสปายแวร์ชั้นนำ และเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ 3 รายการ เพื่อตรวจจับและกำจัดสปายแวร์ และเกรย์แวร์สำหรับองค์กรธุรกิจและผู้บริโภค โดยผลิตภัณฑ์ Trend Micro Anti-spyware ซึ่งมีคุณสมบัติของโปรแกรม CWShredder? หนึ่งในโซลูชั่นที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในการกำจัด CoolWebSearch ที่จะเปลี่ยนลิงค์ของเราไปเป็นลิงค์อื่น รวมถึงภัยร้ายอีกหลายรายการที่สามารถหลบหลีกการตรวจจับและกำจัดของผลิตภัณฑ์ก่อนหน้านี้ได้
เทรนด์ ไมโคร เข้าซื้อบริษท Kelkea Inc.ผู้พัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการด้านการคัดกรองไอพี ส่งผลให้เกิดโซลูชั่น Trend Micro Network Reputation Services ออกมาเพื่อต้านสแปมให้กับลูกค้า บริษัทมีแผนพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อจัดการกับการโจมตีแบบ ฟิชชิง ซอมบี้ และบอทเน็ตส์ โดยจะเพิ่มโซลูชั่นต้าน
สแปมให้ครอบคลุมที่อยู่ไอพีที่มีอยู่กว่า 1.5 พันล้านในขณะนี้
•โซลูชั่นต้านสปายแวร์
เทรนด์ ไมโครเปิดตัวโซลูชั่นใหม่หลายรายการ เพื่อรับมือกับปัญหาสปายแวร์ที่กำลังเพิ่มจำนวนขึ้น รวมถึงยุทธศาสตร์โซลูชั่นแบบหลายชั้น เพื่อดูแลความปลอดภัยเกตเวย์ เครื่องแม่ข่าย และระดับเครื่องลูกข่ายให้กับองค์กร นอกจากนี้ บริษัทยังเปิดตัวผลิตภัณฑ์ต้านสปายแวร์แยกต่างหาก ที่ออกแบบมาเพื่อองค์กรธุรกิจและผู้บริโภคด้วย
ในไตรมาสนี้ เทรนด์ ไมโครถือเป็นบริษัทแรกในอุตสาหกรรมด้านความปลอดภัยที่ได้รับใบรับรอง Checkmark Spyware ซึ่งจะมอบให้กับผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพในการตรวจจับสปายแวร์ โดยได้มาจากผลิตภัณฑ์สองรายการ ได้แก่ Trend Micro OfficeScan? และ Trend Micro PC-cillin? Internet Security Suite
•ผลิตภัณฑ์และนวัตกรรม
ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการเปิดตัวในไตรมาสที่สองของปี 2548 มีดังนี้
Trend Micro InterScan? Web Security Suite 2.5 – โซลูชั่นรักษาความปลอดภัยของเกตเวย์ ที่ออกแบบมาเพื่อปิดกั้นสปายแวร์, เกรย์แวร์, การโจมตีแบบฟิชชิง, ไวรัส และมัลแวร์อื่นๆ ที่เข้าจู่โจมเครือข่ายองค์กรผ่านทางเกตเวย์อินเทอร์เน็ต
Trend Micro OfficeScan v7.0 – โซลูชั่นความปลอดภัยเครื่องแม่ข่ายและลูกข่าย ที่รวมความสามารถด้านการป้องกันภัยคุกคามร้ายแรง พร้อมด้วยแนวทางการบังคับใช้นโยบายและบริการขององค์กร ที่จะทำให้มั่นใจได้ว่าระบบจะทำงานได้อย่างราบรื่น และสร้างผลิตผลให้กับองค์กรได้
Trend Micro Anti-Spyware 3.0 และ Trend Micro Anti-Spyware for Small and Medium Businesses 3.0 – ผลิตภัณฑ์ตรวจจับและกำจัดสปายแวร์และเกรย์แวร์ที่หลบเลี่ยงเก่ง
Trend Micro Mobile Security 2.0 – เพิ่มความสามารถในการป้องกันไวรัส หนอน และภัยร้ายต่างๆ ให้กับหลากระบบปฎิบัติการ รวมถึงระบบปฎิบัติการ Microsoft Windows Mobile 5.0 ด้วย
•จุดเด่นของธุรกิจในระดับโลก
ในเดือนพฤษภาคม 2548 คณะกรรมาธิการการค้านานาชาติ สหรัฐฯ หรือไอทีซี ประกาศคำตัดสินคำร้องของเทรนด์ไมโครที่อ้างการนำเข้าผลิตภัณฑ์ที่ไม่เป็นธรรมของบริษัท Fortinet ผลก็คือ มีคำสั่งห้าม Fortinet นำเข้าผลิตภัณฑ์ FortiGate มายังสหรัฐ
ลูกค้าใหม่และธุรกิจใหม่ในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกเกิดขึ้นมากมาย รวมถึงมหาวิทาลัยการแพทย์แผนจีนกวางโจว ในจีน และบริษัท Chung-Hwa Telecom ในไต้หวัน
ข้อสังเกตเกี่ยวกับแถลงการณ์ล่วงหน้า
แถลงการณ์ในข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ เป็นแถลงการณ์ล่วงหน้าที่อิงมาจากสมมติฐานด้านการจัดการปัจจุบัน และข้อมูลปัจจุบันที่มีอยู่ ซึ่งรวมถึงความเสี่ยงที่รู้และไม่รู้ ตลอดจนความไม่แน่นอนในสภาวะการณ์ต่างๆ ด้วย
อย่างไรก็ตาม มีหลายปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของแถลงการณ์ล่วงหน้าฉบับนี้ อันได้แก่:
•ความยากในการระบุไวรัสสายพันธุ์ใหม่ และปัญหาความปลอดภัยด้านอื่นๆ ของคอมพิวเตอร์
•กำหนดการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ และการไม่ยอมรับในผลิตภัณฑ์ใหม่ของบริษัทจากตลาด
•ความต้องการของตลาดที่มีอย่างต่อเนื่อง และการประมาณการยอดขายจากผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่
•การเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีที่รวดเร็วในอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ต้านไวรัส
•ความต้องการในซอฟต์แวร์ต้านไวรัสของลูกค้าที่เปลี่ยนไป
•ผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ และการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ใกล้เคียงกับผลิตภัณฑ์ของคู่แข่ง รวมทั้งราคาของผลิตภัณฑ์เหล่านั้นด้วย
•ราคาผลิตภัณฑ์และบริการที่ลดลง
•ผลกระทบจากการเข้าซื้อธุรกิจอื่นในอนาคตทั้งเงื่อนไขด้านการเงิน และผลประกอบการ
•ผลกระทบจากแนวโน้มเศรษฐกิจผันผวนในตลาดหลัก
•ผลกระทบจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนของค่าเงินที่มีต่อผลประกอบการ
•ต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากสินค้าที่ถูกส่งกลับ
•การไม่มีเป้าหมายการลงทุนที่น่าดึงดูด
•ความยุ่งยากในการดำเนินยุทธศาสตร์การลงทุนให้สำเร็จ
รายละเอียดเพิ่มเติมด้านความเสี่ยงในอนาคต กรุณาอ้างเอกสารของบริษัทที่ยื่นต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ สหรัฐฯ
บริษัท เทรนด์ ไมโคร อิงค์
บริษัท เทรนด์ ไมโคร อิงค์ เป็นผู้นำด้านซอฟต์แวร์และการบริการด้านการป้องกันไวรัสบนเครือข่าย และการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น และมีหน่วยธุรกิจอยู่ทั่วโลก สำหรับผลิตภัณฑ์ของเทรนด์ ไมโคร ได้จำหน่ายไปยังองค์กรธุรกิจ ตัวแทนจำหน่ายแบบเพิ่มมูลค่า และผู้จัดหาบริการ หากสนใจข้อมูลและชุดทดลองใช้งานของผลิตภัณฑ์จาก
เทรนด์ ไมโครได้ที่ เว็บไซต์ www.trendmicro.com